หัวหน้าทีมซอกแซกเขียนเล่าไว้ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์แล้วว่า หัวหน้าทีมและคณะปักหลักเที่ยวอยู่ในเมืองหลวง หรือ กทม. นี่เอง ไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ เลยเพราะทราบดีว่า ท้องถนนในกรุงเทพฯ (ยกเว้นจุดที่จัดงานสงกรานต์) จะว่างมากสามารถขับรถไปไหนมาไหนได้สะดวก ขอเพียงอย่าหลงไปแถวๆ ที่มีการเล่นสาดน้ำ หรือมีการจัดงานสงกรานต์ ซึ่งเขาก็จะประกาศให้ทราบล่วงหน้าอยู่แล้วทำให้หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสตะลอนไปเกือบทั่วฝั่งธนบุรี ซึ่งในช่วงเวลาปกติจะไปยากมาก เพราะรถติดมากเนื่องจากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายๆ สายขณะเดียวกันก็ขับรถไปเที่ยวสมุทรปราการ ตระเวนไปจนทั่วเมืองปากน้ำ ผ่านทั้งสถานตากอากาศบางปู, เมืองโบราณ, และฟาร์มจระเข้ ที่กลับมาเปิดใหม่ ฯลฯ ตระเวนรอบสมุทรปราการ ซึ่งปกติก็ไปยากเช่นกัน อย่างทะลุปรุโปร่งด้วยความสุขใจ และตื่นตาตื่นใจได้เห็นความเจริญเติบโต การขยายตัวและการมีรถไฟฟ้า ไปเชื่อมโยงถึง 2 สายในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็ได้เห็นการขยายถนนสายสุขุมวิท ที่เมื่อก่อนเราไปพัทยา ไปบางแสนจะต้องผ่านสมุทรปราการ ไปข้ามแม่น้ำบางปะกง เข้าจังหวัดชลบุรี ซึ่งสมัยก่อนเป็นถนนแคบๆ 2 เลนสวนกัน แต่สมัยนี้กว้างใหญ่มากจำแทบไม่ได้เลยครับยังเก็บมาเขียนในคอลัมน์ปกติอยู่หลายวัน ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาพอดีในการไปครั้งนี้ ทีมงานซอกแซกมี “เด็กจิ๋ว” ไปด้วย และต่างก็เรียกร้องที่จะแวะเข้าเยี่ยมชม “หอชมเมืองสมุทรปราการ” หรือ “หอคอยเมืองปากน้ำ” ที่เปิดมาได้เกือบ 2 ปีเข้านี่แล้วคณะของเราจึงแวะเข้าไปเยี่ยมชมด้วย แม้จะไม่สามารถเข้าชมในส่วนนิทรรศการ “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” ได้เพราะต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า เพราะเขาจะพาเดินชมเป็นรอบๆ และเป็นกลุ่มๆ เท่านั้นแต่คณะก็มีโอกาสได้ขึ้นสู่จุดชมเมือง หรือชั้น 23 เกือบถึงยอดหอคอย สามารถเดินชมเมืองสมุทรปราการเห็นไกลย้อนกลับมาถึงเมืองบางกอก หรือกรุงเทพมหานคร ได้ในหลายๆ จุดขณะเดียวกัน ตัวหัวหน้าทีมซอกแซกเองได้เคยมาเยี่ยมชม “นิทรรศการ” ที่ยอดเยี่ยมของเมืองปากน้ำมาแล้วหนหนึ่ง เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ยังเก็บข้อมูลไว้มิได้เขียนถึง ก็จะได้ถือโอกาสเขียนแนะนำเสียด้วยในสัปดาห์นี้เลยสำหรับ “หอชมเมือง” หรือ “หอคอยสมุทรปราการ” แห่งนี้นั้น มีชื่อเต็มๆ อย่างเป็นทางการว่า “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” ลงมือก่อสร้างมาตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.2555 มาแล้วเสร็จ และเปิดให้ชม ครั้งแรกเมื่อปลายๆ เดือนสิงหาคม 2565 หรือเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ใช้งบประมาณเกือบๆ 600 ล้านบาทสถานที่ก่อสร้างแต่เดิมเคยเป็น “คุก” หรือ “เรือนจำ” สมุทรปราการ ซึ่งได้มีการโยกย้ายไปที่ใหม่ ณ ตำบลคลองด่าน อ.