“การวิ่ง” กิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่ครองใจคนรักสุขภาพ ซึ่งหลังจากวิ่งแล้วไม่รู้จะกินอะไรดีที่ไม่ทำให้รู้สึกผิด! บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ ที่ได้ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร ภาครัฐและเอกชนได้ริเริ่มจัด “วิ่ง เอ็น.ซี.ซี.- รยส. มินิมาราธอนเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จึงได้นำข้อมูลดีๆ จาก ผศ.นพ.ชายวุฒิ สววิบูลย์ อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านเวชบำบัดวิกฤติ และโภชนบำบัดคลินิก โรงพยาบาลเมดพาร์ค สำหรับนักวิ่งที่อยากเติมพลังให้ร่างกายแบบไม่พังแพลนสุขภาพของตัวเอง มาฝาก คุณหมอชายวุฒิ ได้สรุปง่ายๆ ว่า สำหรับการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มหลังวิ่ง หลังการออก กำลังกายนั้น ตามข้อมูลของสมาคมโภชนาการการกีฬาระหว่างประเทศ ได้แนะนำว่าควรรับประทานคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ภายใน 30 นาที หรือไม่เกิน 2 ชั่วโมงหลังการออกกำลังกาย เป็นช่วงที่ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปใช้ซ่อมแซม เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดีที่สุด โดยวัยที่ไม่เกิน 20 ปี แนะนำให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง และมีโปรตีนย่อยง่าย เช่น กล้วยหอม นมจืด ไข่ต้ม ผักสลัด น้ำส้มคั้นสด เป็นต้น ซึ่งปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความฟิต แล้วก็ระยะทางที่จะวิ่ง รวมถึง อายุ เพศ ส่วนสูงด้วย สำหรับช่วงวัย 21-40 ปี เน้นการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีโปรตีนคุณภาพดี เช่น ขนมปังโฮลวีต ถั่ว โยเกิร์ตไขมันต่ำ ข้าวกล้อง อกไก่ เป็นต้น ช่วงวัย 40 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุ หลังวิ่งหรือออกกำลังกายควรทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีโปรตีนย่อยง่ายเพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น โจ๊กข้าวกล้อง ไข่ลวก หรือซุปฟักทองที่ใช้นมถั่วเหลืองในการทำ ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น และนอกจากนั้น ทุกกลุ่มวัยควรดื่มน้ำหลังออกกำลังกาย หรือวิ่ง ในช่วง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ และซ่อมแซมกล้ามเนื้อ โดยปกติจะอยู่ที่ปริมาณ 500-600 ml พร้อมกันนี้ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้นำเสนอเมนูง่ายๆ สำหรับนักวิ่งที่สามารถแวะมาเติมพลังที่ร้านอาหารในศูนย์สิริกิติ์ฯ อาทิ ร้าน Cafe Chilli ชั้น LG เตรียมเสิร์ฟเมนูแซ่บสไตล์เฮลตี้ดีต่อสุขภาพ มีโปรตีนสูง สมุนไพรแน่น และเหมาะเป็นมื้อฟื้นฟูหลังวิ่งหรือออกกำลังกาย ได้แก่ต้มยำไก่กะละมังใบส้มป่อย ที่ใช้ไก่สับทั้งตัว นำไปรวนเล็กน้อย ก่อนต้มใส่เครื่องในสูตรออริจินอลตามแบบฉบับอีสาน โรยด้วยใบมะขามที่มีรสชาติเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ ตามด้วย ส้มตำนัตตี้อโวคาโด ที่ผสมผสานความลงตัวระหว่าง “รสแซ่บแบบไทย” ของน้ำส้มตำ กับ ความหอมมันของอะโวคาโด พร้อมด้วยความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้ทั้งพลังงานดี ไขมันดี หรือจะอร่อยแบบสุขภาพดีที่ร้าน Viet Cuisine ชั้น LG ที่นำเสนอ บาแกตเวียดนามหน้าแหนมเนือง ขนมปังฝรั่งเศสนำมาประยุกต์ใส่หน้าแหนมเนือง และผักสด ปรุงรสด้วย สลัดครีมผสมกับน้ำจิ้มแหนมเนือง รสเด็ด ทานคู่กับเครื่องดื่มสมุนไพรน้ำตะไคร้ต้มสดผสมน้ำมะนาว หอมหวานเปรี้ยวอุดมด้วยน้ำมันหอมระเหย และวิตามินซี มื้อเบาๆ ที่มีทั้งไฟเบอร์ โปรตีน และคาร์บคุณภาพ อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่