เป็นสัปดาห์ที่ผมภูมิใจนำเสนอร้านอาหารที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็ก เดิมทีร้านนี้มีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า พลอยให้อาหารอื่นๆ ในร้าน ทั้งขนมจีนซาวน้ำ, เปาะเปี๊ยะสด และข้าวหมูแดง ขายดีไปด้วย แต่แล้วบรรยากาศความคึกคักได้จางหายไป เมื่อ “ป้าสุ-สุวรรณา บุตรดี” อายุ 67 ปี หัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ของร้านจากโลกไปกะทันหันด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน นับเวลาล่วงเลยมา 13 ปีแล้ว เหลือไว้แต่ภาพถ่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มของ “ป้าสุ” ที่กำลังยืนขายก๋วยเตี๋ยวติดอยู่บนผนังร้าน เคียงข้างตะกร้อลวกก๋วยเตี๋ยวคู่ใจแทนความระลึกถึง“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำ “ร้านสุ” ของ “ป้าน้อย-อรุณ วัฒนตฤณากุล” อายุ 67 ปี น้องสะใภ้ผู้สืบทอดกิจการมาจาก “ป้าสุ” และ “เฮียโหงว- สุวิทย์ วัฒนตฤณากุล” อายุ 79 ปี ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 73 หรือซอยตลาดอินทรารักษ์ หากขับรถต้องไปเข้าที่ซอยนวมินทร์ 75 เพราะเดินรถทางเดียว แล้ววนกลับมาออกที่ซอยนวมินทร์ 73 ที่จอดรถในตลาดอาจคับแคบไปหน่อย แต่รับประกันมีของอร่อยรออยู่แน่นอน แม้วันนี้จะไม่มีก๋วยเตี๋ยวของ “ป้าสุ” แล้ว แต่รสชาติเมนูอื่นๆต้องบอกว่าหากินที่ไหนไม่ได้ โดยเฉพาะ “ขนมจีนซาวน้ำ” เมนูโปรดของแม่ผม ถ้ามาจ่ายกับข้าวที่ตลาดอินทรารักษ์ทีไร แม่เป็นต้องย้ำให้ซื้อขนมจีนซาวน้ำมาฝากด้วยเชื่อว่าเป็นเมนูโปรดของผู้ใหญ่หลายท่านที่นับวันจะหาทานยาก“สวัสดีครับป้าน้อยมีโอกาสกลับมาแถวนี้ ตั้งใจแวะมากินข้าวสักหน่อย” ผมเอ่ยปากทักทายป้าน้อยอย่างคนรู้จักมักคุ้น“ป้าน้อย” คนใจเย็นยืนยิ้มต้อนรับอย่างอารมณ์ดี ขณะเธอกำลังหั่นสับปะรด ซอยขิงเป็นเส้นๆ ฝานกระเทียมบางๆลงในจาน ถามไถ่ได้ความว่า ในแต่ละวันป้าน้อยเตรียม “ขนมจีนซาวน้ำ” ไว้ขายประมาณ 10 ชุดเท่านั้น ผมเสนอให้ป้าน้อยทำเพิ่มอีกสักหน่อย หากแฟนๆรุ่นใหญ่ได้อ่านคอลัมน์นี้แล้วอยากตามมาชิมจะได้ไม่พลาดความอร่อย หลังพูดคุยกันสักพักท้องเริ่มร้อง “ป้าน้อย” จัดขนมจีนใส่จานตามด้วยกุ้งแห้งป่น, ขิงซอย, กระเทียมฝาน ราดด้วยน้ำกะทิคั้นสด น้ำปลาพริกซอย บีบมะนาวเติมเข้าไปหน่อย ผมจัดการคลุกเครื่องให้เข้ากัน ตักเส้นขนมจีนราดน้ำกะทิ เต็มไปด้วยเครื่องทั้งหมดในช้อนเดียว รสชาติหลากหลาย ความหวานเปรี้ยวของสับปะรด กลิ่นหอมของกระเทียมและขิง ยิ่งสร้างความสุขในการกิน น้ำกะทิคั้นสดๆได้กลิ่นความหอมมัน รสชาติช่างเหมาะกับอากาศหน้าร้อนบ้านเรา ทานแล้วรู้สึกเย็นชื่นใจมาร้านนี้ห้ามพลาด “เปาะเปี๊ยะสด” เมนูสุดรักของผม ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ รสชาติเดียวที่ทำให้ติดอกติดใจ คือน้ำราดเปาะเปี๊ยะสด รสชาตินี้ ไปกินที่ไหนก็ไม่ถูกปาก ร้านนี้น้ำราดรสชาติกลม กล่อมเค็มหวาน หอมเครื่องผัดทั้งหอมแดงและกระเทียมเจียว โดยเฉพาะการเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆบนขันทองเหลือง เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ประจำร้าน ตัวน้ำราดมีความเข้มข้น แต่ไม่เหนียวหนืด แป้งนุ่มๆ ห่อหมูผัดซีอิ๊ว, กุนเชียง, ถั่วงอก, เต้าหู้หั่นเป็นคำๆ แต่งหน้าด้วยไข่เจียวหั่นเป็นเส้น