กลุ่มพระสงฆ์ มีการส่งต่อภาพบุคคลหน้าคล้ายพระมหาศาสนมุนี หรือเจ้าคุณแป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ แต่งกายในชุดฆราวาส สวมหมวกและแว่นตา นั่งคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง...เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะประธานกรรมการวัดสัมพันธวงศาราม กล่าวถึงกรณีการจัดระเบียบวัดสัมพันธวงศาราม หรือวัดสัมพันธวงศ์ ว่า ไปทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการวัดสัมพันธวงศ์ เนื่องจากมีผู้ใหญ่ร้องขอมาให้เข้าไปช่วยกำกับดูแล ส่วนการที่คณะสงฆ์คณะธรรมยุตแต่งตั้งพระเทพสังวรญาณ (จิรพล อธิจิตฺโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด บวรนิเวศวิหาร เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เนื่องจากสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ อาพาธ ส่วนการตั้งพระสงฆ์จากวัดบวรฯ มาเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์นั้น เพราะพระสงฆ์จากวัดสัมพันธวงศ์เป็นสายจากวัดบวรฯ“ส่วนการประชุมกรรมการวัด อาตมายังบอกทำจะอะไรให้ประนีประนอมกัน ช่วยกันทำให้เกิดความสงบในวัด ฟื้นฟูวัดให้ดี ช่วงนี้ให้ประชุมทุกเดือน แบ่งหน้าที่กันจัดระเบียบภายในวัดให้เรียบร้อย จะบูรณะอะไรให้วางแผนกันให้ดี สิ่งของและทรัพย์สินที่เป็นของอดีตพระพรหมเมธี ให้ลงทะเบียนไว้ให้ชัดเจน เก็บให้เรียบร้อย เมื่อคดีสิ้นสุดค่อยว่ากันอีกที” พระพรหมมุณีระบุมีรายงานว่า เฟซบุ๊กวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เผยแพร่ภาพการประชุมคณะกรรมการวัด ในวันที่ 17 มิ.ย. มีพระพรหมมุนีเป็นประธานการประชุม พร้อมทั้งลงข้อความการให้โอวาทของพระพรหมมุนี ในการประชุมดังกล่าวว่า การทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ เปรียบเสมือนพี่ปกครองน้อง ผู้ใหญ่ก็ต้องมีจิตเมตตา ผู้น้อยก็ต้องคารวะถ่อมตน ความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญ ทำงานเพื่อส่วนรวมอย่าแลถึงประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่ วัดถึงจะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขณะที่นายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีข้อมูลของวัดสัมพันธวงศ์นั้น ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ไป มีการบิดเบือน คลาดเคลื่อน และนำเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วน ดังนั้น ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) วันที่ 20 มิ.ย. พศ.จะนำแถลงการณ์ของพระพรหมมุนีชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งหลังการประชุมวันเดียวกัน สมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค ออกแถลงการณ์ ข้อเสนอแนะให้ชาวพุทธอยู่ในอาการสงบ ใจความสรุปว่า องค์กรชาวพุทธได้ร่วมมือกัน ร้องทุกข์กล่าวโทษ ฟ้องร้อง และร้องเรียนบุคคล รวมทั้งองค์กรผู้อาจมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดต่อองค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐ และต่อศาลสถิตยุติธรรมทุกศาลที่เกี่ยวข้อง โดยล่าสุดได้มีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจละเมิดต่อสิทธิ และเสรีภาพของภิกษุบริษัท โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายที่ขัดกับหลักพระธรรมวินัย ซึ่งบัญญัติรับรองไว้โดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นกระบวนการพิจารณาของศาล จึงขอเรียกร้องให้พุทธบริษัททั้ง 4 และองค์กรชาวพุทธ จงอยู่ในอาการสงบ ไม่ละเมิดต่ออำนาจศาล ไม่ก่อความ วุ่นวายให้เกิดขึ้นต่อประเทศชาติและสังคม พวกเราขอร้องให้เดียรถีย์ (นักบวชนอกพระพุทธศาสนา) ทุกคน จงอย่าเข้ามาก้าวก่ายในพระพุทธศาสนามีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้ในกลุ่มพระสงฆ์ มีการส่งต่อภาพบุคคลหน้าคล้ายพระมหาศาสนมุนี หรือเจ้าคุณแป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และพระอุปัฏฐากประจำตัวสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ กรรมการมหาเถรสมาคม อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช แต่งกายในชุดฆราวาส สวมหมวกและแว่นตา นั่งคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อสอบถามไปยังวัด ปากน้ำ ระบุว่า เจ้าคุณแป๊ะไม่ได้กลับวัดมานานแล้วมากกว่าครึ่งปี ทราบเพียงว่าไปอยู่ที่วัดไทยในต่างประเทศแถบทวีปยุโรป แต่ไม่ทราบว่าประเทศใด วัดยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากพระมหาศาสนมุนีถึงการลาสิกขาแต่อย่างใด ตามปกติเมื่อพระสงฆ์ลาสิกขา ต้องแจ้งให้ทางเจ้าอาวาสวัดทราบ แต่ขณะนี้วัดเห็นภาพที่ส่งต่อๆกันมาเท่านั้น ทั้งนี้ สำหรับเจ้าคุณแป๊ะ กลายเป็นที่รู้จักสืบเนื่องมาจากตกเป็นผู้ถูกกล่าวหากรณีเลี่ยงภาษีนำเข้ารถเบนซ์โบราณ เมื่อประมาณปี 59-60 สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากไม่มีพยาน หลักฐานใดพิสูจน์ได้ว่าเจ้าคุณแป๊ะรับรถเบนซ์ไว้ ทั้งที่รู้ว่าเสียภาษีสรรพสามิตไม่ถูกต้อง