ค.ศ.1991 สหภาพโซเวียตแตกกระจัดพลัดพราย เศรษฐกิจของสาธารณรัฐทั้ง 15 แห่งที่เคยประกอบกันเป็นสหภาพโซเวียตไปไม่รอด ผู้คนอดอยากล้มตาย สตรีจากยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางจำนวนไม่น้อยต้องหนีความโหยหิวออกไปเป็นโสเภณี แม้แต่ประเทศเล็กชาติน้อยอย่างกัมพูชา ศรีลังกา ไทย ฯลฯ ในสมัยนั้นก็ยังมีโสเภณีจากอดีตสหภาพโซเวียตเข้ามาให้บริการค.ศ.2022 อ่านรายงานจาก English Collective of Prostitutes ซึ่งเป็นองค์กรสังคมสงเคราะห์ในอังกฤษที่เปิดสายด่วนให้คำปรึกษาผู้ขายบริการถึงวิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศและกฎหมาย องค์กรนี้ให้ข้อมูลกับสกายนิวส์ว่า เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ เงินเฟ้อ ค่าแรงต่ำ รายได้ไม่พอค่าอาหารและพลังงาน ราคาสินค้าพุ่งสูง ข้อเท็จจริงในเวลานี้คือสตรีอังกฤษจำนวนหนึ่งต้องออกมาขายบริการมากมายหลายรูปแบบ ทั้งออนไลน์ ยืนหาแขกบนถนน หรือเข้าไปซ่อนตัวอยู่ตามสถานที่ต่างๆแต่ละเคสที่องค์กรสังคมสงเคราะห์นำมาเปิดเผย อ่านแล้วเศร้าใจ ยกตัวอย่างเช่น หลังจากรัฐบาลเปลี่ยนระบบสวัสดิการ ทำให้แม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 4 คนหนึ่งมีรายได้ไม่พอ เมื่อลูกหิวก็ต้องออกไปขายตัวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อหาเงินมาซื้ออาหารให้ลูกกิน ที่น่าตกใจคือ สถานการณ์เศรษฐกิจของอังกฤษที่ย่ำแย่ ทำให้ชายหญิงต่างเอาตัวรอด ผู้ชายอังกฤษจำนวนหนึ่งหาเงินจากการแบล็กเมล์ผู้หญิงขายบริการด้วยการขู่เปิดเผยข้อมูล บางคนขู่ว่าจะนำไปเล่าให้ครอบครัวและลูกฟัง มีบางกรณีถึงขนาดจะนำเรื่องไปให้รับรู้รับทราบกันที่โรงเรียนของลูกของสตรีขายบริการเรียนอยู่ฟังเรื่องของคนอังกฤษที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจแล้วก็เห็นใจ หลายองค์กรเริ่มออกมาช่วยเหลือ เช่น Beyond The Street ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลช่วยเหลือผู้หญิงให้หลุดพ้นจากอาชีพโสเภณี องค์กรนี้ยอมรับว่าสถานการณ์เศรษฐกิจทำให้สตรีอังกฤษต้องออกมาพึ่งพาอาชีพขายบริการทางเพศเพื่อเอาชีวิตรอด ที่เราอ่านแล้วสงสารอย่างมากก็คือ “ผู้หญิงจำนวนหนึ่งต้องให้บริการทางเพศโดยปราศจากการป้องกัน” “บรรดาลูกค้ารู้ดีว่า พวกเธอไม่อยู่ในฐานะที่จะปฏิเสธได้ สถานการณ์จึงผลักพวกเธอให้เข้าสู่สภาพแวดล้อมเช่นนั้น”ข่าวโสเภณีอังกฤษแพร่ขยายกระจายไป หลายคนโทษรัฐบาลอังกฤษที่ไปสนับสนุนนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู สหรัฐฯเองก็ลำบาก ทว่าอังกฤษลำบากกว่า เพราะเป็นประเทศเล็ก เศรษฐกิจไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารอย่างสหรัฐฯ แถมยังไม่มีพลังงานเป็นของตัวเองอังกฤษแย่ถึงขนาดกระทบการดื่มกาแฟ สตาร์บัคส์มีสาขาของตัวเองอยู่ในอังกฤษ 300 แห่ง แฟรนไชส์ 790 แห่ง (ข้อมูลเดือนตุลาคม 2021) ขณะนี้มีข่าวว่าคนอังกฤษเริ่มไม่มีเงินซื้อกาแฟราคาแพง สตาร์บัคส์อาจพิจารณาขายสาขาและแฟรนไชส์กว่า 1,000 แห่งทั่วราชอาณาจักร ทั้งที่ลงหลักปักฐานมาเปิดร้านกาแฟในอังกฤษตั้งแต่ ค.ศ.1998 เป็นเวลาเกือบ 25 ปีที่คนอังกฤษดื่มกาแฟสตาร์บัคส์ ทว่าวันนี้มีปัญหารายรับไม่พอรายจ่าย กาแฟจึงกลายเป็นของฟุ่มเฟือยใครจะนึกเล่าครับว่าเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนกรกฎาคม 2022 จะเกินร้อยละ 10 สูงสุดในรอบ 40 ปี มีคนทำนายทายว่า ถ้าสงครามรัสเซีย-อูเครนยังไม่จบ อังกฤษจะลำบากมากกว่านี้ ประชาชนคนทั่วไปจะเดือดเนื้อร้อนใจเมื่อความหนาวมาเยือน และพลังงานที่จะใช้บรรเทาเบาบางความหนาวมีไม่เพียงพอคนอังกฤษอาจจะลำบากมากยิ่งขึ้น ถ้าหากนางลิซ ทรัสส์ ซึ่งกำลังรณรงค์หาเสียงเป็นผู้นำพรรคอนุรักษนิยมได้เป็นหัวหน้าพรรคจริงๆ การเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมทำให้เธอได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษแทนนายบอริส จอห์นสัน ใครที่ฟังนางทรัสส์ดีเบตเมื่อวันอังคาร 23 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา เธอบอกว่า ถ้าเธอได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เธอพร้อมจะยิงอาวุธนิวเคลียร์ไทรเดนต์ทำลายล้างถ้ามีความจำเป็นนางทรัสส์เชื่อว่าการตัดสินใจยิงอาวุธนิวเคลียร์เป็นหน้าที่อันสำคัญของคนเป็นนายกรัฐมนตรี เธอยังสัญญาว่าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการทหารให้สูงมากขึ้นถึงร้อยละ 3ฟังแล้วหยองครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com