หลังจากใช้งาน iPhone Air มานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ นับตั้งแต่แอปเปิลเปิดตัวควบคู่กับ iPhone 17 ซีรีส์ ความรู้สึกแรกเมื่อหยิบเครื่องขึ้นมาคือนี่บางเฉียบจับได้เต็มไม้เต็มมือและเมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่องหลายวัน ก็ยิ่งเข้าใจว่า iPhone Air ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลือกเสริมแต่เป็นอีกเซ็กเมนต์ใหม่ที่แอปเปิลสร้างขึ้น แรกๆดูเหมือนผู้คนจะไม่ได้มองกันมากนักเพราะมีแต่คนพูดถึงจุดเด่นคือความบาง แต่มีข้อจำกัดหลายด้านและราคาค่อนข้างสูงแต่เมื่อใช้ไปสักพักรู้สึกว่าชอบมาก ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงมุมมองผู้บริโภคจากสเปกมาสู่ประสบการณ์ ดีไซน์บาง เบา และหรูหราเกินคาดด้วยความบางเพียง 5.6 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 165 กรัม บางและมีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยทำมา แม้ว่าจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว แต่ก็มีน้ำหนักเบากว่า iPhone 17 รุ่นปกติประมาณ 7% เบากว่ารุ่น iPhone 17 Pro ถึง 20% และเบากว่า iPhone 17 Pro Max ถึง 34%มอบความรู้สึกใหม่ในการถือใช้ที่แทบจับต้องไม่ได้ เมื่อใส่กระเป๋ากางเกงแล้วแทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนัก และเมื่อหยิบมาใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ข้อความ เล่นเกม หรือการเลื่อนดูโซเชียลมีเดีย มือก็รู้สึกสบายกว่าที่เคยประสบมาใน iPhone รุ่นใดๆ ทำให้ง่ายต่อการถือใช้งานในระยะยาวคุณภาพวัสดุเป็นจุดที่ประทับใจไม่แพ้กัน กรอบไทเทเนียมผสานกับกระจก Ceramic Shield รุ่นใหม่ ทำให้เครื่องดูมีระดับและทนทานกว่าที่คาดไว้ แม้กระทั่งเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Pro ตัว Air กลับให้ความรู้สึกแพงมากกว่าด้วยซ้ำแม้จะบางเฉียบ แต่ iPhone Air ไม่ได้สูญเสียประสิทธิภาพไป หน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อม ProMotion 120Hz ให้การตอบสนองที่ลื่นไหลไม่ต่างจากรุ่น Pro เลย ชิป A19 Pro มีพลังเพียงพอสำหรับเกมกราฟิกหนัก แต่เกมบางเกมอย่าง War Thunder Mobile ที่กราฟิกสวยงามแต่ก็แลกมากับความร้อนหลังเล่นไปครึ่งชั่วโมง ส่วนการใช้งานฟีเจอร์ AI ต่างๆได้อย่างไร้ปัญหาการใช้งานจริงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา iPhone Air ไม่ได้เป็นแค่เครื่องบาง แต่เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ยังคงสมรรถนะครบครันไว้ทุกด้าน กล้องคุณภาพดี แต่ตัวเลือกจำกัดการที่มีแค่เลนส์เดียวก็เป็นข้อจำกัดที่เห็นได้ชัด ไม่มีเลนส์ Ultrawide สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง หรือเลนส์ Telephoto สำหรับการซูมคุณภาพสูง ทำให้บางครั้งรู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 17 รุ่นปกติที่มากับกล้องคู่ แต่กล้องหลัง 48MP ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสวยงามในทุกสภาพแสงกล้องหน้าให้ผลลัพธ์สวยงามตามมาตรฐานแอป แต่สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพอย่างจริงจัง iPhone Air อาจยังไม่ครอบคลุมความต้องการได้อย่างสมบูรณ์ แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานกว่าที่คาดแบตเตอรี่ด้วยข้อจำกัดของการออกแบบให้บางเฉียบทำให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็ก ซึ่งเป็นจุดอ่อนของรุ่นนี้ แอปเปิลก็ได้ออกแบต MagSafe เป็นอุปกรณ์เสริม แต่เมื่อใช้จริงๆ ใช้แบบหนักด้วย แบตใช้ได้นานกว่าที่คิด แล้วเพียงพอได้ตลอดทั้งวัน แต่ไม่เหลือมากนักปกติใช้ Pro Max ตั้งแต่เช้าถึงเย็นแบตจะเหลือราว 20% แต่พอเป็น iPhone Air แบตเหลืออยู่ใกล้ 6-10% ก็นับว่าไม่เลวนักแบตเตอรี่ความจุเพียง 3,149 mAh แต่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นน่าจะมาจากการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพของชิป A19 Pro รุ่นใหม่ รวมถึงการที่ iPhone Air เป็นไอโฟนรุ่นแรกที่ใช้ โมเด็มและชิปไร้สายที่พัฒนาโดยแอปเปิลเองทำให้ควบคุมการใช้พลังงานได้ดีลำโพงตัวเดียวให้คุณภาพเสียงที่ขาดมิติ เมื่อดูวิดีโอหรือเล่นเกมจะรู้สึกถึงความต่างจากเครื่องที่มีระบบสเตอริโอ ซึ่งถือเป็นข้อเสียที่น่าเสียดายในมือถือระดับราคานี้ แต่การใช้งานจริงๆ แทบไม่ได้เปิดลำโพง จะใช้ผ่านหูฟังมากกว่า iPhone Air เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่เบาที่สุดในตลาด ผู้ที่ใส่ใจ การออกแบบและประสบการณ์การใช้งานมากกว่าความครบครันของฟีเจอร์ หรือผู้ใช้ที่มีอุปกรณ์เสริมอื่นๆอยู่แล้ว เช่น iPad สำหรับงานหนัก หรือกล้องแยกสำหรับถ่ายภาพในทางตรงกันข้ามหากต้องการสมาร์ทโฟนที่ครอบคลุมทุกด้าน มีแบตเตอรี่อึด กล้องหลากหลาย และใช้งานได้ครบครันในเครื่องเดียว iPhone 17 Pro หรือ Pro Max ยังคงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าiPhone Air ไม่ได้เป็นรุ่นที่คุ้มค่าสูงสุดในแง่ของสเปก แต่กลับเป็น iPhone ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดี สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนบางเบา ถือใช้สะดวก และมีความรู้สึกพรีเมียมมันเหมือนการทำซ้ำประวัติศาสตร์ของ MacBook Air สมัยเปิดตัวที่หลายคนมองว่าไม่คุ้มค่า แต่ในที่สุดกลับกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงมาตรฐานของตลาดไปอย่างถาวร.บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ iPhone Air กำลังทำ คือการปูทางให้เราเริ่มมองสมาร์ทโฟนไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขในสเปก แต่คือ ความรู้สึกที่แท้จริงเมื่อได้สัมผัสและใช้งาน.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม