ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้คนถูกเลิกจ้างประมาณ 1.3 ล้านคน และจากที่กระทรวงแรงงานเปิดรับสมัครงาน 1 ล้านตำแหน่ง ปรากฏว่ามีผู้มาสมัครงานเพียง 2 แสนกว่าคนเท่านั้น...เนื่องมาจากแรงงานส่วนใหญ่กลับภูมิลำเนาแทบจะไม่มีอาชีพอะไรมารองรับ นอกจากการทำเกษตร“จากปัญหานี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. ร่วมหารือกับ กระทรวงแรงงาน และ กรมธนารักษ์ ถึงแนวทางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนและผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และตั้งใจคืนถิ่นไปเพื่อประกอบอาชีพเกษตร เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” เฉลิมเกียรติ ศรีวรขานพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการ บจธ. เผยถึงผลการหารือในเบื้องต้นได้กำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือแรงงานใน 3 กลุ่ม1) กลุ่มแรงงานมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง แต่ขาดแคลนเงินทุนในการประ-กอบอาชีพเกษตร-กรรม บจธ.จะให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม วงเงินไม่เกินรายละ 300,000 บาท คิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี มีระยะเวลาปลอดเงินต้นและดอกเบี้ย 1 ปี2) กลุ่มแรงงานมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง แต่มีปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดิน หรือสูญเสียสิทธิในที่ดินไปแล้ว จากการจำนอง การขายฝาก หรือการถูกบังคับคดี แยกเป็น 2 กรณี กรณี 1 ที่ดินยังไม่หลุดมือ ช่วยเหลือโดยการให้สินเชื่อเพื่อคงสิทธิในที่ดิน วงเงินรายละไม่เกิน 1,000,000 บาท กรณี 2 ที่ดินหลุดมือแล้ว ช่วยเหลือโดยการจัดซื้อที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของ บจธ. แล้วให้ผู้ขอ รับความช่วยเหลือเช่าซื้อ วงเงินรายละไม่เกิน 1,000,000 บาท โดยให้มีการชำระสินเชื่อ/เช่าซื้อ ภายในระยะเวลา 30 ปี คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี มีระยะเวลาปลอดเงินต้นและดอกเบี้ย 1 ปี3) กลุ่มแรงงานไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง หรือมีแต่ไม่เพียงพอ บจธ.จะเข้าให้ความช่วยเหลือโดยการประสานกับกรมธนารักษ์ นำที่ราชพัสดุที่มีความเหมาะสมสำหรับการทำเกษตร ในจังหวัดต่างๆมาพัฒนาปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและจัดสรรให้กับผู้ขอรับความช่วยเหลือ โดยการเช่าช่วงจาก บจธ. คิดค่าเช่าในอัตราที่ บจธ.กำหนดรายละไม่เกิน 3 ไร่และเมื่อเข้าทำกินในที่ดินดังกล่าวไม่น้อยกว่า 3 ปี มีความประสงค์ที่จะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกินในที่ดินใกล้กับถิ่นพำนักของตนเอง สามารถยื่นคำขอให้ บจธ.จัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาให้เช่าซื้อต่อไปได้ ให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี ผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี และมีระยะเวลาปลอดเงินต้นและดอกเบี้ย 1 ปีเช่นกัน ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันคนที่ตกงานส่วนใหญ่กลับบ้านต่างจังหวัด ไม่มีอาชีพรองรับนอกจากกลับไปทำเกษตรกรรม การทำความร่วมมือ ในลักษณะนี้จะช่วยให้คนมีทางออกโดยกระทรวงแรงงานจะเป็นสะพานเชื่อมให้ หลังจากที่ได้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือแล้ว กระทรวงแรงงานจะชวน บจธ. ไปหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติถึงการขอกู้เงินจากโครงการสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อมาใช้ในการดำเนินงาน เชื่อว่าน่าจะไม่มีปัญหา เพราะเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง. ชาติชาย ศิริพัฒน์