หนุ่มน้อยที่สร้างธุรกิจจากการค้นคว้าหาวิธีแก้ปัญหาโรคที่ตัวเองเผชิญ อรุษ ชินสุภัคกุล ซึ่งประสบความสำเร็จไม่เฉพาะได้สร้างคุณภาพชีวิตของตัวเองและคนอื่นที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันให้ดีขึ้นเท่านั้น ยังสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่กลุ่มเด็กผู้ด้อยโอกาสและเด็กๆในต่างจังหวัดอีกด้วยอรุษ ชินสุภัคกุล หรือ “อาชว์” หนุ่มน้อยวัย 17 ปีจากโรงเรียน Phillips Exeter Academy สหรัฐฯ เล่าถึงธุรกิจที่ตนเองริเริ่มว่า อาชว์มีปัญหาเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง (eczema) มาตั้งแต่เด็ก ต้องทนอาการแสบ คัน และผื่นแดง นอกจากนี้อาชว์เป็นนักกีฬาเทนนิส เล่นกีฬาเหงื่อและแดดทำให้อาการไม่ดีขึ้นเลย แล้วอาชว์ จะโดนล้อมาตลอด พอตอนอายุ 12 ปี ที่บ้านคุณยายทำสวนสมุนไพร คุณยายกับอาชว์ก็เลยทดลองทำสบู่ขึ้นมา แต่กว่าจะได้สบู่ที่สูตรถูกต้องใช้เวลานานเป็นปีเลย “เราพัฒนาสบู่สูตรเฉพาะด้วยตนเองจากครัวของบ้าน โดยใช้ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย เช่น ว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว และอื่นๆ ภายใต้คำแนะนำของเภสัชกรและแพทย์ผิวหนัง ตอนแรกๆที่ทำ ผมก็ท้อนะครับ เพราะมีปัญหาเยอะมาก เช่น สบู่ไม่เข้าตัวละลายไปหมด ไม่มีฟอง ไม่มีกลิ่น เราก็ปรับไปปรับมา จนได้ผลิตภัณฑ์แบรนด์สบู่ธรรมชาติสำหรับผิวแพ้ง่าย ในแบรนด์ ART&ALICE ที่เป็นชื่อผมกับน้องสาว แบรนด์เราผ่านการรับรองจาก Greenleaf Chemical ว่า “ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง” และจดแจ้งกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้องครับ โดยมีการจำหน่ายที่ www.artandalice.co, Shopee และ IG/FB :@ artandalice ครับ”ธุรกิจของผู้บริหารรุ่นเยาว์คนนี้ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ตนเองเผชิญเท่านั้น ธุรกิจของเขายังช่วยคนในสังคมเปลี่ยนชีวิตคนได้จำนวนมาก “ตอนทำเราแก้สูตรอยู่หลายรอบมากครับ แต่ไม่ท้อเพราะผมเห็นว่าเมืองไทยมีเด็กเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังเยอะ ผมไม่อยากให้คนอื่นใช้ชีวิตแบบผมตอนเด็กๆ พอทำได้สำเร็จเห็นสบู่ก้อนแรกของตัวเอง ก็ช็อกนะครับ ที่ความฝันเป็นจริง รู้สึกภูมิใจ อยากให้เด็กคนอื่นได้ใช้สบู่ของเราที่อ่อนโยนต่อผิว และอ่อนโยนต่อโลกไปพร้อมกัน และ Art & Alice ของเราไม่ได้ดูแลผิวพรรณ แต่เราทำภารกิจเพื่อสังคม สร้างงาน การพัฒนาเยาวชน และการเกษตรยั่งยืนอีกครับ”ในการทำงานของนักธุรกิจรุ่นใหม่คนนี้ ได้สร้างธุรกิจยั่งยืนด้วยการทำงานผ่าน Happy Worm Farm ฟื้นฟูดิน สร้างรายได้ให้ชุมชน ณ จังหวัดปราจีนบุรี โดยจัดตั้งฟาร์มไส้เดือนพันธุ์ African Nightcrawler เพื่อแปรรูปเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ใช้ในการเพาะปลูกว่านหางจระเข้และสมุนไพรสำหรับสบู่ อีกทั้งยังแบ่งปันองค์ความรู้ให้แก่โรงเรียนและเกษตรกรในท้องถิ่น พร้อมทั้งทำโครงการโรงเรียนว่านหางจระเข้-ปลูกทักษะชีวิตผ่านสมุนไพร ร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อเด็ก และโรงเรียนสัตยาไส จัดการเรียนรู้แบบลงมือทำจริง จนกลายเป็นทั้งแหล่งรายได้ ทักษะอาชีพ นอกจากนี้รายได้ยังถูกส่งต่อไปยังโครงการเพื่อสังคมที่หลากหลาย อาทิ ทุนการศึกษา เวิร์กช็อปทำสบู่สำหรับนักเรียนตาบอดและผู้พิการ ฯลฯ “สิ่งที่เริ่มจากปัญหาส่วนตัว กลายเป็นแรงผลักดันให้ผมสร้างสบู่ที่ไม่เพียงช่วยตัวเอง แต่ยังช่วยผู้อื่นได้ด้วย ผมเชื่อว่าสบู่ก้อนหนึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าที่เราคิด”...แนวคิดของหนุ่มน้อยคนนี้.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่