สำนักสิริพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด “นวัตกรรมการบริหารงานท้องถิ่นและการบริการสาธารณะ” รับใช้ปลัดและรองปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 75 คน หลักสูตรนักบริหารงานท้องถิ่นมืออาชีพรุ่นที่ 1 เวลา 13.00-16.00 น.21กุมภาพันธ์ 2565 ที่สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น จ.ปทุมธานีพวกถือหางรัสเซียและอูเครนต่างซัดกันมันหยดในโซเชียลมีเดีย มีทั้งเรื่องจริงเรื่องปลอม ล่อกันเละ โดยเฉพาะทางด้านประวัติศาสตร์เมื่อวานผมรับใช้ถึงตอนที่อูเครนอยู่ใต้การปกครองของโปแลนด์ ค.ศ.1654 อูเครนไปตกลงกับรัสเซียเพื่อคานอำนาจโปแลนด์ พอถึง ค.ศ.1658 อ้าว ผู้นำอูเครนคนต่อมาไปทำความตกลงกับโปแลนด์จะเล่นรัสเซีย โดยยอมให้อูเครนเป็นรัฐหนึ่งในเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย อ้าว พวกโปแลนด์ก็ปฏิเสธที่จะให้สัตยาบัน แล้วก็หันไปร่วมมือกับรัสเซียปราบอูเครนรัสเซียกับโปแลนด์ลงนามสนธิสัญญาอันดรูโซโว ค.ศ.1667 แบ่งอูเครนเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นของรัสเซีย อีกส่วนเป็นของโปแลนด์ นำประวัติศาสตร์ตรงนี้มาเขียนเพราะอยากรับใช้ให้เห็นว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชาติรัฐทางแถบนี้ไว้ใจกันยาก ตัดสินใจกลับไปกลับมา แม้แต่ในปัจจุบัน เดี๋ยวมีข่าวประเทศนู้นหนุนอูเครนให้ซัดกับรัสเซีย ประเทศนี้ไม่หนุน บางประเทศหนุนแต่แรกแต่ถอนตัวภายหลังเมื่อแบ่งอูเครนได้แล้ว พวกโปลบังคับให้ชาวนาอูเครนเป็นทาสติดที่ดิน ส่วนพวกรัสเซียหนุนให้ชาวอูเครนหลอมรวมกับรัสเซีย โดยปฏิบัติการจิตวิทยาบอกว่า เราทั้งสองประเทศสืบเชื้อสายมาจากพวกสลาฟตะวันออก มีรากภาษาและวัฒนธรรมเดียวกันอยากรู้ประวัติศาสตร์แถบนี้ต้องศึกษาเรื่องของพวกคอสแซค เมื่อโดนโปแลนด์กดดันมากเข้า พวกอูเครนส่วนหนึ่งก็หนีไปเป็นคอสแซคเพื่อกลับมาตีโปแลนด์ แพ้บ้างชนะบ้าง รัสเซียเห็นความสามารถของพวกคอสแซคก็ไปทำข้อตกลงว่ารัสเซียยอมรับอำนาจการปกครองตนเองของคอสแซค ยกเว้นการเก็บภาษี โดยมีเงื่อนไขว่า คอสแซคต้องทำหน้าที่เป็นกองทหารประจำชายแดนเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากภายนอก นี่ละครับคือสาเหตุที่พวกคอสแซคซึ่งเป็นอูเครนแต่เป็นกองทหารที่จงรักภักดีต่อพระเจ้าซาร์ของรัสเซียที่ถามว่าอูเครนเคยเป็นดินแดนของรัสเซียหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะเอาช่วงไหนของประวัติศาสตร์มาพิจารณา สมัยซารีนาแคเทอรีนมหาราชของรัสเซีย พระองค์หนุนชู้รักให้ไปเป็นกษัตริย์แห่งโปแลนด์ แล้วก็ไปแบ่งดินแดนโปแลนด์ถึง 3 รอบ ช่วงนี้รัสเซียก็ได้ดินแดนอูเครนที่โปแลนด์เคยปกครอง ต่อมารัสเซียจัดรูปแบบการปกครองให้อูเครนเป็นจังหวัดหนึ่งของจักรวรรดิ และแต่งตั้งข้าหลวงจากกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปปกครอง ยุคซาร์อะเล็กซานเดอร์ที่ 1 และซาร์นิโคลัสที่ 1 ทรงดำเนินนโยบาย Russification หรือเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นรัสเซียความขัดแย้งรัสเซียกับอูเครนในครั้งนี้มาจากเรื่องอูเครนจะเข้านาโตและสหรัฐฯต้องการจะหยุดโครงการท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 2 ปัจจุบันมีหลายประเทศในยุโรปเริ่มรู้สึกว่า แทนที่จะสร้างความมั่นคงร่วมกัน นาโตกลับเป็นเครื่องมือที่ทำให้ยุโรปแตกแยกนักการเมืองของยุโรปบางคนเริ่มคิดถึงการลดบทบาทของนาโต อย่างวาเลอรี เปเครสซี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปราศรัยว่าถ้าชนะเลือกตั้ง เธอจะเสนอให้สถาปนาองค์กรเพื่อความมั่นคงของยุโรปขึ้นใหม่ที่กินพื้นที่ตั้งแต่แอตแลนติกไปถึงเทือกเขาอูราล ซึ่งหมายถึงมีรัสเซียร่วมอยู่ด้วยมารีน เลอแปง ซึ่งเป็นผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกคนหนึ่ง บอกว่าฝรั่งเศสต้องทิ้งความคิดกองทัพแบบกลุ่มและต้องออกจากนาโต ต้องปฏิรูปสหภาพยุโรปใหม่ให้เป็นพันธมิตรแห่งประชาชาติยุโรป นายฌ็อง ลุก เมล็งชง นักการเมืองฝรั่งเศสอีกคนบอกว่าสหรัฐฯและนาโตคือต้นเหตุของวิกฤตการณ์ในยูเครน และหนุนการไม่ส่งทหารเข้าร่วมกิจกรรมนาโต พวกเยอรมันและอีกหลายประเทศมีความคิดไปในทางเดียวกันอนาคต มีโอกาสที่สหรัฐฯจะถูกเตะออกจากยุโรป.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com