จ้าง “เมีย” เล่นหนังแลกกระเป๋าแบรนด์เนมเรื่องจริงหรือแค่อำกันสนุกสนาน ซุกเมียลับที่เชียงราย ตลกรุ่นใหญ่ หม่ำ จ๊กมก หรือ เพทาย วงษ์คำเหลา หยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “ขุนบันลือ” ค่ายบั้งไฟฟิล์ม ร่วมกับเอ็ม พิคส์เจอร์ แถมให้ มด–เอ็นดู ภรรยา มาร่วมเล่นเอง ก่อนหนังจะเข้าโรงฉาย หม่ำ เปิดใจว่า “ขุนบันลือ จะเป็นเรื่องของตัวเองที่เค้ากำลังฮิตๆ กัน ประเด็นเชียงราย เลยหยิบมาทำเป็นหนังแนวพีเรียด ย้อนไปร้อยกว่าปี จะเอาใครดีก็ต้องเป็นลูกเมียมาเล่น เป็นขุนคนนึงที่นิสัยดี จิตใจดี ไม่เอาเปรียบทาส ควบคู่เล่าเรื่องคุณแม่ไปมีกิ๊ก แต่เราไม่เคยมีกิ๊กกับใครหรอก แม่อยากให้แต่งเพื่อจะได้มีหลานอุ้ม แต่จริงๆมีอยู่แล้วแค่ไม่เคยบอกแม่เท่านั้นเอง เป็นการไล่จับผิดลูกมีเมียที่เชียงราย จริงๆแค่ข่าวลือ เป็นเรื่องราวในบ้าน เอาคนในบ้านมาเล่นทั้งหมด” กล่อมกันนานมั้ยกว่าลูกเมียจะมาเล่น “ไม่ยากหรอก แค่กระเป๋าแบรนด์เนมใบ-2 ใบ แพงกว่าค่าตัวอีก เมียก็เอาแบบมาให้ดูแต่เราไม่ได้ถามราคา ปีใหม่นี้โดนแน่ๆ ไปฮ่องกง ก็รับปากไว้ก่อนถึงเวลาเอาใบเล็กลงก็ได้มั้ย” การทำงานเป็นยังไงบ้าง “คนอื่นโอเคนะ มีแต่เมียแหละเรื่องมาก ร้อนแล้วหงุดหงิดจะไม่อยากถ่าย จะกลับบ้าน แล้วทาตัวดำด้วย ล้างตัวยากด้วย เพราะเป็นทาส ชื่อมดนี่ล่ะ ทาเล็บดำตามซอกเล็บก็ดำ เค้าก็โมโห ถ่ายไป 2-3 วันแล้วจะไม่ไปถ่ายแล้ว” เอาบททาสให้พี่มดเล่นตั้งใจแอบแกล้งอะไรเมียด้วยหรือเปล่า “มีส่วนด้วย ลูกชายก็บ่นเหมือนกัน เพราะทาตัวแล้วมันเหนียว ลูกยังไม่เท่าไหร่แต่เมียจะบ่นอยู่เรื่อย” ถ้าเอาคนอื่นมาเล่นแทนพี่มดล่ะ “ไม่เหมาะ ต้องเป็นเค้านั่นแหละ เพราะพูดถึงเชียงรายก็ต้องเป็นเค้าเท่านั้นที่มาเล่นต้องมาต่อมุกต่ออะไร ต้องดูในหนังแต่ภาพรวมเป็นหนังตลก ดูสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไร ดูเอาฮาเป็นสไตล์ของผมแต่จะแตกต่างจากทุกเรื่อง ขุนบันลือจะย้อนไปร้อยกว่าปี หนักใจเหมือนกัน เรื่องเสื้อผ้า เรื่องโลเกชันด้วย ซึ่งต้องหาให้ใกล้เคียงกัน” ระหว่างกำกับคนอื่น กับกำกับเมียใครทำงานยากกว่ากัน “กำกับคนอื่นง่ายกว่า กับเมียยาก มันน่ารำคาญบางทีเราบอกว่าเอาแบบนี้ได้มั้ย มันก็เถียงเราอีกจะเล่นได้เท่านี้เอายังไง ต้องให้คนอื่นไปบอก ผมจะนั่งมอนิเตอร์ไม่เข้าไปยุ่ง คิดดูต้องเอารถบ้านมาให้เค้านั่งเย็นๆ วันละ 8 พัน แพงกว่าค่าตัวอีก ขนาดวันเปิดตัวหนังจะให้เค้าแต่งตัวแบบหนังเค้าก็ไม่เอา ถ้าทาตัวเค้าไม่เอา จะแต่งธรรมดาไป” ในหนังเรื่องนี้อยากจะบอกคืออะไร “จริงๆแล้ว เค้าแหละคิดไปเอง ทั้งเรื่องจริงเค้าก็คิดไปเอง เล่นมุกกันจนมดเค้าเชื่อ ในหนังก็จะบอกเลย ทุกวันนี้เค้าก็ยังเชื่อทั้งในจอและนอกจอ กระแนะกระแหนทั้งวัน กินเบียร์พอตึงๆ จะมาแล้วถามจริงๆ ไม่โกรธๆ แต่พูดไปก็โกรธอยู่ดี เค้าเป็นคนซีเรียสโดยเฉพาะเรื่องพวกนี้ เค้าจะกระแนะกระแหนให้เราหงุดหงิดแต่ไม่ถึงขั้นทะเลาะกันหรอก เราก็รำคาญ ในหนังจะมีเพลง เชียงรายที่คิดถึง กดเข้าไปฟังได้ เค้าก็งอน จะโวยวายเพลงอื่นก็ไม่ร้อง แต่หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับเชียงรายก็เลยต้องเอาเพลงนี้ใส่ในหนัง” โดนพี่เท่ง พี่โหน่ง อำเรื่องซุกกิ๊กไม่เลิก “เป็นเรื่องสมัยก่อนนานแล้ว มันก็มีกันทุกคนนั่นแหละ อำจนคนเชื่อ พอเดินไปไหนมีแต่คนถามเรื่องเชียงราย กลายเป็นโลโก้เชียงรายไปแล้ว”ก่อนหน้านี้พี่หม่ำไม่ออกมาแก้ข่าว “คนก็เชื่อไปอยู่แล้ว คุยกันสนุกสนานเลยเป็นหนังและเป็นเพลงด้วยเอาให้สะใจไปเลย” จะวางตัวพี่มดให้เล่นเรื่องหน้ามั้ย “ไม่เอาแล้วรำคาญ เอาคนอื่นดีกว่า สบายใจกว่าเยอะ ไม่แน่ภาค 2 จะให้เค้าเล่นแต่บทน้อยๆ หรือไม่เอาคนอื่นดีกว่า” เข้าปลายปีห่วงกลัวคนไม่ดูหนังเพราะไปเที่ยวกัน “อันนี้เป็นเรื่องของทางเมเจอร์อยู่แล้ว หาโปรแกรมลงหนังเข้า 27 ธ.ค. เค้าคงคิดว่าโปรแกรมนี้น่าจะโอเค” คนมักมองว่าตลกไร้สาระ “คนคิดไปเอง เอาฮา เอาสนุกสนานอย่าไปคิดเยอะ เรื่องบางเรื่องดูก่อนแล้วค่อยติ เส้นเรื่องของผมจะแนวฮาๆอยู่แล้ว” เคยคิดทำหนังแนวอื่นบ้างมั้ย “เคยคิดแต่ไม่เหมาะกับคนไทยเพราะคนไทยไม่ชอบอะไรที่ซีเรียสมากมาย สู้เมืองนอกไม่ได้หรอก เค้าทุนเยอะ อุตสาหกรรมเค้าใหญ่กว่าเรา เศร้าๆไม่ใช่ทางเรา”.