ซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล (fossil) โครงกระดูกเชิงกรานของลิงที่รู้จักกันในชื่อ “รูดาพิเธคัส ฮังการิคัส” (Rudapithecus hungaricus) ถูกค้นพบครั้งแรกในฮังการี ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ทีมวิจัยนานาชาตินำโดย ศ.แครอล วอร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยาและกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี ในสหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์กระดูกเชิงกรานชิ้นนี้ใหม่ และพบว่ามนุษย์อาจมีต้นกำเนิด บรรพบุรุษลึกกว่าที่เคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ Credit : University of Missouriรูดาพิเธคัส ฮังการิคัส ดูเหมือนวานรที่เคลื่อนย้ายห้อยโหนตัวเองไปมาระหว่างกิ่งก้านต้นไม้เหมือนลิง แต่ร่างกายตั้งตรงและปีนด้วยแขน แตกต่างจากวานรขนาดใหญ่ยุคใหม่ เนื่องจากหลังส่วนล่างของรูดาพิเธคัส ฮังการิคัส มีความยืดหยุ่นมากกว่า นั่นหมายความว่าเมื่อมันลงมาที่พื้นดิน อาจยืนตัวตรงเหมือนมนุษย์ ซึ่งลิงแอฟริกายุคใหม่มักจะมีกระดูกเชิงกรานยาวและหลังส่วนล่างสั้น อีกทั้งเป็นสัตว์ขนาดใหญ่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมลิงเหล่านี้ถึงเดินบนขาทั้ง 4 เมื่ออยู่บนพื้นดิน สำหรับมนุษย์นั้นก็มีหลังส่วนล่างที่ยาวและยืดหยุ่นมากกว่า จึงทำให้มนุษย์ยืนตัวตรงและเดินบนสองขาได้อย่างง่ายดาย Credit : Carol Wardวอร์ดตั้งข้อสังเกต 2 ทางคือหากมนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิงแอฟริกัน การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็คือการยืดหลังส่วนล่างจะทำให้กระดูกเชิงกรานสั้นลง แต่ถ้ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษที่ลึกไปกว่ารูดาพิเธคัส ฮังการิคัสการเปลี่ยนแปลงก็จะตรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อไปก็คือการวิเคราะห์ชิ้นส่วนซากฟอสซิลอื่นๆ ของรูดาพิเธคัส ฮังการิคัส ในแบบ 3 มิติเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นว่าพวกมันเคลื่อนไหวอย่างไร.