เพชรสีชมพูกว่า 90% เคยพบในเหมืองอาร์ไกล์ในรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ที่เพิ่งปิดตัวลง อาร์ไกล์ต่างจากเหมืองเพชรอื่นๆ เพราะไม่ได้ตั้งอยู่กลางทวีปแต่ตั้งอยู่ขอบทวีป การผลิตเพชรสีชมพูจำนวนมากจึงเป็นสิ่งปริศนา แม้ว่า 2 ใน 3 ขององค์ประกอบที่ส่งผลต่อการขึ้นรูปเพชรสีชมพูจะรู้กันดี ส่วนแรกคือคาร์บอนที่ต้องอยู่ในพื้นที่ใต้ระดับผิวดินลงไป ส่วนที่ 2 คือแรงดันในปริมาณที่เหมาะสม โดยดันเพียงเล็กน้อยก็จะเปลี่ยนเพชรใสเป็นสีชมพู แต่ส่วนที่ 3 นี่แหละที่นักวิทยาศาสตร์ยังตามหา ล่าสุดทีมวิจัยนำโดยนักวิจัยมหาวิทยาลัยเคอร์ติน ในออสเตรเลีย เผยพบส่วนที่ 3 ของการก่อเกิดเพชรสีชมพูที่มีราคาแพงที่สุดในโลกและหายาก หลังศึกษาเหมืองอาร์ไกล์ โดยระบุว่าส่วนที่ขาดหายก็คือเหตุการณ์ภูเขาไฟที่ทำให้เพชรพุ่งขึ้นสู่พื้นผิวโลก ทีมได้ใช้เลเซอร์สำรวจผลึกเล็กๆ ในตัวอย่างหินจากเหมืองอาร์ไกล์เพื่อวัดอายุขององค์ประกอบในผลึก พบว่าเหมืองนี้มีอายุ 1,300 ล้านปี ชี้ให้เห็นว่าเพชรมาช้ากว่าที่คิดไว้ 100 ล้านปี เพราะในทศวรรษ 1980 ประเมินว่าเพชรเหมืองอาร์ไกล์เกิดขึ้นเมื่อ 1,200 ล้านปีก่อน แต่ไม่มีตัวชักนำให้เพชรหายากเกิดขึ้นในเวลานั้น การวิจัยสอดคล้องกับช่วงที่แผ่นดินทั่วโลกเชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียวเรียกว่ามหาทวีปนูนา (Nuna) หรือโคลัมเบีย (Columbia) ในนูนา-ทวีปทุกแห่งบนโลกถูกบีบอัดเข้าด้วยกัน แรงดันมหาศาลได้บิดสีให้เกิดเพชร โดยเกิดขึ้นช่วงการบีบอัดของแผ่นดินออสเตรเลียทางตะวันตกและตอนเหนือเมื่อ 1,800 ล้านปีก่อน เมื่อนูนาเริ่มแยกกันในอีก 500 ล้านปีต่อมาเหตุการณ์เก่าก็รุนแรงอีกครั้ง ซึ่งในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา คนมักมองหาเพชรที่ใจกลางทวีป ดังนั้นการรู้ถึงส่วนที่หายไปของเพชรสีชมพูจะช่วยค้นหาเพชรชนิดนี้ในอนาคต เช่นตามแนวภูเขาเก่าใกล้ขอบทวีปต่างๆที่มีร่องรอยการล่มสายของนูนา โดยพื้นที่ที่เป็นไปได้ก็ เช่น ในแคนาดา รัสเซีย แอฟริกาตอนใต้ และออสเตรเลีย.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่