ร่วมสืบสานงานพระราชดำริใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงวางรากฐานการส่งเสริมงานหัตถกรรมไทยมาอย่างยาวนาน เพื่อให้งานฝีมือไทยสามารถยกระดับชีวิตราษฎรและกลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ “ดีพร้อม” (DIPROM) จึงได้เขียนบทใหม่ของงานหัตถกรรมไทย ด้วยการยกระดับจาก “งานฝีมือ” ที่มองว่าเป็นเพียงงานจากท้องถิ่น ให้กลายเป็น “หัตถอุตสาหกรรม” ที่มีพลังทางเศรษฐกิจและสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้ ณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาห กรรม กล่าวว่า กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย โดยได้ดำเนินนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน เพื่อมุ่งเน้นการปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน พร้อมยกระดับศักยภาพบุคลากรและงานหัตถกรรมไทย ให้มีทักษะและองค์ความรู้ สู่การเป็นหัตถอุตสาหกรรมที่โดดเด่น โดยให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3H คือ Hand (ฝีมือ) Heritage (มิติทางวัฒนธรรม) และ High Value (มูลค่าสูง) ซึ่งเป็นการปฏิวัติแนวคิด ผสานงานฝีมือไทยเข้ากับดีไซน์และนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อสร้างระบบนิเวศที่จะพาผู้ประกอบการงานหัตถกรรมไทยก้าวสู่การเป็นแบรนด์ร่วมสมัยที่โดดเด่นในตลาดระดับโลก ดีพร้อมได้ผสานกลยุทธ์ต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อพัฒนางานหัตถกรรมไทย สู่การเป็นหัตถอุตสาหกรรม โดยในปี 2568 ได้ดำเนินการผ่านกิจกรรมพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) และ กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นจากทุนทางวัฒนธรรมไทยสู่สากล (Fashion Identity) โดยผู้เข้าร่วมล้วนสามารถผสมผสานระหว่างทุนทางวัฒนธรรมจากท้องถิ่นกับการออกแบบที่ร่วมสมัย และสร้างผลงานหัตถอุตสาหกรรมไทยที่สามารถเข้าถึงใจผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศและตลาดสากล ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท สำหรับต้นแบบความสำเร็จที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ VARNI Craft จังหวัดพัทลุง ผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ “กระจูด” จากทุนพระราชทาน สู่แบรนด์หัตถศิลป์พรีเมียมโดย มนัทพงค์ เซ่งฮวด ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ VARNI Craft เล่าว่า สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพบ้านหัวป่าเขียวขึ้น โดยทรงรับซื้อผลงานของชาวบ้านทุกชิ้นด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรหลานผู้ประกอบศิลปาชีพ ตนเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โดยได้รับทุนพระราชทานให้เรียนจนจบปริญญาตรี จึงตั้งใจกลับมาเพื่อพัฒนาชุมชน ด้วยการต่อยอดภูมิปัญญากระจูดพื้นบ้านให้ทันสมัยและยั่งยืน แบรนด์ VARNI Craft จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 2555 ซึ่งได้นำกระจูด วัชพืชที่เติบโตขึ้นในป่าพรุทะเลน้อย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมากว่าหลายร้อยปี มาพัฒนาโดยผสมผสานการออกแบบสมัยใหม่ พัฒนานวัตกรรมการย้อมสี การประยุกต์ลวดลายเป็นลายกราฟิกที่ทันสมัย ผ่านผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย ตั้งแต่ของใช้ในบ้านอย่างโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ งานตกแต่งผนังโรงแรม ไปจนถึงสินค้าแฟชั่น.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่