ฝนถล่มหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลบ่า ท่วมพื้นที่ 3 ตำบล ใน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ บ้านเรือนจมน้ำนับร้อยหลัง โรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก 3 แห่งสั่งปิดชั่วคราวพิษณุโลกอ่วมไม่แพ้กัน น้ำป่าทะลักท่วม 2 ตำบล ใน อ.เนินมะปราง พื้นที่การเกษตรจมน้ำเป็นบริเวณกว้าง นายอำเภอขอสนับสนุนเรือท้องแบน 2 ลำเตรียมพร้อมอพยพคนและขนย้ายข้าวของ ประเทศเมียนมาเกิดแผ่นดินไหวข้ามคืนกว่า 90 ครั้ง รุนแรงขนาดจุดศูนย์กลางห่าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ราว 87 กม. รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ 3 ครั้ง ขนาด 5.1-6.4 แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. หลังเกิดฝนตกหนักหลายวันติดต่อกันในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ทำให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงคลองลงซับเปิบ-วังโป่ง ล้นทะลักท่วมพื้นที่ ต.วังโป่ง ต.วังหิน และ ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบหลายร้อยหลังคา โดยเฉพาะ หมู่ 11 กับหมู่ 9 ต.วังโป่ง บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมราว 300 หลัง ระดับน้ำสูง 50-60 ซม. บางจุดน้ำท่วมสูงถึงหน้าอก ถนนในหมู่บ้านน้ำท่วมสูง ร่วม 1 เมตร รถใหญ่ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ชาวบ้านต้องใช้รถไถและรถทางการเกษตรในการเดินทาง โรงเรียน 2 แห่ง คือโรงเรียนอนุบาลวังโป่ง โรงเรียนบ้านไร่ฝายและศูนย์เด็กเล็ก อบต.วังโป่ง สั่งปิดชั่วคราว พื้นที่การเกษตรเสียหายนับพันไร่ ขณะเดียวกัน ที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ที่ไหลลงคลองวังโพรง-วังยาง เอ่อท่วมพื้นที่หมู่ 3 ต.วังยาง และ หมู่ 4 หมู่ 7 และหมู่ 8 ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 10 หลังคาเรือน รวมทั้งที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง นายไสว เจริญศรี นายอำเภอเนินมะปราง นายทวีศักดิ์ ล่อกา ปลัดอำเภอ นายฝ้าย มหาสัตย์ นายก อบต.วังโพรง พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือ พร้อมประสานขอสนับสนุนเรือท้องแบน 2 ลำจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 เตรียมพร้อมอพยพคนและขนย้ายข้าวของต่อมาบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน ลงพื้นที่หมู่ 7 ต.วังโพรง เพื่อช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ซม. และ ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ พบนางป้อง ศรีผ่องใส อายุ 68 ปี ขาข้างซ้ายไม่สามารถเดิมฝ่าน้ำท่วมได้ พักอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่อุ้มนางป้องเดินลุยน้ำท่วมออกจากบ้านไปอยู่ที่ปลอดภัย เกรงจะเป็นอันตรายเนื่องจากคาดว่าในช่วงค่ำฝนอาจตกลงมาอีก ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้น แม้ว่าสถานการณ์ ยังไม่น่าห่วง แต่ระดับน้ำในลำน้ำเข็กเพิ่มขึ้นสูงกว่าวิกฤติ 20 ซม.แล้ว ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน นายมัญญา นาคพน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปิง (น้ำตกก้อหลวง) กล่าวว่าเมื่อช่วงตีสามเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 30 มิลลิลิตร ทำให้น้ำป่าไหลลงน้ำตกก้อหลวงจนน้ำที่เคยใสมองดูเป็นสีเขียวมรกตกลายเป็นน้ำสีขุ่นและไหลรุนแรง จึงประกาศปิดน้ำตกก้อหลวงไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. และจะเปิดให้บริการอีกครั้งวันที่ 1 ต.ค. เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวพอดีด้านนายสันติพันธ์ พันธุ์ขัน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ (เขื่อนพิมาย) อ.พิมาย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ฝนที่ตกหนัก 5-6 วัน ทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำฉมวก ต.นิคม อ.พิมาย ล้นสปิลเวย์ ไหลบ่าลงลำน้ำมูลลงสู่เขื่อนพิมายจนเกินความจุ ต้องเร่งระบายน้ำออกโดยยกประตูระบายน้ำด้านคลองชลประทานไป ต.กระชอน ต.ดงใหญ่ ต.ชีวาน และ ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ป้องกันน้ำท่วมแหล่งโบราณสถาน และพื้นที่เศรษฐกิจ อ.พิมาย ขณะที่นายเศรษฐี แพรกนัทที ปลัดอาวุโส อ.พิมาย กล่าวว่า มวลน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนพิมายยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน แต่ได้แจ้งเตือนไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านใน อ.พิมาย ให้เฝ้าจับตาระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดหวั่นน้ำเอ่อท่วมไร่นาพืชสวนทางการเกษตรในที่ลุ่มเสียหายส่วนการค้นหาคนงานเมียนมาจมหายไปกับกระแสน้ำ หลังรถกระบะฟอร์ด ทะเบียน ยข 7590 ชลบุรี ถูกน้ำซัดตกสะพานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ หมู่ 4 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นเหตุให้นายเพียว ไวทุน คนงานเมียนมา จมน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ก.