บางบ่อ กว่า 20 ปีมาแล้ว และทันทีที่ย้าย คุกออกไป ทางเทศบาลนครสมุทรปราการ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ก็เห็นพ้องต้องกันที่จะจัดสร้างหอชมเมือง และพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เกี่ยวกับอ่าวไทย และเมืองสมุทรปราการเพื่อ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปากน้ำ จึงได้เริ่มจัดสรรงบประมาณดำเนินการ และออกแบบตั้งแต่บัดนั้นแม้จะต้องใช้เวลาก่อสร้างนานพอสมควร แต่เมื่อแล้วเสร็จ เปิดให้ประชาชนเข้าชม ก็ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นโครงการที่คุ้มค่า และกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเมืองสมุทรปราการ หลังจากพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเข้ามาเยี่ยมชม พร้อมกับมีการรีวิวเผยแพร่ข่าวคราวอย่างกว้างขวางอุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ มีขนาดพื้นที่ใช้งานทั้งสิ้นเกือบๆ 14,000 ตารางเมตร มีความสูง 179.55 เมตร ก่อสร้างเป็นอาคารทรงกลม มีส่วนฐานและส่วนที่สูงขึ้นไปเป็นยอดหอคอยบนอากาศรวม 2 ส่วนบนชั้น 23 จะออกแบบเป็นชั้นที่เดินได้โดยรอบ 360 องศา มองผ่านกระจกที่สร้างอย่างแข็งแรงออกมาจะเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานคร มาจนถึงสมุทรปราการ แล้วไปออกสู่ท้องทะเลในที่สุด พร้อมกับตั้งจุดชมวิวไว้เป็นจุดๆ สามารถดูได้รอบทิศทางจุดชมวิวที่ว่านี้ถือเป็นจุดยอดนิยมสูงสุด เพราะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และสามารถขึ้นไปชมได้โดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า...มาเมื่อไรหากยังมีที่ว่างก็สามารถขึ้นไปชมได้เมื่อนั้นจุดที่ต้องนัดหมายก่อนได้แก่ บริเวณสถานที่แสดงนิทรรศการ “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” นั่นเอง เพราะจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ 6 โซน เวียนไปรอบๆ ยอดหอคอย เพื่อชมเรื่องราวในแต่ละโซนที่จัดเตรียมไว้ได้แก่1.ปากน้ำเมื่อนานมา2.เข้าท่าเมืองหน้าด่าน3.ปรากฏเป็นปราการ4.ปราการป้องแผ่นดิน5.หน้าด่านสานเศรษฐกิจและ 6.มอง (กาล) ไกลไปด่านหน้า อันหมายถึงความสำคัญและความก้าวหน้าของปากน้ำในอนาคตแต่ละด่านแต่ละโซนจัดทำได้อย่างมืออาชีพโดยบริษัท ไรท์ แมน ผู้ฝากผลงานทางด้านพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ไว้มากมาย โดยเฉพาะ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ อันโด่งดังมากที่ถนนราชดำเนิน และ พิพิธภัณฑ์บางลำพู ตลอดจน พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณ์ เป็นต้นหัวหน้าทีมซอกแซกเคยมาดูชมโซนต่างๆตั้งแต่ยังไม่แล้วเสร็จดี และยังจดจำความยิ่งใหญ่อลังการของการแสดงส่วนนี้มาจนถึงบัดนี้ทีมงานซอกแซกใช้เวลาเดิมชมวิวรอบๆ หอคอยสมุทรปราการ อยู่เกือบ 20 นาที ก่อนจะกลับลงมาพาทีมงานซอกแซกรุ่นจิ๋วไปดู ไดโนเสาร์ ขนาดเท่าของจริงจำนวนหนึ่ง ที่สร้างไว้ด้านหน้าหอคอยกำลังจะเขียนบอกวิธีติดต่อชม “นิทรรศการ” อยู่แล้วเชียว ปรากฏว่าในเว็บไซต์ของ อุทยานเรียนรู้สมุทรปราการฯ ก็ขึ้นข้อความว่า “ด่วน!ปิดปรับปรุง ส่วนนิทรรศการร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” ระหว่าง 1-7 พฤษภาคมนี้ แต่จุดชมวิวยังให้บริการตามปกติ ระหว่าง 10.00-17.00 น.ปกติแล้วหอชมเมืองสมุทรปราการ จะเปิดทำการ วันอังคารถึงวันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) ตั้งแต่ 10.00-17.00 น. ขอข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลข 09-8241-9495 จ้าการเดินทางโดยรถส่วนตัว โปรดเปิดกูเกิลแม็ปเอาเองนะครับ แต่ถ้าจะไปรถสาธารณะจะมีรถเมล์สาย 25 และ 145 แล่นผ่าน และโดยทางรถไฟฟ้านั่ง BTS ยาวไปลงที่ สถานีปากน้ำ ย่ำต๊อกหน่อยเดียวถึงเลยอย่าลืมแวะไปเที่ยวกันสักครั้งนะครับ... และถ้าเป็นไปได้อยากให้ดูนิทรรศการด้วยครับ คุ้มค่าและคุ้มเวลาอย่าบอกใครเชียว.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม