สร้างบุญใหญ่อีกครั้ง!! เมื่อ ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ ได้ชวนพี่ๆที่เคารพรัก เพ็ชรากรณ์ วัชรพล, สมพงษ์-ภัทรภร วรรณภิญโญ และพี่น้องสายบุญ อาทิ นนท์ณธี ลิ้มสวัสดิ์วงศ์, ปรียามล ธนวิสุทธิ์, อนันติยา กิตติพรหมวงศ์ และหนุ่มน้อยสุดหล่อ ลีโอ-ปิยม์พัชรษ์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ ฯลฯ ร่วมพิธี “มหาบุญจุลกฐิน” ณ วัดพระธาตุดอยเวา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อสมทบทุนจัดสร้างวิหาร “พระเจ้าทองทิพย์สมปรารถนา” พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนเก่าแก่อายุ 700 กว่าปี ขนาดหน้าตัก 25 นิ้ว สร้างในสมัยพ่อพญาแสนภูปกครองเมืองเชียงแสน “จุลกฐิน” ซึ่งแปลว่ากฐินน้อย หมายถึง กฐินที่ต้องทำด้วยความรีบด่วน คนไทยสมัยก่อนเรียกว่า กฐินแล่น แม้ในภาคอีสานปัจจุบันก็ยังมีเรียกชื่อนี้อยู่ วิธีจัดการจุลกฐินนี้ต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียว จึงต้องใช้กำลังคนมาก มีความสามัคคีมาก จึงจะบรรลุจุดหมายแห่งศรัทธาอันแรงกล้านี้ได้ พิธีมหาบุญจุลกฐินในปีนี้ จัดแบบประเพณีโบราณเพื่อคืนวิถีพุทธดั้งเดิม โดยเริ่มตั้งแต่การเก็บดอกฝ้ายจากต้นฝ้ายที่คณะได้เดินทางไปปลูกไว้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยใช้เมล็ดฝ้ายหลวงจากจังหวัดสกลนคร ซึ่งการปลูกฝ้ายถือเป็นกิจกรรมอันดับแรกของงานจุลกฐิน เนื่องจากต้องใช้ฝ้ายเพื่อนำไปทอเป็นผ้ากฐิน ส่วนมากมักจะเริ่มปลูกในต้นฤดูฝน ใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือนให้ฝ้ายโตเต็มที่ออกดอกติดสมอ เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนถึงช่วงออกพรรษา ดอกฝ้ายก็จะแตกออกจากสมอเป็นปุยขาวพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว เมื่อตัดดอกฝ้ายเรียบร้อยแล้ว คณะได้นำไปให้กับกลุ่มทอผ้าไทลื้อกว่า 40 ชีวิต ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีฝีมือในการทอผ้าเป็นที่ประจักษ์ จะนำดอกฝ้ายมาแยกเมล็ด หรือการอีดฝ้าย, การดีดฝ้ายหรือการเก็บฝ้าย, การปั่นฝ้ายหรือหลาปั่นฝ้าย, การย้อมสีเส้นใย, การทอผ้า รวมทั้งการตัดเย็บและย้อมสีผ้า โดยใช้เวลาทุกขั้นตอนตั้งแต่เก็บดอกฝ้ายจนทอเสร็จพร้อมทอดถวาย รวมกันไม่เกิน 24 ชั่วโมง จึงเรียกว่า “ผ้าทันใจ” จากนั้นมีพิธีแห่ “ผ้าจุลกฐิน” รอบองค์พระธาตุดอยเวาที่งดงาม ก่อนทอดถวายแด่พระครูประยุตเจติยานุการ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวา ในทุกๆขั้นตอนของพิธีมหาบุญจุลกฐิน ล้วนแต่เป็นประเพณีที่มีทั้งความน่าเลื่อมใส ความศรัทธา ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้มาร่วมงาน ซึ่งล้วนต่างอิ่มเอิบในการร่วมบุญครั้งนี้เป็นอย่างมาก และเชื่อกันว่า การถวายผ้ากฐิน จะทำให้ผู้ที่มีส่วนร่วมทำการสิ่งใดจะสำเร็จทันใจสมปรารถนา แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง เป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา มีความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน การดำเนินชีวิต มีทรัพย์สมบัติ และสมปรารถนาทุกประการ เมื่อมองย้อนกลับไป ระยะเวลาเพียง 1 ปีนับตั้งแต่ “คุณตุ๊ก-อุษณีย์” ได้ร่วมบุญ ณ วัดพระธาตุดอยเวา ซึ่งตั้งอยู่ดินแดนเหนือสุดแห่งสยาม พระครูประยุตเจติยานุการ ได้รวมสรรพกำลังพัฒนาพื้นที่ต่างๆภายในวัดให้มีความงดงามเป็นอย่างมาก มีการก่อสร้างกุฏิครูบาบุญชุ่ม, การบูรณะบันไดพญานาคโบราณอายุ 244 ปี การก่อสร้างอาคารพญานาคราชวิสุทธิเทวามหานทีศรีสวรรค์บันดาลโชค การสร้างสมเด็จองค์ปฐมนาคปรกสูง 9.99 เมตร ฯลฯ จนแล้วเสร็จ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สกายวอล์กที่ทอดยาวขนานกับแม่น้ำแม่สายอีกด้วย.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่