ตำรวจออกหมายจับเดนคุก “มอส คลองขวาง” ก่อเหตุฉกรรจ์รัวยิง 16 นัดถล่มบ้านคู่กรณี กระสุนเข้าหัวเหยื่ออาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน สาเหตุแค่ไม่พอใจกลุ่มผู้เสียหาย เพราะเอือมนิสัยชอบความรุนแรงและเคี้ยวยาลิ้นฟ้าจนหลอน หลังก่อเหตุโชว์พฤติกรรมท้าทายตำรวจ โทรศัพท์มาเยาะเย้ยเหยื่อระหว่างให้การ ตรวจสอบประวัติเพิ่งพ้นคุกคดีชิงทรัพย์ท้องที่ สน.ทองหล่อ ผบช.น.กำชับชุดไล่ล่าใช้ความระมัดระวัง เพราะคนร้ายพกปืนติดตัวตลอดเวลา แม่เหยื่อโอดลูกอาการร่อแร่เป็นตายเท่ากัน อยากให้ตำรวจรีบจับผู้ต้องหามารับผิดชอบกรณีคนร้ายบุกยิงถล่มบ้านเลขที่ 78/162 หมู่บ้านเพชรทวีสุข ถนนเพชรเกษมซอย 106 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พร้อมพนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. กระจายเกลื่อนหน้าบ้าน 16 ปลอก ส่วนตัวบ้านทั้ง 2 ชั้น มีหัวกระสุนและชิ้นส่วนกระสุนฝังอยู่ตามกำแพง ฝ้าเพดาน และข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 คน พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลวิชัยเวช ทราบชื่อนายธนพล หรือบุ๊ค อนุสรชัยเจริญ อายุ 27 ปี อาชีพพ่อค้ารถมือสอง เพื่อนสนิทเจ้าของบ้านถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้านหลัง 1 นัด ท้ายทอย 1 นัด และเท้าขวา 1 นัด รวม 3 นัด อาการเป็นตายเท่ากันรักษาตัวอยู่ห้องไอซียูน.ส.วรรณวิศาข์ หรือกัส กลิ่นจำปา อายุ 30 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ตัวเองกับสามีและนายธนพล ผู้ได้รับบาดเจ็บ ประกอบธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองด้วยกัน สนิทกันจนติดโควิดคลัสเตอร์เดียวกันจึงมากักตัวอยู่ในบ้าน นอกจากนี้ยังมีน้องมิลิน ลูกสาววัย 7 ขวบของตนอยู่ในบ้านด้วย ช่วงเกิดเหตุมือปืนคือนายมีน พาระสิงห์ หรือมอส คลองขวาง อายุ 25 ปี คนเคยรู้จักกัน แต่ช่วงหลังไม่คบหาสมาคมด้วยเพราะมีพฤติกรรมชอบความรุนแรง และชอบเคี้ยวยาโรฮิปนอล 542 หรือยาลิ้นฟ้าตลอดเวลา จนมักเกิดอาการหลอน เดินทางมาหน้าบ้านพร้อมสมุนอีกคน ชักปืนกระหน่ำยิงดะใส่บ้านหูดับตับไหม้รวม 16 นัด ก่อนขี่รถ จยย.หลบหนีไป สาเหตุเพราะมีเรื่องขัดใจกับนายธนพล เหตุเกิดเวลา 22.00 น. วันที่ 11 ส.ค.ความคืบหน้าจาก บก.น.9 เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 14 ส.ค. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึงผบก.น.9 เผยถึงการติดตามล่าตัวนายมีน พานะสิงห์ หรือ “มอส คลองขวาง” อายุ 25 ปี ว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้ ร.ต.อ.ธราธร วาสนาจรัส รอง สว. (สอบสวน) สน.หนองค้างพลู เจ้าของคดีเร่งรัดสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐาน สามารถขออนุมัติหมายศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.368/2565 ลงวันที่ 12 ส.ค.65 ได้แล้ว ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนเพื่อนที่ร่วมกันก่อเหตุตามภาพจากกล้องวงจรปิดอีก 1 คน อยู่ระหว่างยืนยันตัวบุคคลและตามตัวมาดำเนินคดีเช้าวันเดียวกัน น.ส.