บ้านนานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร ชาวบ้านจะเลี้ยงกระต่ายพันธุ์พื้นเมืองไว้บริโภคแม้กระต่ายจะเลี้ยงง่าย แต่ไม่วายมีชาวบ้านบางรายแอบล่ากระต่ายป่าเอามาขายในตลาดชุมชน ทั้งที่มีความผิดตามกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า คนจำหน่ายขายกินมีโทษถึงจำคุก“เพื่อสนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี ให้สร้างแหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพ ใช้ต้นทุนน้อยที่สุด ให้เด็กนักเรียน หากเลี้ยงไก่ สุกร ต้องซื้ออาหารข้นมาเลี้ยง แล้วขนจากที่ราบขึ้นมายังศูนย์ฯ กลายเป็นต้นทุนที่สูญเปล่า ประกอบกับมีชาวบ้านนำกระต่ายพันธุ์พื้นเมืองมาให้ 5 ตัว เลี้ยงออกลูกจำนวนมาก เพราะอยากรู้ว่ารสชาติเนื้อเป็นอย่างไร จึงคัดกระต่ายที่ตัวเต็มวัยนำมาทำอาหาร ถึงได้รู้ว่าเนื้อกระต่ายมีความนุ่ม ปรุงอาหารรสชาติดี เคี้ยวง่ายไม่เหนียวหรือยุ่ยเกินไป จึงเกิดแนวคิดพัฒนากระต่ายภูพาน” น.สพ.วิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้างานศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงกระต่ายดำภูพานประกอบกับกรมปศุสัตว์มีนโยบายพัฒนาพันธุ์กระต่าย เพื่อให้เกษตรกรเลี้ยงจำหน่ายเป็นเนื้อสัตว์ได้อย่างถูกกฎหมาย...หากให้ชาวบ้านเลี้ยงกระต่ายทั่วไปตลาดคงไปได้ไม่ไกล เพราะมีคนเลี้ยงกันมากแล้วจึงต้องตั้งโจทย์ใหม่ หากระต่ายพันธุ์ที่เหมาะสม รูปร่างต้องใหญ่ เนื้อรสชาติดี ไม่มีกลิ่นสาบเหมือนที่ต่างประเทศเลี้ยงกันและอาหารที่ใช้เลี้ยงต้องหาง่าย เกษตรกรไม่เสี่ยงขาดทุนโครงการวิจัยกระต่ายดำภูพาน จึงเริ่มขึ้นโดยการนำพ่อพันธุ์กระต่ายจากฝรั่งเศสมาปรับปรุงสายพันธุ์ ผสมพันธุ์กับกระต่ายพื้นเมืองและกระต่ายป่า จนกระทั่งได้กระต่ายขนาดใหญ่ น้ำหนัก 3.5-4 กก. (ปกติกระต่ายพื้นเมืองจะหนักตัวละไม่เกิน 1 กก.) ชำแหละแล้วซื้อขายกันในราคา กก.ละ 200 บาท คุณภาพเนื้อโปรตีนสูง ไขมันต่ำ มัดกล้ามเนื้อขนาดเล็ก ย่อยง่าย เหมาะกับกลุ่มคนรักสุขภาพ นักเพาะกาย และกลุ่มผู้สูงวัยมีปัญหาเรื่องระบบการย่อยแต่การส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยกระต่ายมีความน่ารัก จึงเกิดกระแสคัดค้านที่จะนำมาเลี้ยงขายเป็นเนื้อสัตว์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกระแสดราม่าตามมา จึงให้เด็กนักเรียนที่แวะเวียนมาดูงานที่ศูนย์ฯ หลายกลุ่มเลือกกระต่ายที่ตัวเองชอบมาอุ้ม... ผลปรากฏว่า เด็กเลือกอุ้มกระต่ายทุกสียกเว้นแต่เพียงกระต่ายสีดำ...ไม่มีเด็กคนไหนอุ้มเป็นอันว่า ได้ข้อสรุปถ้าจะส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงกระต่ายขายเป็นเนื้อสัตว์ ต้องปรับปรุงพันธุ์กระต่ายให้ออกมามีขนสีดำเท่านั้นส่วนเรื่องอาหารที่จะนำมาใช้เลี้ยงทดแทนอาหารข้นหรืออาหารเม็ด...จากการศึกษาเปรียบเทียบ ให้กระต่ายกลุ่มที่ 1 กินหญ้าอย่างเดียว ต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือน ถึงจะสามารถชำแหละได้ ส่วนกระต่ายกลุ่ม 2 เลี้ยงด้วยหญ้าผสมใบหม่อน เลี้ยงเพียงแค่ 5-6 เดือน นอกจากจะได้น้ำหนักตามที่ต้องการ คุณภาพซากเนื้อยังมีมัดกล้ามขนาดเล็กละเอียดและมีความฉ่ำเนื้อมากกว่าวันนี้กระต่ายดำภูพานพร้อมส่งเสริมให้ชาวบ้าน จ.สกลนคร เลี้ยงเป็นกลุ่มแรก โดยผู้ที่สนใจขอให้รวมกลุ่ม เพื่อง่ายต่อการอบรม จากนั้นถึงจะขยายผลไปยังพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงต่อไป.เพ็ญพิชญา เตียว