ค. นายมะลิ กลั่นด้วง นายก อตบ.เขาคันทรง พ.ต.ต.มนต์เทพ ปัญญายงค์ รรท.สวป.สภ.บ่อวิน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมค้นหาผู้สูญหาย ทราบชื่อนายโมว วิน อายุ 47 ปี โดยแบ่งกำลังเป็น 3 ชุดเดินค้นหาแบบปูพรม จนพบศพห่างจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร ส่งศพไปชันสูตร รพ.แหลมฉบัง ก่อนมอบให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ระบุว่าช่วงฤดูฝนนี้ กำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมการล่วงหน้า ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก และพร้อมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทันที แม้เรื่องฟ้าฝนเราจะควบคุมไม่ได้ แต่ความช่วยเหลือต้องไปถึงหน้าบ้านให้เร็วที่สุด รวมถึงต้องหาวิธีเติมน้ำเข้าเขื่อนไว้ใช้หน้าแล้งช่วงปลายปีต่อไปด้วย และฐานะ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศ รวมทั้งใน กทม.และปริมณฑล นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่างๆ เช่น เรือท้องแบน รถบรรทุกยกสูง ออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรอการร้องขอด้าน พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ย้ำทุกเหล่าทัพ และตำรวจ สนับสนุนฝ่ายปกครอง และ กทม. ดำเนินการตามแผนบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม โดยนายกฯกำชับให้ประสานฝ่ายปกครอง และ สทนช. ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย สนับสนุนแจ้งเตือนและให้การช่วยเหลือประชาชนทันที โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนและสถานศึกษา รวมทั้งอำนวยความสะดวกการสัญจรของประชาชน สำหรับในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ขอให้หน่วยทหารในพื้นที่และตำรวจ เตรียมกำลังพลและเครื่องมือสนับสนุนและทำงานร่วมกับ กทม. แก้ปัญหาพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง เปิดทางน้ำช่วยระบายน้ำ ขนย้ายขยะมูลฝอยที่ขวางทางน้ำ และอำนวยความสะดวกการจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในภาพรวม กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ตั้งแต่เวลา 23.04 น. วันที่ 21 ก.ค.-15.02 น. วันที่ 22 ก.ค. รวม 90 ครั้ง ความรุนแรงตั้งแต่ 2.2-6.4 มี 3 ครั้ง สามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ เมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 21 ก.ค. เกิดแผ่นดินไหวบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 80 กม. ขนาด 5.1 ความลึก 4 กม. เมื่อเวลา 00.07 น. วันที่ 22 ก.ค. บริเวณทิศตะวันออก เฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 87 กม. ขนาด 6.4 ความลึก 3 กม. และเวลา 05.00 น. บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 82 กม. ขนาด 5.3 ความลึก 4 กม.น.ส.บัวทอง สุขศรี บ้านเป็นตึกแถว 3 ชั้นใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า ก่อนเที่ยงคืนนอนอยู่ในห้องนอนชั้น 3 รู้สึกเตียงสั่นแต่ไม่เอะใจ จนเวลา 00.07 น. แผ่นดินไหวมากขึ้น ทำให้ตกใจลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนีแต่สักพักก็หยุดไหว ทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน จนมารู้สึกว่าบ้านไหวอีกครั้งตอนตีห้า ส่วนข้าวของในบ้านไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงผลกระทบเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาว่า รู้สึกแรงสั่นสะเทือน 14 อำเภอ มี อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.แม่จัน อ.เมือง อ.ดอยหลวง อ.ขุนตาล อ.เวียงชัย อ.ป่าแดด อ.แม่ลาว อ.พาน อ.แม่สรวย อ.พญาเม็งราย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ปภ. และ อปท.ออกสำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะตามอาคารสูงเช่น โรงแรม คอนโดฯ บ้านเรือน อาคารหน่วยงานราชการ พระธาตุโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ส่วนมากจะมีเพียงบ้านเรือน กระจกหน้าต่าง สั่นไหวช่วงระยะสั้นๆเท่านั้นกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. เวลา 00.07 น. เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 6.4 ที่ระดับความลึก 3 กม. มีจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวห่างจากเมืองเชียงตุง รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นระยะทาง ประมาณ 27 กิโลเมตร และห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 87 กม. สาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของกลุ่มรอยเลื่อน Wan Ha มีการเลื่อนตัวในแนวระนาบเหลื่อมซ้าย (Left lateral strike-slip fault) มีแนวการวางตัวในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน และอุดรธานี เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ทั้งนี้กรมทรัพยากรธรณีได้ให้คำแนะนำแก่เครือข่ายฯ และประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเฝ้าระวังต่อไป