ทานคู่กับพริกชี้ฟ้า หั่นซอย แนมด้วยต้นหอม เป็นเมนูหนึ่งเดียวในใจ ตลอดกาลจริงๆ “สมัยก่อนผมจำได้ตอนป้าน้อยขายดีๆ ป้าน้อยจะโรยเนื้อปูบนเปาะเปี๊ยะสดด้วย แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ถ้าวันหน้ากลับมาขายดีขึ้น ผมอยากให้ป้าน้อยเอาปูมาโรยด้วยนะครับ เชื่อว่าด้วยฝีไม้ลายมือรสชาติการทำอาหารของป้าน้อย จะต้องถูกอกถูกใจลูกค้าหน้าใหม่แน่นอน” ผมพรั่งพรูความรู้สึกในใจออกมาผมเผื่อพื้นที่ในกระเพาะไว้สำหรับ “ข้าวหมูแดงหมูกรอบ” ร้านนี้ใช้วิธีย่างด้วยเตาถ่านหน้าร้าน หมูกรอบย่างวันละ 3-5 กิโลกรัม ทำพอขายได้ให้หมดวันต่อวันเท่านั้น แต่รับประกันว่าได้ลองต้องติดใจ คล้อยบ่ายลูกค้าเริ่มซา ป้าน้อยเล่าว่า “หลังป้าสุจากไป ป้ากับเฮียโหงวต้องคอยช่วยกันทำมาหากินกันต่อ มีหลานสาวมารับช่วงขายก๋วยเตี๋ยว แต่ปรากฏว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพทำให้ไม่สามารถขายก๋วยเตี๋ยวต่อได้ร้านจึงซบเซาลง แต่ยังคงเหลือขนมจีนซาวน้ำ, เปาะเปี๊ยะสด และข้าวหมูแดง เป็นตัวดึงลูกค้าเก่าๆให้กลับมากิน”“ส่วนขันทองเหลืองใบนี้มีอายุ 30 ปีแล้ว ใช้สำหรับอุ่นน้ำราดไม่ให้ติดหม้อ สูตรน้ำราดของป้าใส่ซีอิ๊วขาวสูตร 1 อย่างดี ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว, เจียวหอมแดง, กระเทียมไทยเม็ดเล็กเปลือกบาง ทำให้มีกลิ่นหอมมากกว่านำไปเจียวให้หอม จากนั้นนำไปเคี่ยวในน้ำซุปกระดูกหมู เคี่ยวสักพักผสมแป้งมันกับแป้งข้าวเจ้าลงไป เพิ่มความข้นที่ไม่ได้เหนียวหนืด ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่แป้งเปาะเปี๊ยะต้องเอามานึ่งให้เกิดความนุ่มเสียก่อนถึงจะห่อไส้ได้ โดยคลี่ออกทีละแผ่นห่อผ้าขาวบางให้เรียบร้อย ถ้าไม่ทำแบบนี้แป้งเปาะเปี๊ยะจะแข็งกระด้าง นึ่งเสร็จต้องหาฝาปิดไม่ให้โดนลม ตัวแป้งจะได้มีความนุ่ม เวลาห่อแล้วรัดตัวได้ดี” “ถามจริงๆนะป้า อะไรเป็นกำลังใจให้ป้าน้อยยังค้าขายอยู่ จากวันที่เคยรุ่งเรืองสุดๆ แต่พอวันที่มันไม่เหมือนเดิมป้าน้อยเอากำลังใจมาจากไหนครับ” ผมถามตรงไปตรงมาป้าน้อยบอกตามตรงว่า “ป้ามีลูกชายพิการทางสมองตั้งแต่เกิด ต้องหาเลี้ยงเขา เราท้อไม่ได้ ต้องสู้ต่อ เขายังช่วยเหลือตัวเอง ได้บ้าง ป้าคอยเตรียมข้าวปลาและหาอะไรให้เขากิน ขายได้แค่นี้ป้าก็มีกำลังใจดูแลลูกแล้ว ในฐานะแม่ต้องคอยดูแลกันอยู่ ปัจจุบันเขา 40 ปีแล้ว ปีใหม่นี้ขอให้กลับมาค้าขายดีขึ้นก็พอใจแล้ว” ผมออกปากเชียร์ป้าน้อยเต็มที่ว่า “ความอร่อยและรสชาติของร้านยังเหมือนเดิม รับประกันว่าถ้าใครได้เป็นลูกค้าร้านป้าน้อยเค้าจะต้องติดใจเหมือนผม เชื่อไหมป้าน้อย ระหว่างเรานั่งคุยกันผมยังสังเกตว่า มีลูกค้าสูงวัยแวะเวียนกลับมาอุดหนุนไม่ขาดสาย ผมรู้สึกว่าผมเป็นหนี้บุญคุณป้าน้อยนะครับ ที่ทำของอร่อยให้ผมกินตั้งแต่เด็กๆ ผมอยากเป็นอีกกำลังใจให้ป้าน้อยกลับมาคึกคัก ค้าขายดีเหมือนเดิมนะครับ”สนนราคา ข้าวหมูแดง 50 บาท, ข้าวหมูกรอบ 60 บาท, ขนมจีนซาวน้ำ 50 บาท และ เปาะเปี๊ยะสด 40 บาท “ร้านสุ” ขายตั้งแต่วันพฤหัสบดี-วันอังคาร เวลา 06.30-14.00 น. “เปาะเปี๊ยะสด” และ “ขนมจีนซาวน้ำ” มีขายตอน 10.00 น. หยุดทุกวันพุธ โทรศัพท์ 0-2378- 1692 ไม่มีดีลิเวอรี ฝากท่านผู้อ่านไปเป็นกำลังใจให้ “ป้าน้อย” นะครับ. คุณชายแป๊ะคลิกอ่านคอลัมน์ "คุณชาย ตะลอนชิม" เพิ่มเติม
