พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. และ ผบ.ศปก.ตร.สน. ผู้บุกเบิกวางระบบให้กับ “นักรบสีกากี” ในชายแดนภาคใต้ ปลายด้ามขวานของไทย จนมีความเข้มแข็งและสร้างความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่ ด้วยคำกล่าวของ พล.ต.อ.อดุลย์ ต่อหน้าน้องๆที่เคยทำงานด้วยกันหลายต่อหลายครั้งว่า “อย่าทิ้งคนที่ร่วมสู้อยู่เคียงข้าง อย่าลืมคนที่ช่วยสร้างทางยิ่งใหญ่ อย่าละเลยคนที่เคยมีน้ำใจ อย่าลืมเป็นผู้ให้เมื่อได้ดี”ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน เราจึงเห็นปรากฏการณ์ที่มีไม่บ่อยครั้งนักเหล่านักรบสีกากีในอดีตที่เกษียณราชการจำนวนมากตั้งแต่ “หัวหน้าทีม” ผู้เป็นเหมือนแม่เหล็กที่รวมใจน้องที่เคยร่วมรบกันในสมรภูมิชายแดนใต้มาต่อเนื่องไล่ตั้งแต่ พล.ต.อ.อดุลย์ พล.ต.อ.สันติ เพ็ญสูตร อดีต ผบช.ภ.9 ผู้เป็นเสมือนกองหลังดูแลภาค 9 ตอนบนแทนเพื่อน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา อดีตรอง ผบ.ตร. และหัวหน้างานสืบสวนคดีสำคัญ ศปก.ตร.สน.พล.ต.อ.วรพงษ์ หัวหมู่ทะลวงฟันเปิดโฉมหน้าโครงสร้างการจัดทำเนียบรบฝ่ายตรงข้าม และนำทีมปิดคดีสำคัญ รวมถึงพาทีมไปขุดหาปืนที่คนร้ายปล้นค่ายปิเหล็งกระบอกแรก ก่อนติดตามได้ปืนกระบอกอื่นๆตามมา พล.ต.อ.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ อดีตรอง ผบ.ตร. และ ผบช.ศชต. ผู้เป็นเสมือนหัวใจของทีมงานอีกคน ดูแลในส่วนฝ่ายอำนวยการ และการบริหารด้านการเงินให้กับทีม พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. และ ผบก.ป. ยุคที่มีทีมงานเข้มแข็ง มีเหล่า “นักรบสีกากี” ที่เป็นรอง ผบก.ป. ต่อมาเติบโตเป็น ผบ.ตร. ยุคต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ร่วมทีม พล.ต.อ.วินัย ส่งหน่วยคอมมานโด กองปราบปราม ที่ผ่านการฝึกหนักพร้อมรับทุกสถานการณ์เสียสละส่งมาเป็นกองทัพให้ พล.ต.อ.อดุลย์ วางรากฐานให้กับชุดแดนไทยของ ศปก.ตร.สน. จนถึงปัจจุบันพล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ อดีตนักสืบผู้มากบารมีแห่งปากน้ำโพ เป็นผู้วางรากฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษให้กับ ศปก.ตร.สน. ทบทวนบทเรียนการรบให้ทีมนักรบสีกากีเป็นระบบ พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย อเนกเวียง อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ผบช.สันติบาล และ ผบก.สพฐ.10 นักสืบที่มากฝีมือมากประสบการณ์ เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการงานสืบสวนคดีสำคัญ เป็นมือไม้ พล.ต.อ.วรพงษ์และ พล.ต.อ.อดุลย์ ขณะนั้นทำให้มีผลงานมากมายพล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เป็นนักสืบที่ผันตัวเองไปเป็นนักวิทยาศาสตร์ นำงานสืบสวนเข้าไปช่วยพัฒนาหน่วยกองพิสูจน์หลักฐานภาคใต้ เสมือนเป็นหน่วยงาน CSI ของประเทศสหรัฐอเมริกาพล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ อดีต ผบช.ภ.9 และ ผบก.ภ.จ.ยะลา มือไม้สำคัญ พล.ต.อ.อดุลย์ ตั้งแต่ยุคปราบปราม ผกค.ที่ อ.นาแก จ.นครพนม ผู้ที่เสียสละไม่ยอมไปพักช่วงท้ายตำแหน่ง ยอมเหนื่อยและสู้ต่อจนเกษียณตำแหน่ง ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ อดีต ผบช.ตชด. ช่วยฝ่ายแผนและยุทธการ พล.ต.ท.วันชาติ คำเครือคง อาจารย์วิชาแผนของ กรมตำรวจ และ ตชด. มือแผนยุทธการมือหนึ่งของเหล่านักรบสีกากีพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ อดีต ผบช.ภ.9 นักรบที่ทำงานในภาคใต้ก่อนพี่ๆ ตั้งแต่เป็น ผกก.คลุกคลีในสนามรบ เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการงานสืบสวนคดีสำคัญจนมาเป็น ผบช.ภ.9 เกษียณในตำแหน่ง ผู้ที่วางรากฐานงานทั้งระบบตลอด 5 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง จนสถานการณ์คุมได้ดี เป็นน้องเล็กของทีมที่เพิ่งเกษียณราชการพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และหัวหน้าชุดสืบสวนคดีสำคัญ ที่ยังไม่เกษียณอายุราชการ ที่อยากเข้าร่วมให้กำลังใจลูกน้องจังหวัด ชายแดนภาคใต้ แต่ติดภารกิจสำคัญที่ จ.