ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน เป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีมูน แช-อิน แห่งเกาหลีใต้ ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมื่อ 23 ธ.ค. เพื่อหาทางปรับปรุงความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาน หลังเกาหลีใต้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ เมื่อปี 2560 ซึ่งจีนเห็นว่าเป็นภัยคุกคามในการกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม ผู้นำทั้งคู่เผยว่า เฝ้ารอปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคี สี จิ้นผิง ยังระบุว่าจีนสนับสนุนความพยายามของเกาหลีใต้ที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือและรื้อฟื้นการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีที่ชะงักงันอีกครั้ง เขายังชี้ว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีนั้นสำคัญยิ่งในโลกด้านมูน แช-อิน กล่าวว่า ขณะที่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกผิดหวังในกันและกันมาชั่วระยะหนึ่ง แต่การมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกัน ป้องกันไม่ให้จีนและเกาหลีใต้เหินห่างกันโดยสิ้นเชิง หวังว่าความฝันของเกาหลีใต้จะมีประโยชน์ต่อจีน ขณะที่ความฝันของจีนกลายเป็นโอกาสสำหรับเกาหลีใต้ และหวังว่าจีนซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือจะร่วมมือและมีบทบาทมากขึ้นในการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งนี้ ความสัมพันธ์จีนกับเกาหลีใต้ตกต่ำอย่างหนักตั้งแต่ปี 2560 หลังเกาหลีใต้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธเพดานบินสูง หรือ “ทาด” ของสหรัฐฯ ที่ภาคใต้ ซึ่งจีนชี้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคือการใช้เรดาร์ของทาดสอดแนมดินแดนจีน มากกว่าจะใช้แจ้งเตือนการยิงและการยิงทำลายขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ จากนั้นจีนใช้มาตรการตอบโต้หลากหลาย รวมทั้งห้ามกรุ๊ปทัวร์จากจีนไปเกาหลีใต้ คว่ำบาตรรายการโทรทัศน์ วงดนตรีบอยแบนด์และผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมอื่นๆของเกาหลีใต้ ส่วนบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ “ล็อตเต้” ของเกาหลีใต้ ซึ่งบริจาคสนามกอล์ฟ สำหรับติดตั้งระบบทาดก็ถูกคว่ำบาตรจนธุรกิจในจีนพังพินาศ ขณะที่ยอดขายรถยนต์ของเกาหลีใต้ เช่น ฮุนไดและเกีย ในจีนก็ตกวูบ แต่เกาหลีใต้ก็ยังไม่ยอมปลดระบบทาด อย่างไรก็ตาม ความโกรธเกรี้ยวของจีนในช่วงหลังๆซาลง เพราะจีนมุ่งความสนใจไปที่เรื่องสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และความตึงเครียดอื่นๆในเอเชียหลังการประชุมกับสี จิ้นผิง นายมูน แช-อิน ยังจะพบปะเจรจาแบบไตรภาคีกับนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ-เฉียง ของจีน ที่เมืองเฉิงตู ใน 24 ธ.ค.ด้วย คาดว่าหนึ่งในประเด็นเจรจาคือเรื่องเกาหลีเหนือ หลังนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ขีดเส้นตายให้สหรัฐฯ ยอมประนีประนอมผ่อนคลายการคว่ำบาตรภายในสิ้นปีนี้ มิฉะนั้นจะเลิกเจรจาและเลือกหนทางอื่น.