17.00 น. อาทิตย์ 7 ธันวาคม 2568 มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพระมงคลปริยัติกิจ (อำพล อมฺพโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดแสนสุข อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร อดีตเจ้าคณะมีนบุรี ที่วัดแสนสุข เขตมีนบุรี กรุงเทพฯทันทีที่ทรัมป์โพสต์ลงใน Truth Social เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2025 ว่า To all Airlines, Pilots, Drug Dealers, and Human Traffickers, please consider the airspace above and surrounding Venezuela to be closed in its entirety. (ถึงสายการบินทุกแห่ง นักบิน พ่อค้ายาเสพติดและพวกค้ามนุษย์ โปรดพิจารณาว่า น่านฟ้าเหนือและโดยรอบเวเนซุเอลาถูกปิดทั้งหมดแล้ว)ผู้อำนวยการสำนักข่าวรัสเซียประจำภูมิภาคก็โทร.หาทันที “ไอ้นิกิต้า เอ็งช่วยกันวิเคราะห์โพสต์ของทรัมป์หน่อยโว้ย”ผมหัวเราะพร้อมบอกว่า “ไม่มีอะไร เป็นแค่เรื่องที่สหรัฐฯ แย่งทองสีน้ำเงินของเวเนซุเอลากับจีน”เพื่อนถามว่าอะไรของเอ็งวะ ‘ทองสีน้ำเงิน’ ผมบอกว่าคือแร่หายากคอลแทน (บางคนเรียกคอลตัน) ที่เอาไปแยกสกัดออกมาเป็นแทนทาลัมและไนโอเบียม โดยเฉพาะไนโอเบียมใช้ทำวัสดุทนความร้อนสูง ตัวเก็บประจุในมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ อาวุธ ชิ้นส่วนขีปนาวุธ อุปกรณ์ 5G IoT และรถไฟฟ้าเวเนซุเอลามีพื้นที่มากกว่า 9 แสน ตร.กม. มีประชากรไม่ถึง 30 ล้านคน อยู่ห่างจากสหรัฐฯไม่กี่พันกิโลเมตร เป็นประเทศเป้าหมายของสหรัฐฯ มีคนน้อย แต่มีทรัพยากรมาก โดยเฉพาะน้ำมันและแร่หายากหลายประเทศโม้ว่าตนมีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียง unproven reserves หรือ speculative reserves เป็นปริมาณสำรองกระจอกงอกง่อยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ เป็นแค่เพียงคาดการณ์ ไม่เหมือนกับเวเนซุเอลาที่มี ‘ปริมาณน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้ว’ มากที่สุดในโลก มีหลักฐานทางธรณีวิทยายืนยัน เป็นน้ำมันที่ตรวจพบจริงและขุดขึ้นมาได้ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน ประเทศอื่นอ้างว่ามีน้ำมันมาก เป็นเพียงการประกาศเพื่อสร้างภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มอำนาจต่อรองในเวทีโลก และใช้เป็นเครื่องมือการเมืองภายในประเทศ การอ้างที่ยังไม่มี exploration drilling หรือยังไม่มีการสำรวจจริง ไม่ถือว่าเป็นปริมาณน้ำมันสำรองที่มีอยู่จริงตารางเปรียบเทียบ 10 อันดับของประเทศที่มีน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้ว ก็จะทราบว่าทำไมสหรัฐฯ จึงไปวุ่นวายขายปลาช่อนกับเวเนซุเอลาผมขอเรียงจากประเทศที่มีน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้ว ลำดับ 1 ถึง 10 โดยใช้หน่วยด้านหลังเป็นพันล้านบาร์เรล เวเนซุเอลา (303) ซาอุดีอาระเบีย (267) อิหร่าน (209) แคนาดา (168) อิรัก (145) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (113) คูเวต (101) รัสเซีย (80) สหรัฐฯ (68.8) และลิเบีย (48)แคนาดามีพรมแดนประชิดติดกับสหรัฐฯที่มีน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วมากเป็นลำดับ 3 ของโลก แต่สหรัฐฯไม่สนใจ เพราะเป็นน้ำมันทรายหรือ oil sands ต้นทุนการผลิตสูงกว่าน้ำมันทั่วไปมาก ทำลายป่าและระบบนิเวศ ใช้น้ำมาก ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ผลิตน้ำมันในแคนาดา 1 บาร์เรล ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าน้ำมันทั่วไปหลายเท่าผมเคยเดินทางไปดูงานเรื่องนี้ที่รัฐอัลเบอร์ตาของแคนาดา พบว่าน้ำมันของแคนาดาเป็นทราย+ดิน+บิทูเมน ซึ่งแยกออกจากกันยากมาก ต้องใช้เทคโนโลยีหนัก ขุดทรายขึ้นมาล้างด้วยน้ำร้อน ใช้ไอน้ำเพื่อทำให้บิทูเมนละลายนอกจากน้ำมันที่พิสูจน์แล้ว เวเนซุเอลายังมีก๊าซธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ตอนนี้สิ่งที่สหรัฐฯต้องการจากเวเนซุเอลาที่สุดคือ แร่หายากคอลแทน (บางคนเรียกคอลตัน) ที่เป็นแร่ผสมระหว่างคะลัมไบท์และแทนทะไลท์น้ำมันทำให้สหรัฐฯส่งซีไอเอเข้าไปทำรัฐประหารประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวช เมื่อ ค.ศ.2002 แต่ไม่สำเร็จ ห้วง ค.ศ.2010–2012 ที่เริ่มมีการศึกษายืนยันว่าเวเนซุเอลามีคอลแทน สหรัฐฯก็เริ่มประกาศว่าเจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดทันทีที่มีการศึกษายืนยันว่าเวเนซุเอลามีแร่หายากคอลแทนมากเป็นลำดับต้นของโลก ซีไอเอก็จัดประท้วงครั้งใหญ่ในเวเนซุเอลา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลสหรัฐฯ ออก Venezuela Defense of Human Right Act (2014) หรือ “กฎหมายว่าด้วยการปกป้องสิทธิมนุษยชนและภาคประชาสังคมของเวเนซุเอลา”ผมบอกเพื่อนชาวรัสเซียว่า “เรื่องมันยาวโว้ย เอาไว้เจอกันข้าจะฉีกหน้ากากสหรัฐฯ เรื่องเวเนซุเอลาอย่างละเอียดให้ฟัง”.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม