กรุงปักกิ่งประกาศให้การศึกษาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นวิชาบังคับ เด็กทุกคนต้องเรียน ต้องบูรณาการปัญญาประดิษฐ์เข้ากับวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศรัฐบาลจีนยังสั่งให้มหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างปักกิ่งและชิงหัวเพิ่มจำนวนที่นั่งของนิสิตในสาขาปัญญาประดิษฐ์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล ชิป และหุ่นยนต์จีนกำหนดให้ AI เป็นหนึ่งในสาขาเชิงกลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘จ้านลวี่เอ่อร์ซิ่ง ซินซิง ฉ่านเย่’ กลยุทธ์นี้สำคัญต่อยุทธศาสตร์ชาติ อุตสาหกรรมเกิดใหม่ เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติรัฐบาลจีนอ้าง ‘จ้านลวี่เอ่อร์ซิ่ง ซินซิง ฉ่านเย่’ เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ต้องใช้ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่ ชิป และเซมิคอนดักเตอร์ พลังงานใหม่อย่างไฮโดรเจน เทคโนโลยีชีวภาพ อวกาศและการบิน และวัสดุใหม่ จีนลดการผลิตแบบเดิมไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่จะทำให้จีนมีศักยภาพในการแข่งขันระดับโลกหลายประเทศกระจายอำนาจทางการศึกษา ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างวางแผน ถ้าได้กลุ่มคนที่ฉลาดและมีวิสัยทัศน์ก็ดีไป แต่ถ้าได้กลุ่มคนที่กระจอกงอกง่อยมองโลกในอนาคตไม่ออกมาบริหารการศึกษา เยาวชนก็เสียเปรียบ ไม่ทันโลก ตกโลก ยิ่งมีการทุจริตคอร์รัปชันในวงการการศึกษา ไม่ต้องพูดถึงความเหลื่อมล้ำ ‘ระหว่างประเทศ’ แค่ ‘ในประเทศ’ ก็มีความเหลื่อมล้ำสูงการลงทุนในการศึกษาและการเตรียมความพร้อมด้าน AI ของยุโรปและสหรัฐฯไม่ราบรื่น เพราะการศึกษาในประเทศเหล่านี้เป็นระบบกระจายอำนาจ ยังมีความขัดแย้งกันระหว่างครู นักการเมือง ผู้ปกครอง ฯลฯ หลายแห่งยังเรียนหลักสูตรโบราณที่ไม่ทันโลก บางประเทศบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดหลักสูตรและทิศทางการศึกษายังทะเลาะกันไม่จบจีนทำได้เร็ว เพราะรวมศูนย์ที่สามารถบังคับได้ทั้งระบบ ให้เหตุผลในการบังคับว่า จีนจะต้องเป็นผู้นำโลกด้านปัญญาประดิษฐ์ภายใน ค.ศ.2030ค.ศ.2018 มีการทดลองบรรจุวิชา AI, coding และ robotics ในหลักสูตรการศึกษาระดับประถมและมัธยม ทดลองเปิดหลักสูตร AI ในวิทยาลัยเทคนิคเพื่อผลิตแรงงานที่ตรงกับตลาด ในระดับอุดมศึกษามีการทดลองตั้งสาขาวิชา AI อย่างเป็นทางการ 30 แห่ง เมื่อได้ผลแล้วจึงขยายไปทั่วประเทศรัฐบาลจีนตั้ง AI National Team หรือ ‘ทีมปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ’ ที่ประกอบด้วย ไป่ตู้ อาลีบาบา เทนเซนต์ และหัวเว่ย เพื่อร่วมวางหลักสูตรการศึกษาของจีนไป่ตู้เก่งด้านเสิร์ชเอนจิน ปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลภาษา การจดจำเสียง ระบบขับขี่อัตโนมัติ และ Cloud Computingอาลีบาบาเก่งเรื่องอีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มเถาเป่า ทีมอลล์ ชำนาญเรื่องฟินเทค โลจิสติกส์ ดิจิทัลเพย์เมนต์ ดาต้า และอาลีบาลาคลาวด์เทนเซนต์เด่นเรื่องโซเชียลมีเดียและบันเทิง มีแอปวีแชตที่เหมือนหนึ่งรวมเอาไลน์ + เฟซบุ๊ก + เพย์เมนต์ ไว้ในที่เดียว เป็นเจ้าของเกมดังๆหลายตัว และมีการลงทุนในบริษัทเทคทั่วโลกหัวเว่ยชำนาญด้านโทรคมนาคมและเครือข่าย เก่งเรื่องอุปกรณ์ 5G มือถือ สมาร์ทโฟน มีชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง และมีโซลูชันด้านการคำนวณและศูนย์ข้อมูลต้องยอมรับว่าทีม AI แห่งชาติของจีนครอบคลุมตั้งแต่ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ อินเตอร์เน็ต การเงิน และการสื่อสารมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯหลายแห่งอยากเร่งเครื่องเรื่องการศึกษา AI แบบที่จีนทำ แต่ระบบการศึกษาแบบ ‘กระจายอำนาจ’ ของสหรัฐฯทำให้ยากที่จะมารวมตัวกัน แต่ละรัฐดูแลการศึกษาของตัวเอง มหาวิทยาลัยเป็น autonomy ผมหมายถึงมีอิสระในการบริหาร ไม่มีใครมาสั่งหลักสูตรให้เปิด AI ได้ บริษัทใหญ่ๆอย่างกูเกิล ไมโครซอฟท์ และโอเพ่นเอไอ ก็ทำวิจัยของตัวเอง ไม่เผื่อแผ่แบ่งปันไปให้การศึกษาของชาติ สหรัฐฯไม่มี AI National Team แบบจีนมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯบางแห่งพึ่งเงินบริจาค หรือหาเงินมาเป็นทุนในการทำวิจัยเอง บางมหาวิทยาลัยมีศักยภาพ บางมหาวิทยาลัยทำได้ช้าการศึกษาในสหรัฐฯต้องผ่านกระบวนการอนุมัติหลักสูตร ผ่านสภามหาวิทยาลัย ต้องไปผ่านคณะกรรมการรับรองมาตรฐานและสถาบันการรวมศูนย์และการกระจายการศึกษาของจีนและสหรัฐฯต่างมีดีมีเสีย ค.ศ.2025 เราอาจจะยังไม่เห็นความแตกต่างกันมากนัก ทว่าใน ค.ศ.2035 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ผลของการปรับปรุงหลักสูตรด้านปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบัน จะทำให้ประเทศมีความก้าวหน้าต่างกันอย่างมาก.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม