การทำความฝันให้สำเร็จ เราต้องมีความกล้า และมุ่งมั่น เฉกเช่นสาวแบงก์ ประดินันท์ อัครชิโนเรศ ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความสนใจและชื่นชอบธุรกิจอาหาร จึงได้เข้ามาสู่ฟู้ดอินดัสตรี้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ สร้างธุรกิจร้านอาหาร นำเสนออาหารไทยร่วมสมัยที่มีรสชาติละเมียดละไมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะประดินันท์ อัครชิโนเรศ หรือ ตุ่น เจ้าของร้าน Khao (ข้าว) ร้านอาหารไทยร่วมสมัยชื่อดังระดับมิชลิน สตาร์ ในปี 2020 และปี 2021 ซึ่งปัจจุบันมี 2 สาขา คือ ที่เอกมัย และ สาขาเพลินจิต ภายในอาคาร Piya Place ซอยต้นสน ตุ่น-ประดินันท์ ได้เกริ่นถึงชีวิตการทำงานและความมุ่งมั่นของตนเองว่า ตุ่นจบคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พอจบได้โอกาสที่ดีได้ทำงานกับ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ได้เข้าไปช่วยทำงานด้าน wealth management ของเอเซียพลัส ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งการได้ทำงานตั้งแต่เริ่มต้นทำให้ได้เรียนรู้งานเยอะมาก จากนั้นก็ได้ออกไปทำที่ดอยซ์แบงก์ ประเทศไทย ทำอยู่ 2 ปี ก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่สิงคโปร์ และปัจจุบันก็ยังทำงานด้านการเงินการธนาคาร ในฮ่องกง การผันตัวมาสู่ธุรกิจอาหารเริ่มจากที่ช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ พอมีช่วงเวลาว่าง จึงได้ไปเรียนการทำอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เรียนทั้งหลักสูตรอาหารคาวและการทำขนม ซึ่งตุ่นเป็นคนชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ที่บ้านคุณแม่ก็ชอบทำ เด็กๆชอบเดินไปตลาดกับคุณแม่เป็นประจำ ด้วยความสนใจในเรื่องการทำและการกินที่เป็นทุนเดิม พอทราบว่าเจ้าของร้านข้าวเดิมกำลังหาคนทำต่อ ตุ่นเลยตัดสินใจเข้ามาสู่ธุรกิจนี้เลย “ตุ่นเคยมาทานอาหารร้านข้าว แล้วรู้สึกดีมาก ตุ่นเลยเข้ามาทำในเดือนตุลาคมปี 2561 แล้วเดือนพฤศจิกายน เราได้มิชลิน บิบ กูร์มองด์ อันนี้คงไม่ใช่ฝีมือตุ่น เพราะตุ่นเพิ่งเข้ามาทำได้เดือนเดียว ตุ่นทำงานแบงก์เบสอยู่ฮ่องกง จริงๆ ถ้าภาวะปกติ ตุ่นจะอยู่ฮ่องกงอาทิตย์หนึ่ง เมืองไทยอาทิตย์หนึ่ง จะไปๆมาๆ พอมาทำร้านข้าว ตุ่นอยากทำร้านอาหารไทย ที่พอเราเข้าไปแล้ว นึกอยากทานอะไรต้องได้ทาน ซึ่งอาจจะผ่าเหล่าผ่ากอมาร์เกตติ้งทุกสิ่งอย่าง และด้วยความที่อยู่ต่างประเทศ แล้วพอเข้าร้านอาหารไทยแล้วหงุดหงิดที่ไม่มีน้ำพริกกะปิ ไม่มีแกงส้ม ไม่มีหมูทอด เลยพยายามทำร้านข้าวให้มีเกือบทุกอย่างมีเมนูเป็นร้อย เราเลยมีแกงเกือบทุกอย่าง ซึ่งมีคนถามว่า มันจะต่างจากร้านอาหารไทยทั่วไปอย่างไร ตุ่นอยากบอกว่า ความต่างของเราอยู่ที่ความประณีตพิถีพิถันในวัตถุดิบ ทั้งก่อนการปรุง เลือกหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ อย่างกุ้งสดของเรา จะไม่มีการแช่ตู้เย็นแต่จะใช้น้ำแข็งโปะทับ เพื่อให้น้ำที่คาวของกุ้งไหลลงท่อ ทำให้กุ้งไม่คาว แล้วเราซื้อของสดเกือบทุกวันเลยทีเดียว ส่วนรสชาติเราก็มีทีมเชฟมืออาชีพที่มีฝีมือ ซึ่งนอกจากร้านข้าวแล้ว เรายังเปิดทำแคเทอริ่ง อาหารไทยและฝรั่ง โดยเปิดเป็นบริษัท บริษัท เคเทอร์ บาย ข้าว จำกัด (CATER BY KHAO) อีกด้วย”เมื่อผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งต้องผ่านวิกฤติในช่วงโควิด ที่ต้องฝ่าฟันให้อยู่รอดได้นั้น ผู้บริหารสาวคนนี้ยังคงมีใจสู้! แบบไม่ถอย พร้อมบอกว่า “เมื่อก่อน มีความฝันอยากมาทำธุรกิจอาหารแบบเป็นโรงงานที่ขายส่งร้านอาหาร แต่พอมาทำร้านอาหารแล้ว ตุ่นรู้สึกสนุก รู้สึกเหมือนว่ามีแขกมาหาเรา เราเป็นเจ้า ของบ้าน เราต้องทำอะไรเลี้ยงแขก ให้ได้กินอะไรที่เรารู้สึกว่ามันดี มันอร่อย ก็เป็นความสนุกไปอีกแบบ เมื่อเขาได้กินแล้วมีความสุข เราในฐานะเจ้าของบ้าน เราก็มีความสุขไปด้วยค่ะ”...คำตอบสั้นๆ ของการทำธุรกิจของสาวเก่งคนนี้.