หลายสิบปีที่ผ่านมาไทยเป็นที่หมายหลักสำหรับการลงทุนของญี่ปุ่น หลังจากเริ่มเข้ามาลงทุนในไทยตั้งแต่ราวช่วงปี 2503 เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เข้ามาทำธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สินค้าญี่ปุ่นได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างดี กระทั่งมนต์ขลังเริ่มคลาย ไทยอาจไม่เนื้อหอมดึงการลงทุนจากญี่ปุ่นหนาแน่นเช่นในอดีตกระนั้น องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ “เจโทร” กรุงเทพฯ หน่วยงานสำคัญยังเดินหน้าผลักดันสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึง Zest Thailand/Thailand Japan Fast Track Pitch Event 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่เกษรทาวเวอร์ ภายใต้ความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจากไทย ร่วมด้วยกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (เมติ) ญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และหอการค้าญี่ปุ่นในไทย เปิดทางเชื่อมโยงให้สตาร์ตอัพได้ร่วมงานกับองค์กรใหญ่ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ความท้าทายได้นายคุโรดะ จุน ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ประจำกรุงเทพฯ กล่าวเปิดงานเน้นถึงภารกิจหลักของเจโทร กรุงเทพฯ ในการสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่นในไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัทจากทั้ง 2 ฝ่าย ที่ผ่านมาได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ช่วยส่งเสริมสตาร์ตอัพญี่ปุ่นจับคู่ธุรกิจไทย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับบริษัทที่มีเทคโนโลยีเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน ขณะที่ยังย้ำหนักแน่นว่าเจโทรกรุงเทพฯ จะเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่ายต่อไปงานนี้มีบริษัทใหญ่จากไทยและญี่ปุ่น 6 บริษัท เสนอประเด็นความท้าทายที่ต้องการระดมไอเดียช่วยแก้ไข เช่น สวนอุตสาหกรรมโรจนะ, สยามซีเมนต์ กรุ๊ป, เอสซีจีซี, ไทยเซอิ คอร์ปอเรชั่น, โตชิบา และเวทเธอร์นิวส์ผู้สนใจเข้าร่วมรับความท้าทาย สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.jetro.go.jp/thailand/ หมดเขตวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ก่อนถึงวันนำเสนอในช่วงปลายเดือน ก.พ.2568คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม