เพื่อสืบสานความงดงามของมรดกหัตถศิลป์ไทยอันทรงคุณค่าให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยอย่างยั่งยืน “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดงาน “สืบสานใจ หัตถศิลป์ไทย สู่สากล” EM DISTRICT SENSE OF THAI 2025 ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ พร้อมทรงผนึกกำลัง 14 แบรนด์ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย ได้แก่ SIRIVANNAVARI, TIRAPAN, THEATRE, ASAVA, ISSUE, CHAI GOLD LABEL, WISHARAWISH, MILIN, VICKTEERUT, ARCHIVE026, TANDT, JANESUDA, LANDMEÉ และ IRADA ร่วมสร้างสรรค์แฟชั่นโชว์สุดตระการตา “THE SYMPHONY OF THAI TEXTILES” บรรเลงท่วงทำนองแห่งแฟชั่นผ่านมนต์เสน่ห์ของเส้นใยผ้าไทยจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และชุมชนต่างๆ พาเหรดมาครบทั้งผ้าไหมพิมพ์ลายพระราชทานทั้ง 5 ลาย, ผ้าไหมลายตาราง และผ้าไหมสีเรียบ รังสรรค์ออกมาเป็น 42 ผลงานแฟชั่นดีไซน์ร่วมสมัยอันเปี่ยมอัตลักษณ์โดย “เอ็ม ดิสทริค” และ 14 ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย ร่วมใจกันนำรายได้จากการจำหน่ายชุดคอลเลกชันผ้าไทยภายในงาน เพื่อมอบสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านทางสภากาชาดไทย งาน “สืบสานใจ หัตถศิลป์ไทย สู่สากล” EM DISTRICT SENSE OF THAI 2025 จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง “เอ็ม ดิสทริค”, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เพื่อสืบสานงานหัตถศิลป์ไทย ตามรอยพระราชปณิธานที่ทรงทุ่มเทมาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี นำไปสู่การสร้างชีวิตและอาชีพให้แก่พสกนิกรชาวไทย และรักษามรดกภูมิปัญญาแห่งไทยอันล้ำค่าให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ยังได้น้อมนำแนวพระราชปณิธานใน “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ที่ทรงพัฒนา, ต่อยอด และสืบสานอนุรักษ์ผ้าไทยและงานหัตถศิลป์ไทย โดยทรงมีส่วนจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายและผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย สามารถก้าวสู่ระดับสากลเพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน ซึ่งพระราชกรณียกิจของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ โดยล่าสุด องค์การยูเนสโกได้ประกาศเชิดชูพระเกียรติของพระองค์ และทูลเกล้าฯถวายเหรียญสดุดีพระราชกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมและการส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย สำหรับแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ทรงร่วมออกแบบเอกซ์คลูซีฟคอลเลกชัน ภายใต้แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ด้วยแนวคิด “DEVOTIONAL DESIGN” ทรงมีพระวิสัยทัศน์ลึกซึ้งในการอนุรักษ์ผ้าไทยดั้งเดิม ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดความร่วมสมัยอย่างกลมกลืน โดยองค์ดีไซเนอร์ทรงเน้นงานฝีมือชั้นสูง ผ่านเทคนิคการพาด, พัน และจับเดรปด้วยมือ ซึ่งถือเป็นหัวใจของแบรนด์ อีกทั้งให้ความสำคัญกับการใช้ผ้าผืนใหญ่ เพื่อคงไว้ซึ่งความงดงามตามธรรมชาติของเนื้อผ้า โดยหลีกเลี่ยงการตัดเย็บที่เกินจำเป็น และมุ่งเน้นการแสดงเสน่ห์ของผ้าไทย แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” นำเสนอชุดเดรสผ้าไทยร่วมสมัย 2 ลุค ได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเลกชันสปริง/ ซัมเมอร์ 2023 โดยลุคแรกเป็นชุดผ้าไหมมัดหมี่สีชมพูฟูเชียดีไซน์เปิดไหล่ ใช้ลูกเล่นจับรูดและแต่งระบายอ่อนพลิ้ว ผ่าด้านหน้าสูง ผสมลูกเล่นชายกระโปรงเฉียง พร้อมประดับรายละเอียดด้วยงานปักชั้นสูงจากช่างฝีมือ และอีกหนึ่งลุคเป็นชุดผ้าไหมมัดหมี่สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ถ่ายทอดความเป็นสากล ผ่านการเดรปผ้าไทยผสานเข้ากับคอร์เซตลูกไม้ฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยดีไซน์เดรปแบบไม่สมมาตร ที่สร้างจังหวะดึงดูดสายตา พร้อมประดับงานปักบริเวณช่วงอก และเผยเสน่ห์ผ่านการผ่าขาสูงอย่างงดงาม ทั้งนี้ผ้าทั้งสองชุดล้วนเป็นผ้าจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ อันสะท้อนถึงการสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์งานศิลป์แผ่นดิน ควบคู่กับการพัฒนาสู่อนาคตได้อย่างลงตัว สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมนิทรรศการ “THAI TEXTILES EXHIBITION” ที่นำผลงานการออกแบบชุดผ้าไทยจาก 14 แบรนด์ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย มาจัดแสดงให้ได้ชม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการส่งเสริมและอนุรักษ์ผ้าไทยอย่างยั่งยืน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 13 ส.ค.2568 ณ เอ็ม สเตชัน ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม (ทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์) พร้อมกันนี้ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเชิดชูมรดกหัตถศิลป์ไทย และสืบสานความภาคภูมิใจในคุณค่าแห่งความเป็นไทย ด้วยการช็อปผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทยสุดประณีตในโซน “THAI CRAFT MARKET” ซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯคัดสรรมาให้เลือกอย่างจุใจ ณ เอ็ม มาร์เก็ต ฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ โดยมีสินค้าไฮไลต์คือ ผ้าลาย “สิริราชพัสตราภรณ์” ผ้าไหมพิมพ์ลายพระราชทาน ปี 2568 ทั้งลายดอกพุดตาน, ลายหัวใจดอกพุดตาน, ลายมยุรสิริ, ลายม้า และลายขอเจ้าฟ้าฯ 2568 นำมาจำหน่ายเป็นครั้งแรกในจำนวนจำกัด เสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพอีกมากมาย อาทิ “ผ้าไหมมัดหมี่ลวดลายร่วมสมัย” เช่น ลายดาว ลายคลื่นทะเล และลายยามเย็น, “ผ้าขนแกะ” จากสมาชิกศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน, “ดอกไม้ประดิษฐ์” เช่น ดอกวิสทีเรีย ดอกลาเวนเดอร์ เอื้องผึ้ง เอื้องม่อนไข่ และเอื้องช้างน้าว ตามแนวพระราชดำริฯเมื่อครั้งเสด็จไปทรงงาน ณ จังหวัดเชียงใหม่, “เครื่องเคลือบดินเผา” ชุดสำรับไทยดีไซน์ใหม่, “ไอศกรีมสามมิติ” จากพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ มาครบทั้งลายประตูพระบรมมหาราชวัง ลายกระเบื้องวัดพระแก้ว และลายช้าง พร้อมรับชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในวันที่ 2-3 ส.ค. และ 9-12 ส.ค.2568 รอบ 15.30 น. และรอบ 16.30 น. ที่เอ็ม มาร์เก็ต ฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์. ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่