โอม อมฤต เข้าเวรคอลัมน์ ยำตำรวจ ประจำฉบับวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2563ใกล้เข้าไปทุกขณะกับการเกษียณอายุราชการของเบอร์หนึ่งปทุมวัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งนับเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด 5 ปีและครบวาระไม่ถูกพิษภัยการเมืองเล่นงานเหมือนอีกหลายคนจุดแข็งของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ปฏิเสธไม่ได้ในการเป็นผู้ประสานสิบทิศนำนาวาลำนี้ฝ่าคลื่นลมมาได้ตลอดรอดฝั่ง จุดแข็งอีกประการคือการจัดการกับคดีอาชญากรรมร้ายแรงได้อยู่หมัด ลูกน้องทำงานถวายหัวให้จนคลี่คลายคดีได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ทำให้เจ้านายต้องเดือดร้อนใจแต่ทุกคนย่อมต้องมีจุดอ่อนให้ต้องจี้ไช นั่นก็คือ การปฏิรูปตำรวจ แม้ ครม.อนุมัติหลักการแล้วแต่ประชาชนยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมชัดเจนข่าววงในชี้ว่าการเกษียณอายุราชการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ครานี้คงยังไม่ไปไหน ด้วยความรู้ความสามารถและสุขภาพที่ฟิตเปรี๊ยะ พล.ต.อ.จักรทิพย์เจ้าของนิกเนม บิ๊กแป๊ะ แต่งเนื้อแต่งตัวลงสมัครชิง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีพรรคเก่าแก่เตรียมยื่นเทียบเชิญลงในนามพรรคที่มีฐานเสียงอยู่แล้วจำนวนหนึ่งถ้า พล.ต.อ.จักรทิพย์ลงสมัครจริงก็คงต้องลงแข่งขันกับเจ้าของตำแหน่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ทีมงานได้ปูพื้นไว้มานานแล้ว อีกคนที่ประกาศตัวมานานกว่าปี คือ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ บุตรชายของ พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เลือดเนื้อเชื้อไขสีกากีเหมือนกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา - พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข - พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโยโอม อมฤต คงต้องต้อนรับ ผบ.ตร.คนใหม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เดอะปั๊ด นรต.36 เพื่อนรักบิ๊กแป๊ะรับไม้ต่อไปอีก 2 ปี จนถึงปี 2565 จึงจะเกษียณ ส่วนระดับ รอง ผบ.ตร.แต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว ไล่เรียงตั้งแต่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ที่โยกมาจากจเรตำรวจแห่งชาติโดยให้ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ขึ้นไปแทนเป็น จ.ตร. ส่วนผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร.คือ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ และ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโยถือว่าเป็นทีมงานสำคัญของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ที่เมื่อรับตำแหน่งแล้วคงได้แบ่งงานดูแลฝ่ายต่างๆ เรียกว่าครบเครื่องทั้งบุ๋นและบู๊งานใหญ่รออยู่เบื้องหน้ากับสถานการณ์ม็อบนักศึกษาม็อบสามนิ้วและม็อบพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ใช้โลกโซเชียลรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นน่ากลัว เมื่อมีม็อบย่อมต้องมีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะตำรวจคือด่านหน้าที่ต้องเผชิญด้วยหน้าที่ที่จะต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แผนควบคุมการชุมนุม กรกฎ 52 จึงต้องเอามาใช้ จากเบาไปหาหนักสุด บ้านเมืองนี้ย่อมต้องใช้ สติ ทั้งผู้ปฏิบัติและม็อบ ขาดสติกันเมื่อไรก็บรรลัยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.นรต.38 ยามหน้าสิ่วหน้าขวานมีผู้ชุมนุมเต็มท้องถนน ยืนหยัดอยู่กับลูกน้องนครบาลเป็น ผบ.เหตุการณ์ มี พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น.นรต.42 เป็นผู้ช่วย ผบ.เหตุการณ์ ตามนโยบายหลักดูแลความสงบเรียบร้อยทั้งฝ่ายม็อบและประชาชนทั่วไป ส่วน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.นรต.40 ยืนยันไม่มีการปิดการจราจร เว้นเสียแต่มีม็อบจำนวนมากเดินบนผิวถนนก็คงต้องปิดโดยปริยายลงพื้นที่ป้องโควิด พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.นรต.40 ไปจังหวัดชุมพรมอบสิ่งของบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ ตม.ชุมพรให้ระมัดระวังภัยโควิด-19 ขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะให้เข้มงวดกับการลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เดือนเดียวจับได้ 4 พันกว่าคน ทุกฝ่ายต้องช่วยกันไม่เช่นนั้นอาจระบาดรอบสองรอบสามแน่.โอม อมฤต