ระยอง มาด้วยไม่ได้จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันตำรวจเสียชีวิต 443 นาย ได้รับบาดเจ็บ 2,152 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยติดเตียง 4 ราย พิการทุพพลภาพกว่า 48 รายที่อยู่ในพื้นที่ พล.ต.อ.อดุลย์ รวบรวมเงิน 1.3 ล้านบาท สิ่งของจำเป็นจาก บริษัท เบอร์รี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บิ๊กซี และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เยี่ยมบำรุงขวัญทายาทตำรวจที่เสียชีวิตจากปฏิบัติหน้าที่ 45 ราย ตำรวจได้รับบาดเจ็บป่วยติดเตียง 4 ราย ตำรวจที่บาดเจ็บทุพพลภาพตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบันที่อยู่ในพื้นที่ 37 ราย ตำรวจทหารได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สงขลานครินทร์ 4 ราย หน่วยตำรวจในพื้นที่ บช.ภ.9 บก.ภ.จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ตชด. กองบินตำรวจ สพฐ.10 และหน่วยแพทย์ 15 หน่วย พล.ต.อ.อดุลย์ ทำทีมเข้าเยี่ยม ดร.สะมะแอ ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา คณะผู้บริหารโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ และกราบนมัสการ เจ้าอาวาสวัดเมืองยะลา พระอารามหลวง กราบเคารพสรีระ พ่อท่านฉิ้น โชติโก อดีตเจ้าอาวาสวัดเมือง สหายธรรมผู้ร่วมสร้างหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปี 2497 กับอาจารย์ทิม วัดช้างให้และอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระเกจิชื่อดังเจ้าอาวาสวัดเมือง ขณะที่ทำหน้าที่ ศปก.ตร.สน.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. กล่าวว่า “วันนี้ได้เกษียณมาแล้ว 8 ปี แต่ยังคงมีความรัก ความห่วงใย น้องๆที่ยังทำหน้าที่อยู่ตรงนี้ อยากลงมาให้กำลังใจในการทำหน้าที่ด้วยความสำนึกในการทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งที่ทำกันอยู่นี้เป็นงานที่มีเกียรติและเป็นงานที่เสียสละอย่างยิ่ง เพราะเป็นพื้นที่ที่อันตรายและก็เคยเป็น ผบ.ตร.อดีตผู้บัญชาการและน้องๆ ด้านหลังเป็นอดีตผู้บัญชาการที่นี่ด้วย ดีใจมากที่เจอลูกน้องเก่าผมติดตามสถานการณ์มาโดยตลอดสถานการณ์ดีขึ้นไม่ค่อยมีเหตุการณ์น่าเป็นห่วงหรือมีบางช่วงดีขึ้นกว่าปี 2547–2550 คงต้องใช้เวลา พวกเราต้องทำงานเชิงรุกกันต่อไป ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับหน่วยและกำลังพล มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมตามบรรทัดฐานกระบวนการยุติธรรมอย่างเข้มข้น ผู้ที่ทำผิดต้องได้รับการลงโทษ ผมจะเป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอบคุณที่เสียสละเพื่อประชาชน เพื่อนำความสงบมาสู่พื้นที่ และพวกเราสัญญากันแล้วว่าพวกเราจะ “ไม่ทอดทิ้งกัน” จะดูแลกันต่อไป”การลงพื้นที่เยี่ยมลูกน้อง ครอบครัวและทายาทผู้ที่ได้รับผลกระทบสูญเสียหัวหน้าครอบครัวจากเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ มีเสียงขอบคุณคุณ พิมพ์ชนา ภูวพงษ์ ภรรยาของ “จ่าเพียร” พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา วีรบุรุษผู้กล้าแห่งเขาบูโด ที่ว่า “พวกเราขอขอบคุณท่านอดุลย์และคณะอดีตผู้บังคับบัญชามากๆที่ไม่ลืมลูกน้องชั้นผู้น้อยที่ทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านเป็น ผบ.ตร.เป็นนายที่ห่วงใยลูกน้อง ร่วมสู้ เคียงบ่า เคียงไหล่และไม่เคยทิ้งลูกน้อง ตั้งแต่ท่านย้ายไปแต่ท่านก็ยังมีความห่วงใย และยังเดินทางมาเยี่ยมเยียนและมอบเงินและสิ่งของเป็นประจำทุกปี พวกเราครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของท่านที่มีต่อข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติหน้าที่”นี่คือตัวอย่าง “นาย” ที่ไม่เคยทอดทิ้งลูกน้องที่เคยร่วมสู้อยู่เคียงข้างและไม่เคยลืมคนที่ช่วยสร้างทางยิ่งใหญ่เจริญเติบโตในหน้าที่การงาน ได้เป็น ผบ.ตร.เป็นรัฐมนตรี นอกจากนี้ไม่เคยละเลยคนที่มีน้ำใจและไม่เคยลืมเป็นผู้ให้เมื่อได้ดี สมดังที่กล่าวไว้สมควรที่ตำรวจรุ่นหลังยึดถือเป็นแม่แบบและเดินตามรอยที่นำทางไว้ให้เดินตามแล้ว...ถ้าทำได้สังคมก็จะสงบสุขอย่างแน่นอน.ทีมข่าวอาชญากรรม