ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันตั้งโต๊ะแถลง หลังตรวจที่เกิดเหตุไฟไหม้ห้างยักษ์เซ็นทรัล เวิลด์ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ชี้ต้นเหตุเกิดจากบ่อบำบัดน้ำเสียชั้นใต้ดิน มีตะกอนหมักหมมจนลุกไหม้ ควันไฟพุ่งขึ้นตามท่อระบายอากาศจนไปสุดทางที่ชั้น 8 ความร้อนสะสมจนเกิดแรงดันทำท่อระเบิดเป็นไฟลุกไหม้ในห้องพักผ่อนพนักงาน ขณะที่สภาวิศวกรยันโครงสร้างแข็งแรง เลขาฯ วสท. ยกย่อง 2 ผู้เสียชีวิตเป็นฮีโร่ เพราะเข้าดับไฟจนตัวตาย เขตปทุมวันออกคำสั่งปิดพื้นที่ 2 จุดคือ ชั้นบี 2 และชั้น 8 ส่วนบริษัทเซ็นทรัลฯเจ้าของห้างแจงสื่อยิบ พร้อมกลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบ 12 เม.ย. โดยก่อนหน้าเปิดแล้วบางส่วนจากเหตุระทึกขวัญ ไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน โดยไฟลุกไหม้ชั้น 8 ในส่วนของอาคาร 21 ชั้นที่ติดกับตัวโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มีพนักงานของศูนย์การค้า 2 คนทนควันไฟนรกรมไม่ไหว ตัดสินใจดิ่งออกมาจากชั้น 8 เสียชีวิตสยองท่ามกลางสายตาของผู้ที่เห็นเหตุการณ์ระทึก ทราบชื่อต่อมา คือนายศักดิ์ชัย เจริญลาภ และนายอาทิตย์ คำสาย นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน เป็นพนักงานของศูนย์การค้าทั้งหมด ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการสอบสวน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 10 เม.ย.ความคืบหน้าจากเหตุไฟไหม้ศูนย์การค้าใหญ่กลางกรุงครั้งนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 เม.ย. ที่หน้าอาคาร ดิออฟฟิศ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ตึกที่เกิดเหตุ มีการตั้งแผงเหล็กไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าออกเด็ดขาด พร้อมติดเอกสารขนาด เอ 4 ระบุข้อความประชาสัมพันธ์ว่า “ทางอาคารดิออฟฟิศ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ คาดว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 11 เม.ย. เวลา 12.00 น. โดยจะประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา หากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบภายในเวลา 12.00 น. ของวันนี้” ท่ามกลางเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันเข้าไปตรวจด้านในอาคารจุดเกิดเหตุผู้เกี่ยวข้องนั่งโต๊ะแถลงต่อมาเวลา 12.00 น. ที่หน้าอาคารจุดเกิดเหตุ ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร นายธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ รอง ผอ.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษา วสท. นายพินิต อารยะศิลปะธร ผอ.เขตปทุมวัน และนายนพดล ฉายปัญญา ผอ.สำนักการโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร ตั้งโต๊ะร่วมกันแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ต้นเพลิงบ่อบำบัดน้ำเสียชั้นบี 2นายธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ รอง ผอ.