จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือไปยังเลขาธิการสหประชาชาติสัปดาห์ก่อน แจ้งความประสงค์ที่จะฟ้องร้องเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศวันก่อนนั้นทางกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้มาแสดงจุดยืนแล้วว่า 1.เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขอให้เวียนหนังสือเป็นเอกสารของสมัชชาสหประชาชาติ ภายใต้ระเบียบวาระที่ 32 ของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 79 เรื่องการป้องกันการปะทะด้วยการใช้อาวุธ2.เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสห ประชาชาติเช่นกัน ในอีก 2 วันต่อมา ชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งท่าทีและการดำเนินการของฝ่ายไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ความตกลง MOU 2543 และแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาทวิภาคีตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้และมีพันธกรณี พร้อมขอให้เวียนทั้งหนังสือลงนามและแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเอกสารของสมัชชาสหประชาชาติ ภายใต้ระเบียบ วาระที่ 32 ด้วยเช่นกัน3.เลขาธิการสหประชาชาติได้ลงทะเบียนหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก และเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก ข้างต้นเข้าสู่ระเบียบวาระที่ 32 ของสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 79 แล้วซึ่งมีนัยเป็นการเวียนหนังสือให้ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติรับทราบ4.ในหลักการแล้ว การเวียนหนังสือของประเทศสมาชิกภายใต้ระเบียบวาระของสมัชชาสหประชาชาติ เป็นกระบวนการเพื่อบันทึกข้อมูลหรือท่าทีของประเทศสมาชิกไว้เป็นหลักฐาน (place on record) และทำให้เกิดการรับรู้ของประเทศสมาชิก ในกรณีนี้ เมื่อกัมพูชามีหนังสือถึงสมัชชาสหประชาชาติ ฝ่ายไทยจึงได้ดำเนินการด้วยเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีไทย เป็นการเวียนเอกสารปกติของสหประชาชาติ.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม