สวัสดีคร้า...ช่วงนี้ลมหนาวเริ่มพัดมาแผ่วๆแล้วนะคะ หลายท่านคงอยากนั่งสัมผัสอากาศเย็นๆหน้าบ้าน สูดกลิ่นอายของความร่มรื่นภายในบ้าน วันนี้ ไฉไล...มีเรื่องราวน่าสนใจของการจัดสวนที่เรียกว่า Vertical Garden หรือสวนแนวตั้ง มาแนะนำกันค่า...!!คนในเมืองใหญ่จำนวนมากที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ โดยตระหนักถึงปัญหาของสภาพอากาศ ฝุ่น มลพิษ และภาวะโลกร้อนที่ดูเหมือนจะคุกคามเราขึ้นเรื่อยๆนะคะ ซึ่งวิธีธรรมชาติที่สุดที่ช่วยลดความรุนแรงของปัญหาได้ก็คือ การปลูกต้นไม้ถ้าเป็นบ้านหลังใหญ่ๆ การปลูกต้นไม้สักต้นสองต้นก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าบ้านของคุณมีขนาดเล็ก อย่างทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด Vertical Garden หรือสวนแนวตั้ง น่าจะตอบโจทย์ได้ดีค่ะสถาปนิกหลายคนใช้แนวคิดให้ธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร บ้าน หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โดยการจัดสวนแนวตั้ง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศแถบตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส และประเทศแถบเอเชียอย่างประเทศญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะมาเป็นที่นิยมในเมืองไทย ที่คอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าผุดขึ้นพร้อมๆกันหลายอาคาร“สวนแนวตั้ง” หรือ Vertical Garden เป็นการจัดสวนที่ต้องบอกว่าสอดรับการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน อาคาร และชุมชนเมืองที่มีพื้นที่จำกัด รวมทั้งทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม ร่มรื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ได้สูดอากาศบริสุทธิ์มากขึ้น ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย วิธีการจัดสวนแนวตั้งคิดค้นโดย Stanley Hart White อาจารย์ด้านภูมิสถาปัตยกรรมชาวอเมริกัน ตั้งแต่ปี 1938 และนำมาต่อยอดโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อว่า Patrick Blanc กระทั่งแพร่หลายไปทั่วโลก เพราะสวนแนวตั้งสามารถรองรับและเติบโตได้ในพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่มีพื้นที่อยู่อาศัยอย่างจำกัด ช่วยทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามและช่วยลดอุณหภูมิของพื้นที่ ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกมีส่วนร่วมกับธรรมชาติมากขึ้นนั่นเองโดยทั่วไปการจัดสวนแนวตั้งมี 2 ระบบด้วยกัน ได้แก่ ระบบแผง (Panel System) และระบบกระถาง (Pot System) ซึ่งในแต่ละระบบนั้นก็จะมีความโดดเด่นต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่มีอย่างจำกัด และสำหรับการปลูกแบบกระถาง สามารถเลือกใช้พืชพรรณในการปลูกได้หลากหลาย การติดตั้งแผงยึดและถาดเป็นไปได้ง่ายด้วยการแขวนกระถางยึดกับโครงสร้างแผงหลัก รวมถึงมีการระบายน้ำด้านล่างของตัวกระถางลงสู่ถาดรองด้านล่างด้วย