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้น บี 2 เป็นห้องปิดทึบ มีอุปกรณ์เป็นระบบเครื่องสูบน้ำ มีบ่อบำบัดน้ำเสียซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลุกไหม้บริเวณดังกล่าวเป็นเวลานาน เมื่อไฟไหม้ความร้อนและควันลอยขึ้นสูงไปตามท่อระบายอากาศขนาดใหญ่ขึ้นไปด้านบนเพื่อระบายควันออกนอกตัวอาคาร แต่เมื่อควันลอยไปชั้น 8 ได้ชนกับฉนวนกันความร้อน ควันและความร้อนที่สะสมได้แผ่ออกด้านข้าง ทำให้เกิดความร้อนสะสมจนเกิดประกายไฟขึ้นที่ชั้น 8 จุดดังกล่าวมีท่อเชื่อมเพื่อระบายไปยังนอกตัวอาคาร แต่ด้วยความร้อนที่สะสม และท่อดังกล่าวไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กันความร้อน เกิดพังหักลงมา ทำให้ควันและความร้อนกระจายคลุ้งทั่วชั้น 8 มีวัสดุติดไฟง่าย เช่นเก้าอี้ โต๊ะและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จึงเกิดแสงเพลิงในชั้นดังกล่าว เมื่อควันอยู่ที่ชั้น 8 ไม่ถูกระบายไปนอกตัวอาคาร ควันจึงกระจายกดตัวต่ำลงไปตามชั้น 7 ไล่ลงไปใช้กล้องตรวจจับความร้อนจนพบนายธีรยุทธกล่าวต่อว่า ช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่าไฟไหม้ชั้น 8 ตรวจสอบไม่พบต้นเพลิง แต่ว่าควันเยอะช่วงชั้น 7-8 แต่ชั้นอื่นไม่เยอะ เมื่อตรวจสอบลงไปทีละชั้น โดยใช้กล้องตรวจจับความร้อนหรือกล้องเทอร์มอล พบว่าต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นบี 2 เป็นชั้นใต้ดินของอาคาร เพลิงได้ลุกไหม้ในห้องสูบน้ำ และบำบัดน้ำเสีย ลุกไหม้ไปประมาณ 70% ในเนื้อที่ห้องดังกล่าว 80 ตารางเมตร ฉีดโฟมอัดเข้าไปในห้องเพื่อตัดอากาศทำให้เพลิงมอดดับไปในที่สุดความร้อนสูงถึง 800 องศา“เชื่อว่าต้นเพลิงส่วนหนึ่งมาจากตะกอนที่เกิดจากการบำบัดน้ำเสีย มีความร้อนสูงถึง 800 องศาเซลเซียส จากนั้นได้มีกลุ่มควันพร้อมแก๊ส เข้าไปยังท่อระบาย หรือที่เรียกว่าเรเซหลอด ท่อดังกล่าวใหญ่มาก เมื่อกลุ่มควันเข้าไปเป็นจำนวนมาก และมีความร้อนมาก ทำให้ท่อบริเวณชั้น 8 เป็นท่อ ที่มีลักษณะโค้งเชื่อมระบายไปยังข้างนอกอาคารเกิดปัญหา โดยพบว่าบริเวณข้อต่อท่อชั้นบี 2 เป็นจุดต้นเหตุมีรอยฉีกขาดเนื่องจากโดนความร้อนสูงมาก” นายธีรยุทธกล่าวเลขาฯสภาวิศวกรยันโครงสร้างแข็งแรงขณะที่ ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร กล่าวว่า เบื้องต้นโครงสร้างอาคารแข็งแรงดี แต่ต้องดูเรื่องระบบทั้งท่อต่างๆ รวมทั้งเชื้อเพลิงในอาคารและระบบป้องกันอัคคีภัย อาคารนี้สูงเกิน 23 เมตร จะต้องเชิญวิศวกรผู้ออกแบบอาคารมาสอบสวนว่า ออกแบบถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะเดียวกัน จะตรวจสอบท่อว่าทนความร้อนได้กี่องศา ตรวจสอบจุดแตกหักว่ามีรอยรั่วอยู่แล้ว หรือเป็นการอัดอั้นของกลุ่มควันกับความร้อน เพราะอาจมี คราบน้ำมันจากการทำอาหาร ทำให้ท่ออุดตันจนควัน ระบายออกไปนอกตัวอาคารไม่ได้ นอกจากนี้ยังต้อง ตรวจสอบจุดที่มีคนตกลงมา เป็นเพราะเกิดจากการระเบิดของท่อทำให้ไฟขวางประตูทางหนีไฟ ทำให้หนีไม่ได้ หรือผู้เสียชีวิตมีลักษณะตกใจ ต้องรอผลสรุปลำดับเหตุการณ์จากเซ็นทรัลที่จะต้องส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหาข้อเท็จจริงต่อไปวสท.ชี้เป็นอาคารเก่าสมัยห้างเวิลด์เทรดนายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) กล่าวว่า ระบบป้องกันไฟไหม้ของตัวอาคารใช้ 2 ระบบควบคู่กันคือ ระบบอัตโนมัติและระบบคนสั่งการ สำหรับที่ชั้นบี 2 ยังไม่ทราบว่าสปริงเกอร์ในห้องทำงานหรือไม่ เพราะเพลิงไหม้เสียหายหมด แต่จากแบบแปลนเข้าใจว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าสมัยห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่ผ่านมาการก่อสร้างอาคารมีกฎหมายควบคุมอย่างถูกต้อง แต่ตัวอาคารเก่านั้นอาจไม่ทันกับกฎหมายควบคุมอาคารใหม่ที่ออกมา กฎหมายแนะนำเรื่องการป้องกันอาคารเก่า แต่ไม่มีบทลงโทษควันความร้อนลอยขึ้นตามท่อนายพิชญะกล่าวต่อว่า กรณีนี้ท่อจากชั้นบี 2 พาควันและความร้อนขึ้นไปด้านบนตามปกติ แล้วจะมีท่อต่อระบายอากาศความยาวอีก 60 เซนติเมตร ระบายออกไปนอกอาคาร แต่เมื่อความร้อนพุ่งไปตามท่อ ทำให้ช่วงข้อต่อท่อระบายอากาศพังไม่สามารถระบายควันออกไปได้ จนเกิดเปลวไฟชั้น 8 ต้องเข้าใจว่าท่อที่เชื่อมระหว่างชั้นบี 2 สู่ชั้น 8 นั้น เป็นท่อระบายอากาศเสีย และที่วางท่อให้ไปสุดแค่ชั้น 8 ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า เพราะอาคารเก่าถูกออกแบบ มาในลักษณะดังกล่าวจึงมีจุดอ่อน ก่อนเชื่อมท่อปล่อยออกด้านบนของอาคารในภายหลังยกย่อง 2 ผู้เสียชีวิตเป็นฮีโร่เลขาฯ วสท.กล่าวต่อว่า ปล่องควันที่ทำให้ไฟลุกลามนั้นห่างจุดที่ผู้เสียชีวิตโดดออกมาประมาณ 10 เมตร และปล่องนั้นห่างจากประตูเพียง 3-4 เมตร คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งคู่พยายามจะดับไฟ ช่วยเหลือให้คนอื่นหนี หรืออาจถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้จึงหนีออกมาไม่ทัน แต่สามารถช่วยเหลือคนอื่นออกมาได้ ถือว่าทำได้ดีเป็นฮีโร่ เพราะจากโครงสร้างนั้น ชั้น 8 มีความซับซ้อน ค่อนข้างจะดับไฟยาก ต้องขอยกย่องผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเขตปทุมวันสั่งห้ามใช้พื้นที่ 2 จุดขณะที่นายพินิต อารยะศิลปะธร ผอ.เขตปทุมวัน กล่าวว่า ตอนนี้เขตได้สั่งปิดกั้นอาคารบริเวณชั้นบี 2 เนื้อที่ 80 ตารางเมตร และชั้น 8 ในเนื้อที่ 400 ตารางเมตร โดยห้ามใช้จุดดังกล่าว ขณะที่ส่วนอื่นๆ ของห้างนั้นสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุนั้นไม่มีโอกาสเกิดเพลิงไหม้ซ้ำได้อีกแล้ว สำหรับชั้น 8 นั้น เป็นห้องพักผ่อนของเจ้าหน้าที่ตร.คาดเครื่อง BLOWER ขัดข้องส่วนรายงานจากพนักงานสอบสวนระบุว่า จุดเกิดเหตุเริ่มขึ้นที่ห้องเครื่องจักรกลชั้นบี 2 ที่ตั้งของเครื่องเป่าลมระบายอากาศ หรือเครื่อง BLOWER คาดว่าจะเกิดจากการขัดข้องทำให้เกิดประกายไฟ แล้วลุกลามขึ้นไปยังท่อระบายอากาศเสียที่ทำจากไฟเบอร์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 24 นิ้ว ใช้ระบายอากาศเสียที่เกิดจากบ่อบำบัดน้ำเสีย จะมีก๊าซมีเทน ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่าและก๊าซแอมโมเนียเป็นส่วนประกอบที่สามารถติดไฟได้ ท่อดังกล่าวจะมีตั้งแต่ชั้นบี 2 ไปจนถึงชั้น 8 ในโซนของออฟฟิศ แล้วระบายออกด้านข้างห้องที่เกิดเหตุแรงดันทำท่อระเบิดไฟไหม้ส่วนท่อที่วางขึ้นไปนั้นลักษณะตรงยาว แต่จะมีข้อต่อท่อหักมุมให้เข้ากับมุมของห้องเพื่อไปออกทางหน้าต่าง 3 จุด ประกายไฟที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการเผาไหม้ภายในท่อระบายอากาศเสีย ทำให้มีแรงดันภายใน เมื่อมาเจอกับจุดท่อที่หักมุมทำให้เกิดแรงดันท่อแตกระเบิดออกมาไหม้ และลุกลามเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากขี้เลื่อยที่อยู่ในห้อง GREEN ROOM หรือห้องพักพนักงานซึ่งขณะนั้นไม่มีคนอยู่ระบุ 2 พนักงานตายในหน้าที่ส่วนนายศักดิ์ชัย เจริญลาภ อายุ 55 ปี พนักงาน FIREMAN หรือพนักงานป้องกันอัคคีภัยตัวอาคารของออฟฟิศ และนายอาทิตย์ คำสาย อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ CCTV ของอาคาร พร้อมพนักงานด้านความปลอดภัยอีกหลายคนกำลังประชุมกันอยู่ที่ห้องประชุมชั้น 7 เมื่อรู้ว่าเกิดกลุ่มควันขึ้นที่ชั้น 8 รีบวิ่งขึ้นไปดับเพลิง แต่กลุ่มควันมากเกินไป จนหลงทิศออกไม่ได้ ตัดสินใจกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง และเสียชีวิตพฐ.ชี้เหตุสัญญาณเตือนไม่ดังอย่างไรก็ตาม ผลจากการตรวจสอบในห้อง GREEN ROOM ของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบรอยแตกและร่องรอยการละลายของท่อไฟเบอร์ระบายอากาศเสียแตกเป็นรอยยาว ส่วนในห้องเครื่องจักรชั้นล่างยังเข้าไปตรวจสอบไม่ได้ เนื่องจากน้ำยังท่วม ต้องรอสูบน้ำออกให้หมดจึงจะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่สัญญาณเตือนภัยไม่ทำงาน เป็นเพราะการเผาไหม้เกิดขึ้นในท่อระบายอากาศ ทำให้สัญญาณเตือนภัยไฟไหม้จับสัญญาณไม่ได้ กระทั่งมาจับสัญญาณได้เมื่อท่อแตกและไฟลุกลามดังกล่าว น.1 รอ พฐ.สรุป มั่นใจไม่ใช่วางเพลิงขณะที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เปิดเผยกรณีเกิดเหตุไฟไหมครั้งนี้ว่า อยู่ระหว่างการรอสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้อง ส่วนสาเหตุต้องรอผลสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว จะมีเรื่องแอบแฝงของการวางเพลิงต่างๆนั้น ตอนนี้มั่นใจว่าไม่น่าจะมีกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ต้องรอผลสรุปการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป12 เม.ย.เปิดเต็มรูปแบบตามปกติวันเดียวกัน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้ชี้แจงมายังสื่อมวลชน ว่า จากการประสานงานกับเจ้าหน้าที่วิศวกรจากสำนักงานโยธา วิศวกรรมสถาน สำนักงานเขต กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดยละเอียดเรียบร้อยแล้ว ได้รับการยืนยันว่ามีความปลอดภัย และมีระบบการจัดการดูแลตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันอัคคีภัย โดยวันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2562 เซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งศูนย์การค้า ออฟฟิศและโรงแรม พร้อมเปิดให้บริการตามปกติ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป โดยวันที่ 11 เม.ย. ในส่วนอาคารสำนักงาน ทั้ง the offices @ Central World และ Zen Tower และโรงแรม สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ส่วนภายในศูนย์การค้าจะเข้าไปทำความสะอาดเพื่อเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯได้ดูแลครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อเข้าเยี่ยมและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และจะดูแลรับผิดชอบครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มความสามารถ โดยผู้บาดเจ็บส่วนหนึ่งปลอดภัยและกลับบ้านได้แล้วแจงระบบเตือนภัยในศูนย์การค้าก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าวันเดียวกัน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งมายังสื่อมวลชนเรื่องการทำงานของระบบสัญญาณแจ้งเตือนเหตุอัคคีภัยภายในศูนย์ ดังนี้ เนื่องจากศูนย์การค้ามีขนาดใหญ่ มีทางออกหลายทาง ต้องใช้ระบบแบ่งการ alarm เป็นส่วนๆตามลำดับ เพื่อมิให้เกิดความโกลาหล และอุบัติเหตุจากความตื่นตระหนกในการอพยพ หาก alarm ดังพร้อมกันทั่วทั้งศูนย์ โดยในวันเกิดเหตุ ได้มี alarm ดังจากจุดเกิดเหตุคือชั้น B2 และบริเวณชั้น 8 เนื่องจากกลุ่มควันที่ลอยขึ้นไปตามท่อระบายควันมีมาตรการรับมือตลอด 24 ชม.นอกจากนี้ ศูนย์การค้ามีระบบตรวจจับควัน ประเมินสถานการณ์ และสั่งอพยพ โดยมีมาตรการในการอพยพด้วยการประกาศเชิญคนออกจากพื้นที่ศูนย์ มีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการฝึกซ้อมรับมือการอพยพประจำอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่ออพยพคนออกจากพื้นที่ทันที ทั้งนี้ มีพนักงานรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ Fireman เตรียมพร้อม stand by ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจตราและมีตารางเวรรองรับอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะตรวจสอบกระบวนการทั้งหมดให้ดำเนินการได้ดียิ่งขึ้น และขอขอบพระคุณและน้อมรับคำติชมมา ณ ที่นี้ญาติร่ำไห้รับศพเจ้าหน้าที่ซีซีทีวีด้านการรับศพผู้เสียชีวิต บ่ายวันเดียวกัน ที่นิติเวช รพ.จุฬาฯ น.ส.จิตรา คำสิน อายุ 44 ปี และนายจันทรา คำสิน อายุ 47 ปี พี่สาวและพี่ชายนายอาทิตย์ คำสิน อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ซีซีทีวี 1 ใน 2 ผู้เสียชีวิต มารับศพน้องชาย โดย น.ส.จิตรากล่าวว่า ครอบครัวตนมีกัน 4 คน นายอาทิตย์เป็นลูกคนที่ 3 ยังไม่ได้แต่งงาน มีนิสัยร่าเริง เป็นที่รักของผู้ร่วมงานและญาติพี่น้อง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น โดยนายอาทิตย์ทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มานานหลายปี หลังจากนี้จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านคำบาก จ.อุบลราชธานี ส่วนเรื่องเยียวยา บริษัทที่นายอาทิตย์ทำงานได้มาพูดคุยแล้ว ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่าเยียวยาอื่นๆทั้งหมดพี่ชายเผยน้องโทร.มาหานาทีระทึกขณะที่นายจันทรา คำสิน พี่ชายนายอาทิตย์เผยว่า ช่วงเกิดเหตุ นายอาทิตย์โทรศัพท์มาหา เมื่อกดรับสายได้ยินเสียงดังสนั่น และได้ยินเสียงน้องชาย ร้องจับใจความไม่ได้ จึงกดตัดสายแล้วโทร.กลับ แต่น้องชายก็กดตัดสายทิ้ง จนมาทราบข่าวว่าน้องชาย เสียชีวิตศพ FIREMAN อยู่วัดบางโฉลงในไล่เลี่ยกัน ครอบครัวของนายศักดิ์ชัย เจริญลาภ พนักงานป้องกันอัคคีภัยที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน เดินทางมารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ก่อนจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางโฉลงใน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กำหนดสวดพระอภิธรรม 3 วัน โดยกลุ่มเพื่อนผู้ตายพนักงานเครือเซ็นทรัล ห้ามสื่อมวลชนบันทึกภาพ คปภ.เร่งสั่งจ่ายค่าสินไหมนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ว่า สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เร่งลงพื้นที่สรุปความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรม รวมทั้งเข้าเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจ ทั้งนี้พบว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้ทำประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัย ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน จำนวนเงินเอาประกันภัย 15,516 ล้านบาท กรมธรรม์ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก 11,325 ล้านบาท และกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดสำหรับการบาดเจ็บต่อร่างกายหรือเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ภายในวงเงินจำกัดความรับผิดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง และตลอดระยะเวลาเอาประกันภัยส่วนโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ทำ ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน จำนวนเงินเอาประกันภัย 6,294 ล้านบาท เป็นความคุ้มครองการประกันภัยทรัพย์สิน 4,449 ล้านบาท และการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก 1,845 ล้านบาท