ฐิติรัตน์ อนุสรณ์ชัยเจริญ อายุ 56 ปี แม่นายธนพล หรือบุ๊ค อนุสรณ์ชัยเจริญ เหยื่อกระสุน เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 78/162 หมู่บ้านเพชรทวีสุข ถนนเพชรเกษมซอย 106 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. จุดเกิดเหตุ เผยว่า แม่มีลูกคนเดียวทำอาชีพขายรถมือสอง พฤติกรรมของมือปืนโหดร้ายมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำกันขนาดนี้ เพราะบุ๊คทำมาหากินตลอด ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรกันบ้าง เพราะปัญหาส่วนตัวลูกไม่เคยเล่าให้ฟัง แม่รับไม่ได้ ไม่คิดว่าลูกจะต้องไปแบบนี้ ช่วงเช้าวันเกิดเหตุยังคุยถามไถ่อาการไม่สบายกันอยู่ มาทราบข่าวเพราะเพื่อนลูกโทร.มาบอกว่าบุ๊คอยู่โรงพยาบาล ไปถึงได้รับแจ้งว่าอาการไม่ดี หลังผ่าตัดหมอบอกให้แม่ทำใจ เพราะกะโหลกแตกมีเศษกระสุนฝังกระจายอยู่ในแกนสมอง เปอร์เซ็นต์รอด น้อย ต้องดูอาการ 5 วันให้มีการตอบสนอง ถ้ารอดอาจไม่เหมือนเดิม อาจเป็นเจ้าชายนิทราหรือกล้ามเนื้อ อ่อนแรง เรายอมรับได้ไม่ว่าลูกจะกลับมาสภาพไหน“แต่ช่วง 2 วันมานี้หมอโทร.แจ้งตลอดให้เตรียมเอกสารให้น้องและเตรียมเสื้อผ้าที่น้องชอบใจแม่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไปเยี่ยมน้องและขอหมอวิดิโอคอลกับน้อง บอกน้องว่า บุ๊คกลับมาหาแม่ บุ๊คสัญญาว่าจะดูแลแม่จะไปจากแม่ได้ยังไง วันที่ 8 ต.ค.นี้ น้องจะอายุ 28 ปี อยากฝากบอกผู้ก่อเหตุว่าให้รับผิดชอบหน่อย แม่มีลูกคนเดียว รับไม่ได้หลายเรื่อง มีอะไรทำไมไม่คุยกันดีๆ อยากให้ตำรวจพาตัวคนร้ายออกมารับผิดชอบให้ได้โดยเร็ว” นางฐิติรัตน์กล่าวทั้งน้ำตาด้านแนวทางการสืบสวน พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.หนองค้างพลู และ กก.สส.บก.น.9 ตรวจสอบประวัตินายมีน หรือมอส คลองขวาง ผู้ต้องหา ทราบว่า เมื่อปี 2559 เคยถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมข้อหาร่วมกับพวกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ติดคุกเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน พฤติกรรมชอบพกปืนตลอดเวลา พยานปากสำคัญเป็นเพื่อนในกลุ่มระบุว่า นายมีนชอบพกปืนบรรจุกระสุนลูกดกขนาด 9 มม. ยี่ห้อซิกซาวเออร์ P320 เป็นปืนมีทะเบียนแต่ยังไม่ได้ทำเรื่องรับโอนหลังเกิดเหตุชุดสืบสวนตามไล่ล่านายมีนไปที่บ้านย่านคลองขวาง ซอยเพชรเกษม 69 แต่ไม่พบ ประกอบกับเจ้าตัวปิดเฟซบุ๊กและทุกช่องทางติดต่อสื่อสารหายไปพร้อมรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ สีเหลือง ทะเบียน 1 กฬ 8774 กรุงเทพมหานคร ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุเชื่อว่าคือ นายฟลุ๊ค (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) อายุประมาณ 20-23 ปี ลูกน้องคนสนิท อยู่ระหว่างหาเบาะแสตามตัวมาดำเนินคดีเช่นกัน นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ยังสั่งกำชับให้ชุดจับกุมใช้ความระมัดระวังในการเร่งตามล่าตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เนื่องจากคนร้ายมีปืนพร้อมต่อสู้ตลอดเวลามีรายงานด้วยว่า นายมีนผู้ต้องหานอกจากมีพฤติกรรมพกอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังเป็นคนมีพวกมาก ฝ่ายสืบสวนเชื่อว่าขณะนี้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปอยู่กับเพื่อนสนิทบางกลุ่ม เนื่องจากมีเบาะแสว่า คืนวันก่อเหตุหลังสาดกระสุนใส่บ้านคู่กรณีแล้ว ยังกล้าท้าทายคู่กรณีด้วยการโทรศัพท์ติดต่อกลับมาเพื่อติดตามผลงาน ระหว่างที่คนในบ้านกำลังให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขณะอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่เสียงดังเอะอะโวยวายพูดจาด่าทอและท้าทายคนในบ้านตลอดเวลา