ปี 2024 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงฝากความหวังไว้กับ “การท่องเที่ยว” ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความปกติใหม่ไปทั่วทุกวงการ โดยเฉพาะแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างไม่มีวันเหมือนเดิม ถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่จะต้องเร่งพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวยุคใหม่จากการสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลกของ Booking.com และ Expedia พบว่า เทรนด์ท่องเที่ยวของปี 2024 ที่จะมาแรง ประกอบด้วย 6 เทรนด์สำคัญ คือ“หนีร้อนไปพึ่งเย็น” การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยต่อการตัดสินใจออกเดินทาง ปี 2023 หลายภูมิภาคทั่วโลกสัมผัสถึงปรากฏการณ์ “คลื่นความร้อน” รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ทวีปอเมริกาเหนือ, ยุโรป และเอเชีย โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงคือ อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, โปแลนด์, กรีซ, โครเอเชีย, จีน และญี่ปุ่น ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหาทางหนีอากาศที่ร้อนอบอ้าวจากคลื่นความร้อนไปสู่สถานที่ที่เย็นกว่าเพื่อเยียวยาตนเอง ผลสำรวจพบว่า 56% ของนักท่องเที่ยวอยากจะเดินทาง “หนีร้อนไปพึ่งเย็น” เมื่ออุณหภูมิใกล้บ้านสูงขึ้น ทั้งนี้ สถานที่เย็นกว่าไม่ได้หมายถึงความเย็นแบบฤดูหนาว หรือหิมะ แต่ยังเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวทางน้ำ เช่น ทะเล, มหาสมุทร และกิจกรรมใต้น้ำ “AI ผู้ช่วยการเดินทาง” นักท่องเที่ยวจะเปิดใจเลือกใช้งาน AI มากขึ้น ในฐานะผู้ช่วยการเดินทาง โดยข้อมูลจาก Expedia ระบุว่า นักท่องเที่ยวสนใจใช้ Generative AI วางแผนการเดินทางครั้งถัดไป จนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือจำเป็น เพื่อช่วยค้นหาโรงแรมที่พัก และ 1 ใน 3 จะใช้เพื่อเปรียบเทียบตัวเลือกเที่ยวบิน, โรงแรม และร้านอาหาร ความฉลาดของ AI ช่วยให้การจัดทริปท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น“นักเฟ้นหาอาหาร” เรื่องกินเรื่องใหญ่จะกลายเป็นกระแสท่องเที่ยวอีกครั้ง 2 ใน 3 แสดงความสนใจชัดเจนที่จะออกเดินทางเพื่อสำรวจอาหาร โดยนักท่องเที่ยว 81% เผยว่า พวกเขามีความสนใจเรื่องอาหารพื้นเมือง และ 61% สนใจเรียนรู้ต้นกำเนิดของอาหารที่เคยทาน บ่งบอกความแรงของเทรนด์ตะลุยชิม “หรูหรา คุ้มค่าเงิน” นักท่องเที่ยวยุคใหม่เต็มใจจ่ายเงิน เพื่อลองประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษ โดยปี 2024 “ความคุ้มค่าเงิน” จะมีน้ำหนักมากขึ้นสำหรับการพิจารณาเลือกแผนการท่องเที่ยว การยกระดับประสบการณ์ด้วยราคาสบายกระเป๋า จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการท่องเที่ยว อยากคว้าใจนักเดินทางฉลาดเที่ยวต้องนำเสนอแพ็กเกจที่มีความพิเศษเฉพาะและหลากหลายมากขึ้น ภายใต้ราคาที่เข้าถึงง่าย“ดื่มแอลฯน้อย ดื่มด่ำบรรยากาศมาก” Dry Tripping กำลังเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวที่มาแรงในกลุ่ม Gen Z มีความหมายกว้างๆว่า การท่องเที่ยวที่โฟกัสตัวเองและประคองสติมากขึ้น นักท่องเที่ยวยุคใหม่เริ่มมีความต้องการจะออกห่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่มองหาประสบการณ์วันหยุดที่ไม่เน้นเรื่องการดื่ม ทั้งนี้ ผลการสำรวจของ Hotels.com พบว่า นักท่องเที่ยวกว่า 40% กำลังพิจารณาจองทริปดีทอกซ์ในปี 2024 ครึ่งหนึ่งสนใจเข้าพักในโรงแรมที่มีตัวเลือกเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ โดยเหตุผลหลักเพื่อความปรารถนาที่จะควบคุมตัวเองให้มีสติ พร้อมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวมากขึ้น“ฟินกับความยั่งยืน” 73% ของนักท่องเที่ยวยังคงสนับสนุนแนวทางเพื่อความยั่งยืนต่อไป ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรมที่พักที่มีแนวทางด้านความยั่งยืน มีแนวโน้มได้รับการตอบรับที่ดี นักท่องเที่ยวยุคใหม่กว่า 53% ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมความยั่งยืน 60% ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และรู้สึกดีกับแหล่งท่องเที่ยวที่มีพื้นที่สีเขียว อุดมด้วยต้นไม้, อากาศบริสุทธิ์ และกิจกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม. อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่