ฟิลิปส์พัฒนาโซลูชันอัลตราซาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับแม่และเด็กทั่วโลก เพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น การดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล และการติดตามอาการจากระยะไกล ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มากขึ้นโดยรอยัล ฟิลิปส์ ได้รับทุนสนับสนุนเป็นครั้งที่สองจากมูลนิธิเกตส์ (Gates Founda tion) ซึ่งเป็นมูลนิธิเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเร่งขยายการพัฒนาแอปพลิเคชันด้านสูตินรีเวชที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ผ่านการใช้เครื่องอัลตราซาวด์แบบพกพา Philips Lumify โดยเทคโนโลยี AI นี้สามารถช่วยสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจหาพารามิเตอร์ที่สำคัญ เพื่อระบุความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ และช่วยให้พวกเขาสามารถแนะนำแนวทางการดูแลที่เหมาะสมได้เมื่อพร้อมใช้งาน โซลูชันอัลตราซาวด์ด้านสูตินรีเวชที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะเข้ามาสนับสนุนการเก็บข้อมูลสำคัญของมารดาและทารกในครรภ์ โดยสามารถระบุพารามิเตอร์ที่สำคัญ เช่น อายุครรภ์และขนาดของถุงน้ำคร่ำ ช่วยประเมินการตั้งครรภ์และสุขภาพของมารดาและทารกได้ตั้งแต่ที่มูลนิธิเกตส์ให้ทุนสนับสนุนช่วงแรกในปี พ.ศ.2564 มีโครงการนำร่องในเคนยา ทำให้สามารถดูแลสุขภาพของหญิงมีครรภ์ได้ดีขึ้นในชุมชนชนบทและพื้นที่ห่างไกลแต่ละวันมีผู้หญิงกว่า 800 คนทั่วโลกที่ตั้งครรภ์และเสียชีวิตจากสาเหตุที่ป้องกันได้ เกือบ 95% ของมารดาที่เสียชีวิตในปี 2563 อาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลางล่าง โดยแม่ราว 287,000 คน เสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด จากสาเหตุภาวะแทรกซ้อนระหว่างและหลังการตั้งครรภ์ รวมทั้งหลังการคลอด ที่ส่วนใหญ่สามารถป้องกันหรือรักษาได้ เช่น การตกเลือด การติดเชื้อ ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ เป็นต้นในปี พ.ศ.2563 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราการตายของมารดาเท่ากับ 117 ต่อการเกิดมีชีพ 100,000 คน โดยองค์การอนามัยโลกคาดการณ์อัตราการตายของมารดาไทยเท่ากับ 29 ต่อการเกิดมีชีพ 100,000 คน และอัตราการตายของมารดาไทยเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN) รองจากประเทศสิงคโปร์ (7 ต่อการเกิดมีชีพ 100,000 คน) และมาเลเซีย (21 ต่อการเกิดมีชีพ 100,000 คน)ในช่วงโครงการนำร่องในประเทศเคนยา โซลูชันอัลตรา ซาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่ต้องประมวลและแปรผลภาพโดยตรงอีกต่อไป ทำให้สามารถลดระยะเวลาฝึกอบรมของพยาบาลผดุงครรภ์จากหลายสัปดาห์เหลือไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่กระทบต่อความเชื่อมั่น มารดาที่ตั้งครรภ์ยังสามารถติดตามพัฒนาการของทารกได้ และหากพบผิดปกติจะถูกส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อทำการตรวจเพิ่มเติมเครื่องอัลตราซาวด์แบบพกพาที่ขับเคลื่อนด้วยโซลูชัน AI จึงช่วยปฏิวัติวงการอัลตราซาวด์ ลดช่องว่างด้านการดูแลสุขภาพของมารดาในเคนยาได้อย่างมีนัยสำคัญ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถระบุการตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ สนับสนุนการตัดสินใจในการส่งต่อผู้ป่วย และยังช่วยเสริมความมั่นใจให้แก่มารดาที่ตั้งครรภ์ในการตัดสินใจเลือกแนวทางการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม กับตนเองด้วยเช่นกัน.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม