น.ส.บุญนำ บุญแจ้ง ทายาทเกษตรกร ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ผู้หันหลังให้อาชีพพนักงานขาย กลับบ้านเกิดมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว เล่าว่า เดิมครอบครัวเลี้ยงวัวนมมานานโดยใช้อาหารข้นที่ขายทั่วไป ต้องแบกต้นทุนค่าอาหารค่อนข้างมาก จนเมื่อกรมหม่อนไหมมาแนะนำสูตรอาหารที่ใช้ใบหม่อนเป็นวัตถุดิบหลัก เลยลองทำดูปรากฏว่าลูกวัวโตดี น้ำนมได้เปอร์เซ็นต์ไขมันสูงกว่าปกติ ทำให้ได้เงินจากการขายน้ำนมเพิ่ม เลยทำเรื่อยมา จนต้องขยายพื้นที่ปลูกต้นหม่อน หญ้าเนเปียร์ และข้าวโพด เพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงวัวทั้งหมดเกือบ 50 ตัว “อาหารสูตรทำเองใช้หม่อน แม้น้ำนมจะเพิ่มปริมาณไม่มากนัก แต่กลับได้นมคุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์ไขมันเพิ่ม ทำให้ขายนมได้ราคาดีกว่าเดิม จากเดิมที่เคยขายได้ กก.ละ 7.50 บาท เพิ่มเป็น 8.50 บาท ที่สำคัญลดค่าอาหารไปเกือบครึ่ง จากเดิมมีต้นทุนอาหาร กก.ละ 90 บาท ตอนนี้ไม่ถึง 50 บาท”และเพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนวัตถุดิบ บุญนำ จึงแบ่งพื้นที่ปลูกหม่อน 20 ไร่ ปลูกหญ้าเนเปียร์ 6 ไร่ ตัดแบบหมุนเวียนให้ผลผลิตเพียงพอในแต่ละมื้อ และปลูกข้าวโพด 6 ไร่ ตัดต้นทุก 2 เดือน แล้วปลูกสลับไล่รุ่นสำหรับวิธีการทำอาหารเลี้ยงวัวนม เริ่มที่เตรียมวัตถุดิบ ใช้ใบหม่อนทั้งกิ่ง เน้นพันธุ์ที่ให้ใบเป็นหลัก เช่น บุรีรัมย์ 60, นครราชสีมา 60, สกลนคร ตัดให้มีความยาว 1-1.5 เมตร โดยให้เลือกใบหม่อนอายุ 50 วัน ที่ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป นำเข้าเครื่องบดละเอียด หมักกับน้ำหมัก ทิ้งไว้ 7 วัน เพื่อให้ยางหม่อนคลายตัวออก และให้วัวเคี้ยวง่ายขึ้น ส่วนผสมอย่างอื่น หัวอาหารโปรตีน 21% ต้นข้าวโพดสับละเอียดผสมกับหญ้าเนเปียร์สับละเอียดอย่างละครึ่ง กากเบียร์ และมันสำปะหลังอบแห้งจากนั้นนำวัตถุดิบผสมให้เข้ากันโดยใช้พลั่วคลุกเคล้า ในอัตรา หม่อนบดละเอียด 0.5 กก. หัวอาหาร 3 กก. ข้าวโพด+หญ้าเนเปียร์ 3 พลั่วพูน กากเบียร์ 1 กก. และมันสำปะหลังอบแห้ง 1 กรัม เพียงเท่านี้จะได้อาหารวัวนมต่อมื้อต่อตัว โดยให้วัวกินวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น ข้อสำคัญต้องทำมื้อต่อมื้อ หากทำเก็บไว้อาหารอาจขึ้นราได้ สนใจสอบถามได้ที่ 09-1739-3546.