ตำรวจคุมตัวป้าฝังซ่อนศพ “น้องเดีย” วัย 2 ขวบ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างทำไปเพราะ กลัวความผิด ส่วน “ปวีณา” พาพ่อแม่เด็กไปรับศพที่สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ ผลการตรวจพิสูจน์ยังไม่ระบุสาเหตุเพราะร่างกายยุบตัวเปลี่ยนสภาพตายมานานกว่า 5 วัน ต้องส่งชิ้นเนื้อไปตรวจในห้องแล็บ ขณะที่พ่อน้องเดียยังติดใจ ในคดี ไม่เชื่อว่าก่อเหตุคนเดียวจากเหตุสะเทือนใจที่นายอำพล ลืมบางใหญ่ อายุ 34 ปี และนางสุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี สองผัวเมียนำลูกสาว 2 คน ชื่อ ด.ญ.โม อายุ 4 ขวบ และ ด.ญ.เดีย อายุ 2 ขวบ จ้างนางรุ้งลาวัลย์ พุ่มบัว อายุ 40 ปี พี่สะใภ้ ให้เลี้ยง ด.ญ.โม และ ด.ญ.เดีย ที่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี แต่จังหวะที่นางรุ้งลาวัลย์ออกไปซื้อของปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังกับ ด.ญ.จิว อายุ 13 ปี ลูกสาวนางรุ้งลาวัลย์ ด้วยความซุกซนเด็กทั้งคู่ไปเล่นน้ำในบ่อซีเมนต์ ทำให้ ด.ญ.เดียจมน้ำเสียชีวิต ภายหลังนางรุ้งลาวัลย์กลับบ้านรู้ว่าหลานเสียชีวิต กลัวความผิด นำศพหลานไปฝังดินในป่าไร่อ้อยห่างจากบ้าน 2 กม. แล้วขี่รถ จยย.พา ด.ญ.จิว และ ด.ญ.โม นั่งซ้อนท้ายหนีไปเช่าบ้านอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ชาวบ้านเห็นสิ่งผิดสังเกต และมีข่าวเด็กหายรีบแจ้งตำรวจจับกุม นางรุ้งลาวัลย์สารภาพว่า กลัวความผิดที่ประมาทปล่อยให้หลานจมน้ำตาย นำร่างไปฝังดินอำพรางคดี ขณะที่ตำรวจ สภ.โพธาราม ไปรับตัวมาดำเนินคดีแล้วความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รอง ผบก.ภ.จ.ราชบุรี รรท.ผกก.สภ.โพธาราม พร้อมพนักงานสอบสวน ตำรวจฝ่ายสืบสวน และตำรวจควบคุมฝูงชนคุมตัวนางรุ้งลาวัลย์ พุ่มบัว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านมาเฝ้าดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ต้องกันไม่ให้เข้าใกล้ตัวผู้ต้องหา จุดแรกที่บ้านของนางรุ้งลาวัลย์ เลขที่ 23/2 หมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม เป็นจุดที่นำ ด.ญ.เดียมาประแป้งนอนเพราะเข้าใจว่าเด็กสลบไปเท่านั้น เมื่อรุ่งเช้าเด็กตัวแข็งเสียชีวิตนำเชือกมัดศพใส่ถุงดำและถุงปุ๋ยไปฝังดิน จุดที่ 2 นางรุ้งลาวัลย์นำศพไปฝังที่ป่าไร่อ้อยห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. ใช้จอบขุดดินฝังศพแล้วกลับบ้านพาลูกสาวอายุ 13 ปี และ ด.ญ.โม ซ้อนท้ายขี่รถ จยย.ไปที่ จ.เพชรบูรณ์ กระทั่งถูกจับกุมภายหลังทำแผนฯเสร็จ นางรุ้งลาวัลย์เปิดเผยว่า ไม่มีเจตนานำศพ ด.ญ.เดียไปฝังดินเพื่ออำพรางคดี แต่ตกใจและทำอะไรไม่ถูก ตัดสินใจก่อเหตุไม่ได้เตรียมการอะไร ส่วนที่เลือกนำร่าง ด.ญ.เดียมาฝังดิน ที่ป่าไร่อ้อยเพราะเป็นสถานที่ที่มาเกี่ยวหญ้าให้วัวกินอยู่เป็นประจำ หลังเกิดเหตุตนพยายามหลอกตัวเองว่าน้องเดียยังมีชีวิตอยู่ ช่วงนั้นตนหลอกลูกสาวและ ด.ญ.โม ว่าพ่อน้องเดียมารับไปเที่ยว แต่เมื่อเด็กทั้ง 2 คนรู้ความจริงว่าน้องเสียชีวิตแล้วต่างร้องไห้โฮด้าน พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รอง ผบก.ภ.จ.ราชบุรี รรท.ผกก.สภ.โพธาราม กล่าวว่า นางรุ้งลาวัลย์ยังให้การเหมือนเดิม เกิดจากความประมาท ไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่เพราะเกิดความกลัวจึงนำศพไปฝัง ตำรวจแจ้งข้อหาทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่วนศพน้องเดีย เจ้าหน้าที่นำส่งไปตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจต่อมาเวลา 14.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี พร้อมนายอำพล ลือบางใหญ่ อายุ 34 ปี และนางสุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี พ่อแม่ ด.ญ.เดีย เดินทางไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหลักหกรัตนาราม ต.ท่านัด อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และเข้าพบ พ.ต.อ.วาที อัศวุฒมางกุร รอง ผบก.สถาบันนิติเวชฯ เพื่อขอทราบผลการตรวจพิสูจน์ศพพ.ต.อ.วาทีกล่าวว่า ผลการผ่าชันสูตรศพ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ ด.ญ.เดีย เนื่องจากสภาพศพมีการยุบตัวและเปลี่ยนสภาพมาก เพราะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ส่วนสภาพร่างกายภายนอกยังไม่พบบาดแผลที่นำไปสู่การเสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่นิติเวชส่งชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน อาทิ ปอด ตับ และหัวใจ ไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดต้องใช้เวลาประมาณ 30 วันถึงจะทราบผล ทำให้ยังบอกไม่ได้ว่า ด.ญ.เดียจมน้ำหรือไม่ แต่ถ้าหากจมน้ำจริงจะต้องมีคราบน้ำ และตะไคร่อยู่ภายในชิ้นเนื้อที่ส่งตรวจอย่างแน่นอนนายอำพลเปิดเผยว่า ยังติดใจเรื่องการเสียชีวิตของลูก เพราะพฤติกรรมของพี่สะใภ้น่าสงสัย หลังลูกเสียชีวิตทำไมไม่พาไปส่งโรงพยาบาลแต่กลับนำไปฝังดิน หลังเกิดเหตุพี่สะใภ้โทร.มาขอโทษ ตนไม่อยากจะพูดคุยด้วยอีกแล้ว ไม่เชื่อว่าจะก่อเหตุคนเดียวขณะที่นางปวีณาเปิดเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาและญาติอย่างละเอียด นอกจากนี้ ประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพร่วมสอบสวน ด.ญ.โม วัย 4 ขวบ พี่สาวน้องเดียเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมกับรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนเรื่องที่พ่อแม่จะพา ด.ญ.โม มาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จะเป็นผู้ประสานงานทั้งเรื่องความเป็นอยู่และการศึกษา และยังจะเป็นตัวกลางติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไป