“ที่ผ่านมาเห็นชาวนาปลูกข้าว ทำได้เท่าไหร่ไม่พอค่าใช้จ่าย ด้วยเป็นอาจารย์สอนวิชาประมง เลยคิดจะเปลี่ยนที่นามาทำประมงแทน แต่มีปัญหาตรงภาคเหนืออากาศหนาวเย็นนานกว่าภาคอื่น กบผสมพันธุ์ยาก เพราะในธรรมชาติ ช่วงฤดูหนาวกบจะจำศีล เมื่อถึงหน้าแล้งกบจะเริ่มออกมาหากิน เลี้ยงบำรุงร่างกายให้พร้อมเต็มที่ ซึ่งต้องรอถึงช่วงเข้าสู่เดือนหก มีฝนตกพรำๆนั่นแหละ กบถึงจะผสมพันธุ์ ถ้ารอถึงตอนนั้นลูกกบเต็มตลาดขายไม่ได้ราคา” อ.สมเกียรติ์ ตันตา ภาควิชาการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ลำปาง เล่าถึงที่มาของการคิดหาวิธีทำให้กบผสมพันธุ์เร็วกว่าปกติ 2 เดือน...ด้วยหลักการทำให้อากาศอบอุ่นเพื่อกบจะได้ไม่จำศีลจึงได้ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมไฟฟ้านำถังพลาสติกสีดำขนาด 80 ลิตร ติดตั้งหลอดไฟฟ้าแรงเทียน (ไม่ใช่หลอดประหยัดไฟ) ไว้ด้านใน 2 หลอด ก่อนจะนำกบอายุ 10 เดือนที่พร้อมผสมพันธุ์ มาใส่ไว้แยกกันระหว่างตัวผู้กับตัวเมีย 1 ถังใส่ตัวเมียได้ 8 ตัว ส่วนตัวผู้ 12 ตัว เติมน้ำในระดับ 2 นิ้ว แล้วเปิดไฟฟ้าไว้คอยควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 35 ํC มีเทอร์โมมิเตอร์ช่วยตัดไฟอัตโนมัติ หากร้อนเกินไปไฟฟ้าจะดับลง และถ้าอากาศเย็นลงหลอดไฟจะติดขึ้นมาเอง อบพ่อแม่พันธุ์กบในถัง 4 เดือน ตั้งแต่ต้นฤดูหนาว ราวๆพฤศจิกายนไปถึงกุมภาพันธ์ พร้อมกับให้อาหารวันละ 2 มื้อ เช้าและเย็น...เมื่อถึงเดือนมีนาคมถึงจะนำกบออกมาใส่ในบ่อปูนซีเมนต์ในอัตรา ตัวผู้ 2 ตัวต่อตัวเมีย 1 ตัว แล้วใช้สปริงเกอร์ปล่อยน้ำตลอดทั้งวัน ให้เหมือนกับฝนตกพรำๆ หยุดบ้างในช่วงให้อาหาร เมื่อกบกินเสร็จเปิดน้ำพรมเหมือนเดิมกบจะผสมพันธุ์เวลากลางคืน เพียง 1-2 วัน เมื่อเห็นว่ามีไข่กบในบ่อแล้วให้แยกพ่อแม่พันธุ์ออกมาจากบ่อ เลี้ยงจนเกิดเป็นลูกอ๊อดที่มีหางหด จึงนำลงเลี้ยงในบ่อดินที่มีระดับน้ำ 30-40 ซม. เป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้ลูกอ๊อดมีการพัฒนาการได้เร็ว จากนั้นย้ายลูกอ๊อดกลับมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ระดับน้ำ 5-7 ซม.พร้อมกับวางแผ่นโฟมยางที่เหลือใช้จากโรงงานรองเท้าแตะ เพราะมีราคาถูกและใช้งานได้ในระยะยาว ให้ลูกอ๊อดขนาดเล็กขึ้นมาเกาะอาศัย เลี้ยงไป 15 วัน...เพียงแค่นี้ก็จะสามารถจับขายได้ราคาตัวละ 1-4 บาทเพราะในช่วงฤดูฝนลูกกบในท้องตลาดจะหายาก จึงมีราคาแพงกว่าปกติ หรือจะเลี้ยงต่อไปอีก 4 เดือนขายเป็นกบขนาดใหญ่จะได้ราคาดี เมื่อเปรียบเทียบกับการทำนา 4 เดือน ได้ข้าวเปลือกไร่ละ 800-1,000 กก. จะมีรายได้ 10,000-20,000 บาท แต่หากเลี้ยงกบขายลูกพันธุ์ บ่อขนาด 6×12 ม. จะได้ลูกกบเฉลี่ย 50 กก. กก.ละ 300 บาท เป็นเงิน 15,000 บาท แต่ต้นทุนต่ำกว่าทำนาครึ่งต่อครึ่ง สนใจชมฟาร์มติดต่อได้ที่ 08-6730-2101 หรือ Facebook : Takushi Tantaไชยรัตน์ ส้มฉุน