เป็นแม่หมอคนแรกของเมืองไทยที่ประกาศว่า จะล้างพอร์ตหุ้นให้หมดก่อนวันเกิดเมืองปี 2568 เพราะเห็นเค้าลางของพายุเศรษฐกิจ ล่าสุด “ป้าฟอง–ฟองสนาน จามรจันทร์” ออกโรงเตือนอีกครั้งให้เตรียมรับมือกับสงครามเศรษฐกิจครั้งใหญ่ระดับน้องๆวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยตลอด 1 ปีเต็มนับจากนี้ จนถึง 21 เมษายน 2569 ประเทศไทยจะอยู่ในช่วงเข้าเคราะห์ทางเศรษฐกิจให้คนไทยช่วยกันตีฝ่า ชี้อุบัติภัยครั้งใหญ่ยังรอเกิดอีกสามรอบ จับตาเดือนพฤษภาคมนี้ การเมืองผันผวนหนักรัฐบาลเขย่าแรง อะไรรออยู่เมื่อเมืองรัตนโกสินทร์อายุย่าง 244 ปีเมืองรัตนโกสินทร์ถือกำเนิดวินาทีที่วางเสาหลักเมืองตามพระราชพิธีพระนครฐาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 อายุจะครบ 243 ปี และย่างเข้า 244 ปี เริ่มวันที่ 21 เมษายน 2568 เป็นต้นไป ในวาระครบรอบวันเกิดเมือง ปี 2568 ขอประมวลและสกัดย้ำคำทำนายที่เคยให้ไว้เป็นเกณฑ์สำคัญ พอได้เป็นแนวทางทั้งลบและบวก ที่คาดว่าจะเกิดในเมืองตั้งแต่ 21 เมษายน 2568 ถึง 21 เมษายน 2569 จับตาเป็นพิเศษคือเดือนพฤษภาคมนี้ มีดาวสำคัญทางโหรที่เรียกว่า “ตรีเทพ” ย้ายราศีพร้อมกันถึง 3 ดวง คือ “พระราหูจร” เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมาและอวิชชา, “พระพฤหัสบดีจร” เจ้าแห่งปัญญาพิสุทธิ์และหัวหน้าดาวดี เทวดาประจำตัวทุกคน และ “พระเสาร์จร” เทพเจ้าแห่งความระทมทุกข์7 ปี ปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ...ตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจโลกเตรียมรับแรงกระแทก และความผันผวนทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยต้องตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจ และเผชิญกับการปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 และจะไปสิ้นสุดประมาณกรกฎาคม 2572 อันเกิดจาก “มฤตยูจร” เจ้าของภัยอาเพศ เป็นตัวแทนภพลาภะของดวงโลกและดวงเมือง เดินเข้า “ราศีพฤษภ” ซึ่งเป็นดินแดนของการทำมาหาได้ หรือเศรษฐกิจของเมืองและโลก ส่วนใหญ่คนเตรียมรับสงครามโลก บางคนตุนยาตุนอาหารตุนปัจจัยสี่ “ป้าฟอง” บอกว่ารอบนี้ไม่ใช่สงครามโลก แต่จะเป็นสงครามเศรษฐกิจ!! ถ้ามีการรบกันจะเป็นการรบกันเป็นจุดๆ ซึ่งเป็นผลจากเรื่องเศรษฐกิจ เตือนมาตั้งแต่ปี 2564 เกณฑ์นี้จะมีปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ และเมืองต้องตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจ มันเป็นมาตั้งแต่กรกฎาคม 2565 เมื่อถึงปี 2572 เรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่าเศรษฐกิจของเมืองไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร เตือนวิกฤติใหญ่น้องๆต้มยำกุ้งรออยู่ระหว่างวันเกิดเมือง 21 เมษายน 2568 ถึง 21 เมษายน 2569 จะเป็นระยะที่มีเกณฑ์ออกแนวลบมาก คือเมืองอยู่ในช่วงเข้าเคราะห์ทางเศรษฐกิจ ให้คนในเมืองช่วยกันตีฝ่า โดยเหตุมีทั้งจากภายนอก คือสงครามเศรษฐกิจโลก และปัจจัยภายในเน่าเอง ที่อาจจะก่อให้เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจในระดับน้องๆต้มยำกุ้ง จับตาระหว่าง 19 พฤษภาคม ถึง 23 สิงหาคม 2568 ตลาดหุ้นอาจมีเซอร์กิตเบรกเกอร์สักครั้งสองครั้งในรอบวันเกิดเมืองปีนี้ถึงวันเกิดเมืองปีหน้า “ป้าฟอง” พูดมานานแล้วว่าจะล้างพอร์ตหุ้นให้หมดก่อนวันเกิดเมืองปี 2568 เพราะเห็นเกณฑ์ตัวนี้ เมืองโดนแน่ และมันไม่จบง่ายๆ จะกินเวลายาวไปถึงวันเกิดเมืองปีหน้า คือ 21 เมษายน 2569 ถึง 21 เมษายน 2570แนะคู่มือเอาตัวรอดจากสงครามเศรษฐกิจโลกคนไทยอย่าตกงานและอย่าเป็นหนี้จะดีที่สุด สำหรับประเทศไทยนั้นคู่มือเอาตัวรอดจากสงครามเศรษฐกิจโลก คือการทูตที่เหนือชั้น โดยร่วมกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาเซียนเจรจาต่อรอง และยึดนโยบายหามิตรมากกว่าศัตรู แม้จะต่างอุดมการณ์ต่างความคิด เช่นในอดีตเคยมีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้ามาแล้วในสมัยน้าชาติ (พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) ชี้ภาคธุรกิจกินบุญเก่า...พลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้ภาคธุรกิจที่มีแนวโน้มบวกสวนกระแสยุ่งยากทางเศรษฐกิจ โดยได้กินบุญเก่า คือธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเดินทาง, การติดต่อสื่อสาร, โลจิสติกส์, ข้อมูลข่าวสาร-ดาต้า, นายหน้า, บัญชี, งานประพันธ์, กิจกรรมประโลมโลก ทั้งละคร-หนังฟอร์มใหญ่-หมอดู, การแพทย์สุขภาพอนามัย และการสาธารณสุข จะมีความก้าวหน้าโดดเด่น ได้รับการยอมรับระดับโลกในบางเรื่องบางบุคคล เช่นเดียวกับธุรกิจการศึกษาระดับก่อนมหาวิทยาลัย และการศึกษาสองภาษา จะเฟื่องสวนกระแสพฤษภาคมนี้การเมืองผันผวนหนัก...รัฐบาลเขย่าแรงเกิดความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จะเริ่มเห็นตั้งแต่พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งน่าจะมากกว่าการปรับคณะรัฐมนตรี ให้จับตาการสวนกัน หรือเดินคนละทางในพรรคร่วมรัฐบาล โดยรอบนี้น่าจะมีฝ่ายผู้ทรงศีล, แพทย์, บัณฑิต หรือผู้รู้ทั้งหลาย รวมถึงกระบวนการยุติธรรมและวุฒิสภา ผสมโรงจนมีใครสักคน หรือพรรค ต้องจำใจจากกัน คิดว่าจะมีการเปลี่ยนใหญ่มากกว่าแค่ปรับ ครม. ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นระดับใด รัฐบาลจะได้เดินหน้าบริหารประเทศอย่างเต็มที่ ตั้งแต่กลางพฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป อุบัติภัยครั้งใหญ่ยังรอเกิดอีกสามรอบแม้แผ่นดินไหวไปแล้วที่มัณฑะเลย์ ขนาด 8.2 ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมตึก สตง. ที่กำลังก่อสร้างถล่มบาดเจ็บล้มตาย-สูญหาย-ขายหน้าไปแล้ว แต่อุบัติเหตุและอุบัติภัยครั้งใหญ่ยังรอเกิดต่ออีกสามรอบ สาเหตุอาจมาได้จากทุกทาง ทั้งดินที่อาจถล่ม หรือแผ่นดินไหว-น้ำท่วม-ลม หรืออากาศ หรือแก๊ส หรือพายุ-ไฟ-ควัน หรืออาวุธ หรือระเบิด ให้เป็นข่าวใหญ่ระดับโลก เตือนระหว่าง 26 กรกฎาคม ถึง 23 สิงหาคม 2568 (ก่อนและหลังเจ็ดวัน) รอบนี้จะหนักสุดในเรื่องการพลัดพราก สูญเสียเศร้าโศกเสียใจ ส่วนระหว่าง 12 กันยายน ถึง 6 ธันวาคม 2568 (ก่อนและหลังเจ็ดวัน) ระยะนี้อาจมีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก จากทางลม หรือพายุ หรือน้ำแทรกเข้ามา และระหว่าง 16 ธันวาคม ถึงสิ้นปี 2568 เมืองจะอุดมไปด้วยพายุ ได้รับอิทธิพลจากพายุระดับต่ำกว่า หรือดีเปรสชันขึ้นไป ประมาณ 4 ลูก เตือนน้ำจะเริ่มท่วมเมืองในวงกว้าง ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2568 ไม่ท่วมหนักเป็นจุดๆเหมือนปี 2567 แต่ไม่ว่าจะท่วมวงกว้างขนาดไหนยังไม่ใช่มหาอุทกภัยเหมือนปี 2554 เตือนเลือดตกยางออกในเมือง...โรคระบาดและไฟไหม้ใหญ่เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ระหว่างวันเกิดเมือง 21 เมษายน 2568 ถึง 21 เมษายน 2569 ที่เหตุใหญ่อีกกลุ่มรอจะเกิดในเมือง ตามโฉลกชี้ว่า “มักพาลผิดญาติกา” จะมีการผิดใจในหมู่ญาติพี่น้องคนสำคัญ, “ติโรคาอัคคีภัย” อาจมีโรคระบาด หรือไฟไหม้ครั้งใหญ่, “โลหิตไหลจากตน” มีเรื่องเลือดตกยางออกในเมือง ให้แก้เคล็ดด้วยการช่วยกันบริจาคโลหิต, “หนูหน่ายกลบีฑา กัดวัตถาแพรพรรณ” หนูหรือสัตว์ฟันแทะอาละวาด, “ของรักใดประหยัด เร่งระมัดจงดี” สิ่งของอะไรหรือใครที่เป็นของรักในเมืองต้องระวังให้ดี ทั้งสิ่งของและตัวบุคคล เน้นไปที่วงการบันเทิง-นักร้องนักแสดง หรือคนเด่นคนดังระดับพระยาและนางพญา ข่าวดีในข่าวร้าย!! เสียอะไรไปหากสู้ก็จะได้กลับคืนมาไม่ว่าเมืองจะเสียอะไรไปก่อนแล้ว หากสู้ก็จะได้กลับมา เกณฑ์นี้จะเป็นไปถึง 14 กุมภาพันธ์ 2569 เช่น เมืองได้การบินไทยกลับมา หลังจากเกิดปัญหาหนัก หรือได้ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” กลับประเทศ โดยระหว่างตุลาคม ถึงธันวาคม 2568 ยังมีเค้าลางการเกิดโครงการสำคัญระดับชาติที่จะได้ใช้เป็นฐานสำคัญของประเทศต่อไป และเค้าลางการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ด้านพลังงานในทะเล ทั้งสองเกณฑ์นี้จะไปปรากฎเต็มที่ในปี 2569.ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่