ขณะที่ผมเขียนคอลัมน์รับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ มนุษย์โลกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 117.8 ล้าน ตายแล้ว 2.6 ล้าน ประเทศที่มีคนติดโควิด-19 มากที่สุดคือ สหรัฐฯ 29.7 ล้าน ประชาชนคนอเมริกันตายไปแล้วมากกว่าครึ่งล้านแม้ว่าคนจะตายไปมากกว่าครึ่งล้าน แต่บางรัฐของสหรัฐฯอย่างเท็กซัสและมิสซิสซิปปีก็ดันประกาศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากป้องกัน ผมว่าคงจะมีการเมืองผสม เพราะผู้ว่าการทั้ง 2 รัฐสังกัดพรรครีพับลิกัน ทันทีที่ทราบว่ามีคำสั่งยกเลิก ประธานาธิบดีไบเดนก็ประณามผู้ว่าการรัฐทั้ง 2 ว่าเป็นความผิดพลาดและสะท้อนความคิดโบราณดูจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของแต่ละรัฐของสหรัฐฯ หลายคนก็กังวลใจครับ เพราะยอดผู้ป่วยใหม่ของสหรัฐฯในแต่ละวันยังอยู่ที่หลายหมื่น ยอดคนตายก็ยังเฉลี่ยวันละ 2,000 คน ไวรัสโควิด-19 ไม่ได้หายไปจากแผ่นดินสหรัฐฯนะครับ ยังซ่อนอยู่ในร่างกายผู้คน และถ้าผู้คนส่วนใหญ่ประมาทเมื่อใด ก็พร้อมจะกลับมาระบาดอย่างระเบิดเถิดเทิงความประมาททำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลิกสวมหน้ากากอนามัย ไม่ล้างมือบ่อยๆ แถมยังกล้ายืนใกล้ประชิดติดตัวคนอื่น ถ้าคนที่ว่ามีภูมิคุ้มกันสูงก็โอเคครับ แต่ถ้าภูมิคุ้มกันต่ำเมื่อใด โอกาสจะถูกโควิด-19 โจมตี ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ไวรัสกลายพันธุ์แล้วก็กระจายข้ามประเทศ อย่างไวรัสสายพันธุ์บี 1.1.7 ที่พบครั้งแรกในอังกฤษ ตอนนี้ก็แพร่อยู่ในแผ่นดินสหรัฐฯ แถมยังมีไวรัสกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นขึ้นมาอีกวัคซีนที่ฉีดกันไปแล้ว อาจจะป้องกันไวรัสประเภทใดประเภทหนึ่งได้ แต่ถ้าไวรัสกลายพันธุ์ เปลี่ยนแปลงไปจากที่พบครั้งแรก เราก็ต้องวิ่งตามฉีดวัคซีนป้องกันกันไม่รู้จักจบสิ้น วัคซีนเหล่านี้บางครั้งมีความเสี่ยงเรื่องผลข้างเคียงหรือแพ้ อย่างที่ออสเตรีย เมื่ออาทิตย์ 7 มีนาคม 2564 ผู้ที่ฉีดวัคซีนคนหนึ่งมีอาการโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด ทำให้มีคนสงสัยว่า นี่เป็นผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาหรือเปล่า เรื่องอย่างนี้ต้องสอบสวนกันจนรู้แท้แน่ชัด ถ้าไม่เกี่ยวจะได้สบายใจรัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เพียง 2 วัน ก็ต้องวิ่งแจ้นเข้าโรงพยาบาล ผมหวังว่า การเข้าโรงพยาบาลของท่านรัฐมนตรีจะไม่เกี่ยวกับการแพ้วัคซีนนะครับ เพราะถ้าเกี่ยว ผู้คนจะแขยงแขงขนและไม่กล้าฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนของใครก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางคนปากไม่ดี ดันออกมาตั้งข้อสังเกตว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 เข้าไปในร่างกายจะทำให้มีคนเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะ messenger RNA เป็นพวกคำสั่งการสร้างโปรตีน ถ้าสร้างผิดตำแหน่ง หรือสร้างมากไป ก็เป็นส่วนเกิน ธรรมชาติของร่างกายจะมีระบบปิดหรือสั่งให้หยุดสร้าง แต่ถ้าสร้างไปเรื่อยๆ จนเกิดภาวะโปรตีนล้น เป็นไปได้หรือไม่ที่โปรตีนพวกนี้จะแปลงเป็นมะเร็งวิกฤติโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจโลกติดกึกติดกัก ถ้ามีมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด แม้จะปลอดภัยจากโควิด-19 แต่เศรษฐกิจก็อาจจะไปไม่รอด หลายประเทศจึงพยายามเร่งฉีดวัคซีนป้องกันให้ประชาชนเพื่อให้สามารถเดินทางข้ามประเทศไปทำธุรกิจได้โฆษกรัฐมนตรีต่างประเทศจีนออกมาบอกว่า จีนทำ Vaccine Passport ที่มีข้อมูลการตรวจและการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน รูปแบบคิวอาร์โค้ดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียวีแชท ที่จีนเร่งออกวัคซีนพาสปอร์ตเพราะต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก หากคนยังเดินทางข้ามประเทศไม่ได้ เศรษฐกิจโลกก็ฟื้นไม่ได้ สหรัฐฯและอังกฤษก็กำลังคิดวัคซีนพาสปอร์ตคล้ายๆกัน ส่วนสหภาพยุโรปกำลังเตรียม Digital Green Pass ทำหน้าที่เป็นวัคซีนพาสปอร์ตเช่นเดียวกันผู้อ่านท่านครับ เรื่องการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนนี่ มีความจำเป็น แม้จะเสี่ยงก็ต้องทำ ความเข้มงวดของการเข้า-ออกประเทศก็ต้องมีบางคนบอกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะจบลงอีกไม่นานแต่ดูแล้ว ผมว่าไม่น่าจะไวนะครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com