พอเพื่อนๆที่เคยไปมาแล้ว บอกว่า ปากีสถานตอนเหนือ มีธรรมชาติสวยสุดๆ ถ้าไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะสวยกว่าญี่ปุ่นและยุโรปอีก กับเดินทางสะดวก เพราะ TG มีบินตรง 3 flights ต่อสัปดาห์ บินไปลง Islamabad เลย ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ ก็ชวนแก๊ง จองตั๋วแพ็กกระเป๋า โดยไม่นัดแนะอะไรมากมาย เพราะเดินทางมาปรุ อยากไปไหนก็ไป ค่อยไปหา local tour ขาดเหลืออะไร ไว้ไปแก้ปัญหาข้างหน้า local ทัวร์ เห็นว่าเป็นกลุ่มเล็ก 5 คน เลยจัดเต็ม ให้ไปขึ้นเขา Fairy medow สูง 3,300 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยไม่อธิบายอะไร คนไปก็ไม่ถาม แล้วก็พบว่าทางไป เป็นถนนเล็กๆเลียบหน้าผา น่าหวาดเสียว ต้องใช้รถจี๊บขนาดเล็กถึงไปได้ แต่คนไทยถอยไม่ได้แล้ว สวดมนต์แล้วก็นั่งกระเด้งกระดอนกัน 1 ชม. แล้วก็ไปเจอจุดที่ถนนขาด เพราะหินถล่ม แต่การทางปากีฯไม่ได้แจ้งเตือนตั้งแต่ทางขึ้น ไม่งั้นจะได้ไม่ขึ้นไป ทุกคนจึงต้องลงเดิน เพื่อเปลี่ยนรถจี๊บคันใหม่ แต่นั่งเด้งไปเรื่อยๆ ถนนก็ยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ สุดท้ายรถไปต่อไม่ได้ จึงต้องลงรถ เพื่อขี่ม้าขึ้นเขาอีก 2 ชั่วโมง พอขึ้นไปถึง Fairy Meadow ก็สวยจริงๆ เเต่หนาวมาก กลางคืน -6 องศา เเละไม่มีการใช้ heater ไฟฟ้า เพราะเครื่องปั่นไฟตัวเล็กนิดเดียว ขืนใช้มีหวังไฟดับทั้งเขา ในห้องนอนมีแต่ heater แบบฟืน ที่ต้องเติมฟืนไม้สนกันเองทุก 2 ชม. ก่อนนอน 4 ทุ่ม ก็เลยอัดฟืนเต็มที่ แล้วนอนสลบ เพราะนั่งโยกเยกมาบนรถและบนหลังม้าจนปวดเมื่อยเนื้อตัว เเต่ตอนตี 2 หนาวจัด จน คุณโอ๋-ฐิติพัฒน์ สะดุ้งตื่น ก็เห็นไม้สนในเตามอดไปหมดเเล้ว จะเติมฟืนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในห้องไม่มีทั้งไม้ขีดและไฟเเช็ก ตอนจะเดินทางไปเมืองถัดไป ชื่อ Naran คุณโอ๋ จึงให้ไกด์โทร.ไปเช็กว่า ในห้องพักมี heater เเน่ๆนะ ไม่งั้นจะขอเปลี่ยนโรงเเรม ไกด์แขกปากีฯ ก็ไปถามและมาบอกว่ามีชัวร์ แต่พอไปถึง ปรากฏว่า พวก คุณโอ๋ ต้องนอนหนาว -8 องศาอีกคืน เพราะมี heater จริงๆ แต่เป็น LPG gas heater ซึ่งก่อนนอน พนักงานต้องมาปิดถัง gas เพื่อความปลอดภัย--สรุปคือ heater มี เเต่ห้ามใช้ เพราะถามแค่ว่า มีไหม แต่ไม่ถามว่า ใช้ได้ไหมนี่นา วันสุดท้าย กลับเข้าอิสลามาบัด เพื่อบินกลับบ้าน แต่ flight เกือบเที่ยงคืน จึงมีเวลาไป museum เเละมัสยิดสำคัญ ซึ่งไปถึงนั่น เจอเเก๊งวัยรุ่น ที่ชอบถ่ายรูปกับชาวต่างชาติที่ผิวขาว ตัวสูงๆ พอเห็น คุณโอ๋ ที่ใส่เเว่นกันเเดด มาดเหมือนดาราเกาหลี ก็มีกลุ่มวัยรุ่นแขกที่เมียงๆ มองๆ ทำใจกล้ามาขอถ่ายรูปด้วย จากนั้นก็มีกลุ่มต่างๆมารุมขอถ่ายด้วยแบบเข้าคิว (เพราะมีคณะคุณโอ๋ อยู่กลุ่มเดียว) คนที่ถ่ายเสร็จเเล้ว ก็ไม่เดินไปให้พ้นเฟรม ยังป้วนเปี้ยนเเถวนั้น วนมาถ่ายเดี่ยว ถ่ายหมู่กันไม่เลิก โดยคนไทยก็ปลื้มไปด้วยที่ขายดี จนไกด์ต้องมาเตือน คุณโอ๋ ว่า ต้องไปแล้ว ไม่งั้นจะอดกินข้าวเย็น เเละอด shopping ก่อนไปสนามบิน จึงต้องจบ fan meet คณะกลับมาด้วยความประทับใจ ยกเว้นเรื่องหนาว เพราะอาหารอร่อย เป็นอาหารอินเดียและเคบับรสจัดๆ ข้าวของก็ถูก ผ้าพันคอแคชเมียร์ ผืนละ 500-2,000 บาท ถั่ว แอพริคอตแห้งเชอร์รีแห้ง ก็อร่อย ที่ถูกสุดๆ เหมือนได้ฟรีคือ saffron ทำให้ คุณโอ๋ ตั้งใจจะไปอีกช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะอยากดูดอก Apricot ที่บานสวยเต็มต้น และบานแค่ 10 วันเหมือนซากุระ--สรุปว่า คุณโอ๋ กำลังอินกับเมืองแขก เพราะทริปที่จะไปคือจอร์เจีย และอิหร่าน ซึ่งถ้าได้ไป จะนับเป็นทริปที่ 700++ ภายใน 30 ปี เพราะก่อนนี้ทำงานด้าน international marketing ตั้งแต่อายุ 24 จึงเดินทางบ่อยมาก เดือนละ 2-3 ครั้ง หรือปีละ 24-25 ครั้ง พอมาทำธุรกิจตัวเอง คือ THANN ก็ยังเดินทางมากเหมือนเดิม เพื่อไปดูสาขาและลูกค้าในประเทศต่างๆ ที่ไปบ่อยสุดคือ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ โฮจิมินห์ เมืองละไม่ต่ำกว่า 50 รอบ.โสมชบาคลิกอ่านคอลัมน์ "ของว่างวันอาทิตย์" เพิ่มเติม