เมื่อเราทำความเข้าใจของระบบการจัดสวนแนวตั้งแล้ว สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษเลย ก็คือ เรื่องของแสงแดดและระบบการให้น้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการยืดความงดงามอย่างสมดุลให้สวนแนวตั้งได้เป็นอย่างดีการดูแลเรื่องของแสงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากปล่อยให้ต้นไม้ที่ปลูกในสวนลักษณะนี้ ได้รับแสงมากเกินไปอาจทำให้มีความชุ่มชื้นไม่มากพอจะเลี้ยงดูพรรณไม้ หรือหากระบบการให้น้ำมากไป ก็อาจทำให้รากต้นไม้เน่า และตายได้เพื่อความชุ่มชื้นที่สม่ำเสมอ ควรติดตั้งระบบให้น้ำอัตโนมัติ แทนการรดน้ำด้วยมือดีที่สุด ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีวิธีรดน้ำต้นไม้ที่ชาญฉลาด โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมการจ่ายน้ำที่เข้ามาทำงานกับระบบควบคุมอุณหภูมิ ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการรดน้ำในปริมาณที่พอเหมาะได้ ในส่วนของการรับแสงของการทำสวนนั้นซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของการเลี้ยงพืชมากๆ หากเป็นสวนกลางแจ้งก็คงจะไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะต้นไม้จะได้รับแสงตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่หากเป็นการจัดสวนภายในอาคาร ก็คงต้องหาวิธีที่จะติดตั้งแสงสว่างทดแทนให้แก่ต้นไม้ได้ เช่น การติดตั้งไฟแบบ Linear ด้วยการใช้ไฟ LED ดวงเล็กเรียงในระยะที่เท่ากัน ติดตั้งบนฝ้าเพดาน หรืออีกวิธีคือ การติดตั้งไฟแบบ Spotlight เพื่อให้แสงกระจายตัวได้ทั่วถึงนั่นเองการเลือกพรรณไม้สำหรับจัดสวนแนวตั้งก็สำคัญ ไม่ใช่ว่าจะเลือกพืชพรรณชนิดไหนมาปลูกก็ได้ การจัดสวนในรูปแบบนี้ก็ต้องเลือกพรรณไม้ที่เหมาะสม ต้องเป็นไม้พันธุ์เล็กที่เลี้ยงง่าย สามารถเกาะเกี่ยวตามกิ่ง หรือขอนไม้ได้ ต้องทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของบ้านเรา แดด ฝน ลมแรงได้ดี เช่น ชวนชม แพงพวย แพรเซี่ยงไฮ้ สร้อยไก่ บลูฮาวาย เป็นต้น ส่วนเทคนิคในการเลือกพรรณไม้ในการจัดสวนแนวตั้งภายในอาคาร สิ่งแรกคือต้องเลือกไม้ในร่มที่ต้องการแสงค่อนข้างน้อย อาทิ ฟิโลก้ามกุ้ง เคราฤษี พลูตระกูลต่างๆ เงินไหลมา หรือซิงโกเนียม ทองไหลมา เฟิร์น พรมกำมะหยี่ สับปะรดสี ผีเสื้อราตรี ฯลฯอีกชนิดที่นิยมกันก็คือ พืชตระกูลเฟิร์นซึ่งเหมาะมากที่จะนำมาจัดสวนแนวตั้งแบบนี้ เนื่องจากเป็นพืชที่ทนทาน ชอบแสงแดดรําไร และเลี้ยงง่าย เฟิร์นที่นิยมนำมาจัดกันมากได้แก่ เฟิร์นสไบนาง เป็นเฟิร์นอิงอาศัย เกาะตามต้นไม้ใหญ่ในป่าที่ชุ่มชื้น ชอบแสงแดดปานกลางถึงจัด ความชื้นพอเหมาะแต่ไม่แฉะ สามารถนำมาปลูกในกระถาง แขวนไว้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่หรือใต้ชายคาได้ เฟิร์นข้าหลวงหลังลาย เป็นเฟิร์นอิงอาศัยเช่นเดียวกัน เติบโตบนดินได้ ใบเขียวหนาแข็งเป็นมัน เส้นกลางใบสีดำ ใต้ใบมีสปอร์สีน้ำตาลเรียงตามแนวเส้นใบ ชอบแดดรําไร ความชื้นสูงริปซาลิสสายทับทิม เป็นไม้อวบนํ้า ใบกว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 10-15 เซนติเมตร หากเลี้ยงในร่มแผ่นใบจะมีสีเขียว แต่เมื่อได้รับแสงแดดจัดใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ดอกเดี่ยวออกตามข้อใบสีขาว ชอบแสงแดดเต็มวันถึงรําไร และอย่างสุดท้ายคือ เฟิร์นใบมะขาม เป็นไม้พุ่ม สูง 30-60 เซนติเมตร โตเร็ว ปลูกเลี้ยงง่าย ชอบแสงแดดครึ่งวันถึงรำไร ปลูกเป็นแปลงประดับ หรือปลูกในกระถางวางประดับตามมุมต่างๆ หรือใช้เป็นไม้ประดับในอาคารได้ต้องบอกว่า การจัดสวนแบบ vertical garden เป็น DIY รูปแบบหนึ่ง ที่ทำได้ง่ายๆ อาจใช้ผนังสำเร็จรูป Eco Green Wall ที่ติดตั้งง่ายๆ ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร นอกจากจะไม่ทำให้บ้านดูรกแล้ว ยังทำให้บ้านดูมีสไตล์แถมยังมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มความสดชื่นให้แก่บ้านอีกด้วยหรือใครที่อยู่คอนโดมิเนียมมีพื้นที่แค่ระเบียงเล็กๆคงเลี้ยงต้นไม้ได้แค่ 2-3 กระถางก็เต็มที่แล้ว ไม่จริงเลยคร้า...!! ลองเปลี่ยนความคิดแล้วมาทำความรู้จักการจัดสวนแนวตั้งให้มากขึ้น คุณจะสามารถเปลี่ยนระเบียงเล็กๆให้กลายเป็นสวนง่ายๆแบบที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในสวนอาหารหรือโรงแรมได้ไม่ยากจะจัดสวนแบบใช้แผ่นสำเร็จรูปติดตั้งกับผนังแล้วจัดต้นไม้ที่เหมาะสม หรือใช้วิธีทำชั้นเล็กๆแล้ววางกระถางต้นไม้เก๋ๆแบบมีสไตล์ ก็ดูอินเทรนด์กับความมินิมอลเล็กๆ ช่วยเปลี่ยนมุมเก่าให้มีสีสันมากขึ้น การจัดสวนแบบ Vertical Gar-den นอกจากจะให้ความสวยงามที่ดูทันสมัยแปลกตาแล้ว ยังทำให้ชีวิตคนเมืองที่ต้องอาศัยในพื้นที่จำกัดได้มีชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีสภาพแวดล้อมที่ดี เป็นหนึ่งในพลังที่ร่วมสร้างสรรค์เพื่อโลกสีเขียว และใครที่รักษ์โลกและต้นไม้ หรือรักในการจัดสวนก็อย่าลืมที่จะต้องดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ โดยต้องไม่ลืมเรื่องอาหารของพืช ดินและปุ๋ย เพื่อบำรุงให้ต้นไม้ด้วยนะคะอย่าลืมว่าต้นไม้ก็เหมือนคน การเลี้ยงต้นไม้จึงจำเป็นต้องได้รับความดูแลเป็นอย่างมากไม่แพ้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เหมือนสัตว์ที่เราต้องให้อาหาร ให้แสงแดดที่เพียงพอ โดยเฉพาะสวนแนวตั้งที่ต้องใช้การดูแล ซึ่งถ้าหากอยากจะให้พื้นที่ของคุณมีทัศนียภาพที่สวยงามอยู่เสมอ คุณอาจจะต้องมานั่งตัดแต่งต้นไม้ให้สวยงาม และเก็บกวาดทำความสะอาดบ่อยๆ เพราะถ้าเรามีสวนเพื่อความสวยงามโดยไม่ได้ดูแลพวกเขาเลย ต้นไม้ก็คงจะเป็นแค่สิ่งของสิ่งหนึ่งที่หมดความสวยและไร้ประโยชน์เท่านั้นเองเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดนี้ ลองหาต้นไม้เก๋ๆมาจัดสวนแนวตั้งในบ้านดูนะคะ เพื่อให้พื้นที่เล็กๆของคุณนั้นกลายเป็นป่าไม้ขนาดย่อมๆ เสมือนช่วยให้ชีวิตคนเมืองของคุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติง่ายขึ้นค่ะ....!!