หากเอ่ยถึงดินแดนเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลและแรงศรัทธาทางศาสนาอันแรงกล้า “ทิเบต” หรือ “ซีจ้าง” เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน ดินแดนหลังคาโลกแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาหิมาลัยทอดยาวสุดสายตา แต่ยังเต็มเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ยาวนาน วัฒนธรรมที่ลุ่มลึก และจิตวิญญาณแห่งพุทธศาสนาอันแรงกล้าเมื่อกล่าวถึงสัญลักษณ์ของทิเบต สิ่งแรกที่นึกถึงคือ “พระราชวังโปตาลา” วังโบราณตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขามาร์โปรี ที่ความสูงกว่า 3,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ไกด์ชาวทิเบตเล่าให้ฟังว่าสถาปัตยกรรมปราสาทแบบป้อมปราการอันยิ่งใหญ่อลังการแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 7 หรือกว่า 1,300 ปีก่อน โดย พระเจ้าซรอนซันกัมโป ก่อนถูกทำลายจากสงคราม กระทั่งถึงสมัย “องค์ดาไลลามะที่ 5” ในศตวรรษที่ 17 ได้มีการบูรณะและต่อเติมขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นพระราชวังฤดูหนาวขององค์ดาไลลามะเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและการปกครองที่สำคัญที่สุดของทิเบตมานานหลายศตวรรษการเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อเข้าชมพระราชวังโปตาลาต้องใช้ความพยายามทั้งร่างกายและจิตใจไม่น้อย ทั้งความสูงของที่ตั้งและความชันของทางขึ้นรวมทั้งอากาศเบาบาง แต่เมื่อเข้าไปถึงภายในและสายตาปรับกับแสงสลัวภายในแล้ว ภาพที่เห็นก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยล้า พื้นที่ส่วนแรกคือ “วังขาว” เป็นที่ประทับและทรงงานขององค์ดาไลลามะ ประกอบด้วย ห้องโถงหลัก ห้องรับรองแขกสำคัญ รวมถึงพื้นที่สำหรับศึกษาเล่าเรียน และที่พำนักในฤดูหนาวขององค์ดาไล ลามะบนชั้น 7 ซึ่งมีแสงสว่างส่องถึง จึงถูกเรียกขานว่า “หอแห่งดวงอาทิตย์” แม้ทุกสิ่งจะดูเรียบง่าย แต่กลับแฝงไว้ด้วยความยิ่งใหญ่และสง่างาม ต่อจากนั้นจึงเป็น “วังแดง” สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและที่ประดิษฐานสถูปบรรจุพระศพขององค์ดาไลลามะ 8 องค์ (ตั้งแต่ลำดับที่ 5-13 ยกเว้นองค์ที่ 6) อีกทั้งยังมีห้องเก็บสมบัติทางศาสนาอันล้ำค่าอีกมากมาย พระราชวัง โปตาลาจึงไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางจิตวิญญาณและศาสนาอย่างลึกซึ้ง ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับความสงบและแรงศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลายอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือ “วัดโจคัง” หรือ “ต้าเจาซื่อ” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าลาซา และถือเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวทิเบต วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าซรอนซันกัมโปเช่นเดียวกัน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานอารยธรรมโบราณของทิเบต จีน เนปาล และอินเดียไว้ด้วยกันอย่างลงตัว วัดโจคังไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต แต่ยังเป็นแหล่งรวมสิ่งของล้ำค่าทางวัฒนธรรมมากมาย จนได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโกร่วมกับพระราชวังโปตาลา บรรยากาศภายในวัดโจคังเปี่ยมด้วยพลังศรัทธาอันแรงกล้า มีนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญชาวทิเบตหลั่งไหลเข้ามาสักการะอย่างแน่นขนัดไม่ขาดสาย เสียงสวดมนต์ที่ดังแว่วมาพร้อมกับกลิ่นธูปหอมอบอวล สร้างความรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลาไปสู่อีกโลกในอดีตวัดแห่งนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญคือยังเป็นสถานที่ประดิษฐาน องค์ศากยมุนีขนาดเท่าตัวจริงเมื่อครั้งพระชนมายุ 8 พรรษา ซึ่งเจ้าหญิงภริคุติเทวี จากเนปาลได้อัญเชิญมา รวมทั้ง พระพุทธรูปโจโว องค์จำลองขององค์พระศากยมุนีขนาดเท่าพระชนมายุ 12 พรรษา ที่ เจ้าหญิงเหวินเฉิง พระราชนัดดาในจักรพรรดิถังไท่จงทรงอัญเชิญมา ในคราอภิเษกสมรสกับพระเจ้าซรอนซันกัมโปการได้เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์นี้จึงถือเป็นที่สุดแห่งความปรารถนาของชาวพุทธทิเบตหลังใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศความศรัทธาแรงกล้าในวัดโจคังแล้ว การเดินสำรวจถนนบาร์ฆอร์ รอบวัดก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจ ถนนสายนี้เป็นตลาดที่คึกคักที่สุดในลาซา เต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายของที่ระลึก งานฝีมือ และอาหารท้องถิ่นมากมาย ทำให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวทิเบตอย่างใกล้ชิดทิเบตที่สัมผัสด้วยตัวเองในวันนี้ไม่ใช่ดินแดนไกลโพ้น ห่างไกลความเจริญ หากแต่การคมนาคมมีความทันสมัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งการเดินทางจากเมืองเฉิงตูและคุนหมิงที่เชื่อมต่ออย่างง่ายดาย รวมถึงทางรถไฟความเร็วสูงที่เข้าถึงเมืองใหญ่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้การเดินทางสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากถนนหนทางและโครงสร้างพื้นฐานทันสมัยแล้วยังมีโรงแรมและที่พักหลากหลายระดับ รวมถึงร้านอาหารและร้านค้ามากมายสามารถรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างดีแต่สิ่งที่ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ จิตวิญญาณที่เข้มแข็งของชาวทิเบต แรงศรัทธาในพุทธศาสนาและประเพณีที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนยังเป็นหัวใจสำคัญหล่อเลี้ยงดินแดนแห่งนี้ไว้ ประสบการณ์ในทิเบตทำให้เห็นการพัฒนาเติบโตควบคู่ไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าอย่างกลมกลืนการมาเยือนทิเบตสักครั้งจึงไม่ใช่แค่การเดินทางท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือการเดินทางเพื่อย้อนรอยอดีต สัมผัสปัจจุบัน และทำความเข้าใจในคุณค่าของชีวิตอย่างลึกซึ้ง ถือเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่อาจลืมเลือนได้เลย เชื่อแน่ว่าอีกไม่นานรัฐบาลจีนจะอัดแคมเปญส่งเสริมให้ชาวไทยไปเที่ยวทิเบตกันมากขึ้น.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “7 วันรอบโลก” เพิ่มเติม