โครงการศูนย์ศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ม.ธรรมศาสตร์ เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด ‘นวัตกรรมการจัดบริการสาธารณะของท้องถิ่น’ ให้รองนายกเทศมนตรี รุ่นที่ 6 พุธ 31 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00-12.00 น. ที่สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น จ.ปทุมธานีบาดาวีลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเมษายน 2009 องค์การมลายูรวมแห่งชาติหรืออัมโน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ในมาเลเซียก็ถึงสถานะมั่นคงสูงสุด เมื่อได้ลูกชายนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 และหลานของนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ผู้มีชื่อว่านาจิบ ราซัก ซึ่งมีพื้นฐานการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรมจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมของอังกฤษ แถมยังมีประสบการณ์ทำงานในธนาคารเนการามาเลเซียและบริษัทแห่งชาติเปโตรนาสนาจิบเป็นสมาชิกรัฐสภาเมื่ออายุเพียง 23 ปี หลังจากนั้นก็เป็นมุขมนตรีของรัฐปะหัง (1982-1986) นาจิบเคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม 2 สมัย เมื่อบาดาวีเป็นนายกรัฐมนตรีก็เล็งนาจิบไว้เป็นนายกฯ คนต่อไป โดยให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และเป็นนายกรัฐมนตรีของจริงใน ค.ศ.2009การเลือกตั้งทั่วไปใน ค.ศ.2013 องค์การมลายูรวมแห่งชาติหรืออัมโนชนะเลือกตั้ง และพรรคนี้ก็ได้เป็นรัฐบาลอีกรอบ โดยนาจิบเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 โดยส่วนตัว นาจิบหนุนขบวนการปาเลสไตน์และต่อต้านอิสราเอลอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ที่สำคัญคือนาจิบหนุนการรวมตัวกันระหว่างขบวนการฟะตะห์และขบวนการฮะมาสนาจิบพาภริยาและนายทหารชั้นสูงของมาเลเซียไปเยือนเวสต์แบงค์ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอล นาจิบจึงเป็นผู้นำมุสลิมคนแรกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เหยียบแผ่นดินปาเลสไตน์ และให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ทุกเรื่อง แม้แต่ด้านการเงินขบวนการฟะตะห์เป็นองค์กรทางการเมืองและการทหารของปาเลสไตน์ ตั้งโดยยาซีร์ อะรอฟาต (ยัสเซอร์ อาราฟัต) และอะบู ญีฮาด มีเป้าหมายปลดปล่อยดินแดนปาเลสไตน์จากการยึดครองของชาวยิว ซึ่งมาตั้งประเทศอิสราเอลในดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวปาเลสไตน์ส่วนฮะมาสเป็นขบวนการต่อต้านอิสราเอลของมุสลิมปาเลสไตน์ เป็นองค์กรอิสลามติดอาวุธที่ต่อต้านการดำรงอยู่ของอิสราเอลในดินแดนตะวันออกกลางที่ขบวนการฮะมาสถือว่าเป็นแผ่นดินอาหรับ ในอดีตขบวนการฮะมาสต่อต้านและขัดขวางการทำความตกลงอย่างสันติระหว่างอิสราเอลกับผู้นำองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์หรือ PLO ด้วยวิธีการก่อการร้าย ซึ่งพวกฮะมาสถือว่าเป็นสงครามศาสนาหรือญิฮาดบทบาทของนาจิบในเรื่องความมั่นคงของตะวันออกกลางมีสูงอย่างที่พวกเราชาวบ้านนึกไม่ถึง โลกเราใบนี้มีความซับซ้อนยอกย้อนหลายชั้น สิ่งที่ผิดอาจจะเป็นเรื่องที่ถูก สิ่งที่ถูกอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดยุคที่ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด เป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและสหรัฐฯเป็นไปอย่างย่ำแย่ เพราะ ดร.มหาธีร์ วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯอย่างสาดเสียเทเสีย มาถึงยุคนาจิบ ราซักเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านผู้นี้นี่ละครับ ที่เข้ามาแก้ไขความยุ่งยากระหว่างสหรัฐฯกับมาเลเซีย นาจิบมีความสัมพันธ์ขั้นสนิทส่วนตัวกับบารัค โอบามา ถึงยุคที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ทรัมป์เชิญนาจิบ ราซัก ไปเยือนสหรัฐฯในเดือนกันยายน 2017ตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรีปีแรก นาจิบตั้ง 1MDB กองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว โดยมุ่งการลงทุนในธุรกิจมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านโรงไฟฟ้าและกิจการด้านพลังงานในมาเลเซียและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ หลังจากตั้งมาได้ 5 ปี แทนที่จะมีกำไร แต่กองทุนนี้ดันมีหนี้สูงถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือ 3.5 แสนล้านบาท หนังสือพิมพ์ของพวกยิวออกมาตะโกนก้องร้องบอกว่า มีเงิน 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกโอนเข้าบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนาจิบนิวยอร์กไทม์สของสหรัฐฯส่งคนสืบสวนอย่างจริงจัง แล้วก็พบว่าเงินมากมายหลายล้านดอลลาร์ถูกนำไปซื้อเครื่องประดับให้ภริยานาจิบ หลังจากนั้นไม่นาน ทรัพย์สิน 1.8 พันล้านดอลลาร์ที่ซื้อด้วยเงิน 1MDB ก็ถูกรัฐบาลสหรัฐฯสั่งอายัดพรุ่งนี้ขออนุญาตมารับใช้ต่อครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com