เชียงรายอ่วมพายุฝนถล่มซัดต้นไม้และเสาไฟฟ้าโค่นล้มระนาว ที่อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ จ.นครสวรรค์ น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนชาวบ้านระวังพื้นที่ทางน้ำผ่าน ส่วนภาคอีสานฝนซัดบ้านเรือน เสียหายหลายจังหวัด นครนายกโกลาหลไฟดับและท่อประปาแตก ขณะที่กรมอุตุฯเตือนฝนตกหนักต่อเนื่อง เหนือ อีสาน กลาง และใต้เตรียมรับมือฝนตกกระหน่ำบ้านเรือนเสียหายหลายจังหวัด เปิดเผยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พ.ค. นายภาสกร บุญญลักษม์ รอง ผวจ.เชียงราย นายเอกกฤต จิตตางกูร ปภ.เชียงราย ทหาร มทบ.37 ค่ายเม็งรายมหาราช และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ออกสำรวจความเสียหาย หลังเกิดฝนตกหนักและพายุถล่มเมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค. ทำให้ต้นยางขนาดใหญ่อายุกว่า 50 ปี ภายในโรงเรียน เทศบาล 1 ศรีเกิด โค่นล้มทับศาลาที่พักนักเรียน รถยนต์เสียหาย 2 คัน และรถ จยย. 1 คัน เจ้าหน้าที่ใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นไม้ที่ล้มออกจากพื้นที่ ส่วนที่ถนนพหลโยธินใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ล้มไปพาดเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 8 ต้น ทับรถยนต์เสียหาย 2 คัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.เชียงราย เร่งซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่ล้มเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร และจัดระบบ การจ่ายไฟฟ้าให้ใช้งานได้ตามปกติขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 9 ต.เกรียงไกร อ.เมืองนครสวรรค์ เร่งเก็บกวาดเศษวัสดุ และตัดต้นไม้ที่หักโค่นทับหลังคาบ้าน หลังเกิดพายุฤดูร้อนฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ส่วนที่อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำเกินความจุที่ 11.87 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำไหลล้นสปิลเวย์ลงคลองส่งน้ำไปตามคลองสาขาต่างๆแล้ว ขณะที่ชลประทานนครสวรรค์ให้ข้อมูลว่า เนื่องมาจากฝนตกตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เก็บน้ำเกินความจุทำให้ล้นอ่างเก็บน้ำ เพื่อรักษาความ ปลอดภัยต้องระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ วันละ 60,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่ 8 พ.ค.-7 มิ.ย. แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ อ.ไพศาลี และ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มีพื้นที่อยู่ใกล้ทางน้ำอาจได้รับผลกระทบจ.ขอนแก่น เกิดฝนตกหนัก ลมพายุแรง ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นในซอยศรีจันทร์ 39 หมู่บ้านหนองใหญ่ 2 และหมู่บ้านโพธิบัลลังก์ หมู่ 6 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น บ้านเรือนเสียหายไปบางส่วน ชาวบ้านกว่า 400 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเร่งซ่อมแซมแก้ไข ส่วนที่หมู่บ้านหนองไฮ หมู่ 7 ต.พระลับ อ.เมือง บ้านเสียหาย 10 หลังคาเรือน ด้านนายไพรัช วิทยานุมาศ นายอำเภอชุมพวง จ.นครราชสีมา ร่วมกับหัวหน้า ปภ.จังหวัดนครราชสีมา สาขาชุมพวง นายก อบต. โนนตูม กำนันและผู้ใหญ่บ้าน สำรวจพื้นที่ความเสียหายหลังเกิดพายุฤดูร้อนซัดในพื้นที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา บ้านเรือนเสียหาย 4 หลังคาเรือน พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยขณะที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.บึงกาฬ ร่วมกับฝ่ายปกครอง เทศบาลตำบลวิศิษฐ์ และผู้นำชุมชน เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุในพื้นที่ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ สร้างความเสียหายให้กับคอกสัตว์เลี้ยง บ้านเรือนหลังคาปลิวเสียหาย 40 หลัง นอกจากนี้ ต้นยางพาราถูกแรงลมพัดหักโค่นเสียหายหลายไร่ ส่วนที่วัดสามัคคีอุปถัมภ์ หรือวัดภูกระแต เตรียมจัดงานวันคล้าย วันมรณภาพ และเปิดพิพิธภัณฑ์ “พระญาณสิทธาจารย์ วิ. หรือ (หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม)” อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย (ธ) และอดีตเจ้าอาวาสวัดสามัคคีอุปถัมภ์ (วัดภูกระแต) ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ เกิดลมแรงต้นไม้ใหญ่ทั้งต้นประดู่ และต้นพะยูง ภายในวัดหักโค่นหลายต้น และเสาไฟฟ้าหักอีก 2 ต้น ชาวบ้านต้องช่วยกันเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่โค่นล้มออกนอกพื้นที่จ.นครนายก เกิดลมพายุฝนตกหนักอย่างหนัก จนทำให้บ้านเรือนในเขตเทศบาลเมืองนครนายกได้รับความเสียหาย ต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นตลาดนัดและตลาดโต้รุ่ง แรงพายุทำให้ข้าวของเสียหายเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 15 ต้น ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับทะลุท่อประปาแตก ไม่สามารถจ่ายน้ำประปาได้ ด้านนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผวจ.นครนายก เปิดเผยว่า เขตเทศบาลเมืองนครนายกได้รับความเสียหายมากที่สุด สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการซ่อมแซมเสาไฟฟ้าและการประปาที่เสียหายให้กลับมาใช้ได้ตามปกติ ขณะที่นายยงยศ อิสระเสนารักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองนครนายก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองนครนายก ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือนอาคารต่างๆแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการตัดต้นไม้ที่โค่นล้มกีดขวางการจราจร และการขนย้ายสิ่งของที่เสียหาย นอกจากนี้ เทศบาลฯยังมีงบประมาณฉุกเฉินสำหรับช่วยเหลือประชาชนไว้แล้วอย่างเพียงพอ ผู้เสียหายนำหลักฐานมายื่นขอความ ช่วยเหลือจากทางเทศบาลฯได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจ.สุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง เจ้าหน้าที่ อบต.หนองมะค่าโมง ติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำแล้ว ที่ จ.อ่างทอง พายุฝนกระหน่ำทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับแคมป์คนงานในชุมชนบ้านรอ ต.บางแก้ว อ.เมือง ลูกคนงานเจ็บ 1 คน กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศว่า ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ค. เนื่องจากมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนปกคลุม ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้จากทะเลจีนใต้พัดนำความชื้นเข้ามา ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีฝนตกกระหน่ำต่อเนื่องกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ถนนหลายสายน้ำท่วมขัง อาทิ ถนนพัทยาสาย 3 และถนนเลียบทางรถไฟ ปริมาณน้ำสูงเฉลี่ยกว่า 30-50 ซม. ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรไปมาด้วยความลำบาก ส่วนที่พัทยาใต้มีน้ำท่วมขังสูง 60 ซม. รถ จยย.เครื่องยนต์ดับเสียหายหลายคัน ชาวบ้านเข้าไปช่วยเหลือเข็นรถให้พ้นน้ำเป็นภาพแห่งความประทับ สภาพการจราจรหนาแน่นทุกช่องทาง รถติดยาวหลายกิโลเมตรตั้งแต่ไฟแดงพัทยาใต้ไปถึงทางลอดอุโมงค์พัทยากลาง ทั้งนี้ภายหลังฝนหยุดประมาณ 1 ชม. ระดับน้ำลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