“บิ๊กแจง” ผบช.สอท. ลั่นไม่ปล่อยไว้แน่ หากคิดผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ยังมีเว็บไซต์ลามกที่ต้องเฝ้าระวังจับตาอีกจำนวนมาก อีกมุม “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” รองประธาน กมธ.เด็ก เยาวชน สตรีฯ เสนอให้รัฐบาลยอมรับความจริงต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ อย่าทำให้ผู้ให้บริการทางเพศกลายเป็นผู้ผิดต่อกฎหมาย นำไปสู่การลงใต้ดินยากต่อการควบคุมและเป็นช่องทางเรียกรับผลประโยชน์ยังเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในแง่ของความถูก-ผิดตามความหมายของศีลธรรมอันดีงามของสังคมไทย หลังตำรวจ บช.สอท.บุกรวบเซ็กซ์ ครีเอเตอร์ สาวคนดัง “น้องไข่เน่า” วัย 19 ปี แห่ง onlyfans พร้อมแฟนหนุ่มตามหมายจับคาโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ หลังทั้งคู่ถ่ายทำคลิปสยิว 18+ แลกกับเงินค่าเข้าชม ก่อนทั้งคู่ได้รับการประกันตัวไปภายใต้เงื่อนไขห้ามกระทำผิดซ้ำและมาพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย จนเกิดความคิด 2 ฝ่าย มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำสุดขั้วของวัยรุ่นคู่นี้ความคืบหน้า ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.ย. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.เปิดเผยว่า กรณีของ “น้องไข่เน่า” ยังมีอีกหลายเว็บไซต์ลามกที่เป็นกลุ่มลับกลุ่มปิด ที่ต้องเฝ้าจับตาติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ขอเตือนบุคคลที่ตัดสินใจกระทำ ให้หยุดเผยแพร่หรือผลิตสื่อลามกอนาจาร อันเป็นการกระทำขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสังคม หากพบพฤติกรรมดังกล่าว ตำรวจ บช.สอท.จะเร่งสืบสวนจับกุมอย่างเด็ดขาดอีกด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร และอดีตรองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีตำรวจ บช.สอท. เข้าจับกุม “น้องไข่เน่า” เซ็กซ์ ครีเอเตอร์ คนดังพร้อมแฟนหนุ่ม ว่าไม่เห็นด้วยกับการไล่จับผู้กระทำความผิด เป็นรายบุคคล หากตำรวจต้องการคุ้มครองเยาวชนและป้องกันมิให้เกิดความรุนแรงทางเพศ อาจต้องหันมามองความจริง ด้วยการผลักดันแก้กฎหมายคุ้มครองผู้ให้บริการทางเพศและกำหนดเงื่อนไขการเข้าถึงการให้บริการทางเพศทั้งระบบนายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า เมื่อครั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาข่มขืนกระทำชำเรา พบปัญหานี้มีปัจจัยหลายด้าน กมธ.จึงเสนอให้แก้ไขปัญหาเป็นระบบ ตั้งแต่การแก้ไขกฎหมายอาญา รวมทั้งความเป็นไปได้ในการแก้ไข พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้า ประเวณี พ.ศ.2539 และการศึกษาเรื่องเซ็กซ์ทอย ที่จะนำไปสู่การลดความรุนแรงทางเพศ แต่ยังไม่เห็นท่าทีแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจากรัฐบาล เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ทำคลิป 18+ หลายรายที่ทำผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศ ยืนยันตรงกันว่าลักษณะงานที่เขาทำเป็นอาชีพ เป็นงานให้บริการทางเพศ หรือ sex worker เพียงแต่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีฯ ยังกำหนดห้ามไว้ การปลดล็อกหรือยกเลิกกฎหมายดังกล่าวถือเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหา เพราะการทำให้อาชีพนี้ขึ้นมาบนดินโดยมีกฎหมายรองรับและอยู่ภายใต้การกำกับดูแล น่าจะแก้ปัญหาการล่อลวงเด็กและเยาวชน การค้ามนุษย์ การเรียกรับสินบน ตลอดจนลดปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศได้ดีกว่า“แทนที่รัฐและผู้บังคับใช้กฎหมายจะแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศในสังคมอย่างเป็นระบบ แต่กลับเลือกไม่ยอมรับความจริง พยายามทำให้ผู้ให้บริการทางเพศไม่มีตัวตน เป็นผู้ผิดต่อกฎหมาย จนนำไปสู่การลงใต้ดินยากต่อการควบคุมและเป็นช่องทางการเรียกรับผลประโยชน์ ท้ายสุดปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราหรือการล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้ลดลง ท่านอาจหยุดยั้งศีลธรรมบางอย่างที่ท่านเชื่อเช่นนั้นได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่อาจหยุดยั้ง ความเปลี่ยนแปลงได้” นายณัฐวุฒิกล่าว