น้ำมันถั่วเหลืองโดยทั่วไปมีส่วนประกอบเป็นไขมันไม่อิ่มตัว หรือกรดโอเลอิกที่จำเป็นต่อร่างกายราว 23% ไขมันทรานส์ 0.5%แต่ด้วยกระบวนการแก้ไขยีน (gene editing) ในตัวน้ำมันถั่วเหลือง โดยปิดการทำงานของยีนสองตัวที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์กรดไขมัน ทำให้ได้น้ำมันที่มีกรดโอเลอิกสูงกว่า 80% กรดไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า 20% มีไขมันทรานส์เป็น 0ที่สำคัญสามารถใช้ทอดได้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายเหมือนน้ำมันถั่วเหลืองทั่วไป และมีอายุการเก็บรักษานานกว่าน้ำมันถั่วเหลืองปัจจุบันที่ถูกขายในตลาดน้ำมันถั่วเหลืองคุณภาพสูงที่รู้จักกันในชื่อ CalynoTM ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท Calyxt, Inc. จัดเป็นอาหารที่มาจากการแก้ไขยีนชนิดแรกที่วางขายในสหรัฐอเมริกาการมีกรดโอเลอิกสูงถึง 80% ส่งผลให้น้ำมัน Calyno กลายเป็นน้ำมันถั่วเหลืองที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยกำจัดคอเลสเทอรอลชนิดไม่ดี เพิ่มคอเลสเทอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หัวใจ สมอง ตับ ไต และอวัยวะอื่นๆทำงานได้ดีขึ้น ทำให้สามารถป้องกันโรคหัวใจ และกลุ่มโรคหลอดเลือดตีบตันได้นี่ไม่ใช่การตัดต่อพันธุกรรมในพืช หรือจีเอ็มโอแบบดั้งเดิม เพราะถ้าทำวิธีนั้นต้องใช้เวลานานนับสิบปีกว่าจะได้ต้นพันธุ์ที่ให้เมล็ดถั่วเหลืองมีน้ำมันคุณสมบัติเช่นนี้ได้ในขณะที่การแก้ไขยีนด้วยวิธีนี้ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สร้างอาหารให้มีลักษณะตามที่ต้องการได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ใช้เวลาน้อยลง ใช้เวลา ไม่กี่เดือนสามารถทำได้แล้วผู้ผลิตอาหารและผู้บริโภคในสหรัฐฯกำลังให้การต้อนรับนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการแก้ไขยีนเพื่อเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ...แต่บ้านเรายังก้าวไม่พ้นเรื่องเดิมๆ จีเอ็มโอที่เขากำลังจะลืมเลือนกันไปแล้ว.