พรรคเดโมแครตสร้างประวัติศาสตร์การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา สามารถคว้าชัยชนะศึกชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก 2 ที่นั่ง ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นอันแข็งแกร่งของพรรครีพับลิกันมาตลอด ในการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 6 ม.ค. หลังการลงคะแนนรอบแรกไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การลงคะแนนรอบสองนี้มีประชาชนในรัฐจอร์เจียออกมาใช้สิทธิประมาณ 4 ล้านคน ซึ่งผลปรากฏว่านายราฟาเอล วอร์น็อค ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ส.ว.รัฐจอร์เจีย จากพรรคเดโมแครต มีชัยเหนือนางเคลลี โลฟเฟลอร์ ส.ว.รัฐจอร์เจีย สังกัดพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนนเสียง 50.7 ต่อ 49.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นายจอน ออสซอฟฟ์ ตัวแทนพรรคเดโมแครต ก็คว้าชัยเหนือนายเดวิด เพอร์ดู ส.ว.รัฐจอร์เจีย สังกัดพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนนฉิวเฉียด 50.28 ต่อ 49.72 เปอร์เซ็นต์ กระนั้น ผลอย่างเป็นทางการจะประกาศให้ทราบต่อไปชัยชนะในรัฐจอร์เจียจะทำให้สัดส่วนในวุฒิสภาสหรัฐฯ กลายเป็นเดโมแครต 50 เสียง ต่อรีพับลิกัน 50 เสียง โดยการตัดสินชี้ขาดในกรณีที่เสียงลงมติเท่ากัน จะเป็นหน้าที่ของนางคามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯสังกัดพรรคเดโมแครต ซึ่งย่อมหมายความว่าขณะนี้พรรคเดโมแครตได้กลับมาครองที่นั่งเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว จากแต่ก่อนที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเพียงอย่างเดียว และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสสื่อท้องถิ่นสหรัฐฯรายงานว่า สำหรับประวัติของนายออสซอฟฟ์ วัย 33 ปี อดีตเป็นผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีเชิงทำข่าวสืบสวน เกิดและเติบโตในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ในสมัยมัธยมเคยเป็นเด็กฝึกงานของนายจอห์น ลูอิส ส.ส.รัฐจอร์เจีย ที่เพิ่งเสียชีวิตไปในปี 2563 นอกจากนี้ นายออสซอฟฟ์ ยังเคยเป็นที่ปรึกษา ส.ส.และ ส.ว.พรรคเดโมแครต ด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงส่วนนายราฟาเอล วอร์น็อค วัย 51 ปี เคยเป็นบาทหลวงในนครนิวยอร์ก และเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ซึ่งเจ้าตัวได้รณรงค์อย่างหนักเรื่องการป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ รวมถึงเรื่องสิทธิในการเข้าถึงการทำแท้ง ที่ถือเป็นบาทหลวงไม่กี่คนในสหรัฐฯที่มีแนวคิดเช่นนี้ ขณะที่ตำแหน่งล่าสุด เป็นบาทหลวงของโบสถ์เอบีเนเซอร์ บัพติสต์ ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย โบสถ์เดียวกับที่มาร์ติน ลูเธอร์ คิง นักสิทธิผิวสีชื่อดัง ใช้เคลื่อนไหวเรียกร้อง ชัยชนะครั้งนี้ยังทำให้นายวอร์น็อคกลายเป็นส.ว.ผิวสีคนแรกของรัฐจอร์เจีย และ ส.ว.ผิวสีคนที่ 11 ของวุฒิสภาสหรัฐฯเช่นกัน.