วางยาพิษฆ่าศัตรู...เป็นวิธีที่มนุษย์มักเลือกใช้ตั้งแต่ยุคโบราณ เหล่านักประวัติศาสตร์ยังสงสัยอยู่ว่าพระนางคลีโอพัตรา จักรพรรดินโปเลียนและจอมราชันย์ อเล็กซานเดอร์ มหาราช อาจถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยยาพิษหรือไม่หนึ่งในคดีช็อกโลกที่สุดช่วงหลายปีปัจจุบัน เกิดเมื่อปี 2560 เป็นเหตุลอบสังหารนาย คิม จอง นัม พี่ต่างแม่นาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ คาสนามบินนานาชาติ กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย เกาหลีเหนือตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1 เพราะผู้ตายเคยเป็นว่าที่ผู้สืบทอดอำนาจปกครองเกาหลีเหนือต่อจากบิดา แต่ทำตัวไม่สมฐานะและทำลายตัวเองด้วยเรื่องฉาวเลยหมดโอกาสขึ้นเป็นใหญ่ แต่เกาหลี เหนือไม่ปฏิเสธหรือยืนยันเกี่ยวข้อง ส่วน สิติห์ ไอสยาห์ และ ดวน ถิ เฮือง สองสาวผู้ต้องหาชาวอินโดนีเซียและเวียดนามตามลำดับ ที่ปรากฏใน กล้องโทรทัศน์วงจรปิดของสนามบิน เป็นคนเอาผ้าชุบสารเคมีบางอย่าง ที่ต่อมาพบว่าเป็นสารทำลายระบบประสาท “วีเอ็กซ์” ละเลงหน้านายจองนัม ขณะรอขึ้นเครื่องบินกลับเกาหลีเหนือ อ้างว่าถูกหลอกให้ทำ เข้าใจว่าถูกจ้างมาร่วมรายการแคนดิต ทีวี หรือรายการแกล้งกันเล่นชวนหัว ทั้งสองคนได้รับการปล่อยตัวหลังยอมรับสารภาพผิดข้อหาที่มีโทษสถานเบา ส่วนกลุ่มผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนือเผ่นหนีกลับประเทศตั้งแต่เกิดเหตุแรกๆ คดีนี้เลยจบแบบเบลอๆ และไม่เหลือผู้ต้องสงสัยอื่นๆที่ถูกจับเหลืออีก...มาดูกันว่า การลอบวางยาพิษคดีอื่นๆที่ทำเอาโลกตะลึงไม่แพ้กัน เกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่กันบ้าง...เรื่องอื้อฉาวซัลสบรี... เดือน มี.ค.2561 นาย เซอร์เก สกรีพาล อดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซียที่ลี้ภัยอยู่อย่างสงบที่เมืองซัลสบรี ของอังกฤษ ตกเป็นเป้าถูกพยายามลอบสังหารด้วยสารเคมีร้ายแรง “โนวิโชก” Novichok ที่ใช้ในการศึกสงครามจนบาด เจ็บสาหัสพร้อมลูกสาวที่ไปเยี่ยมเขาที่บ้านพักเมืองซัลสบรีแต่ทั้งสองคนรักษาตัวจนหาย... แน่นอนว่าสายลับรัสเซียคือเป้าสงสัยเต็มเปา...การสอบสวนของอังกฤษพบว่าเป็นคนของหน่วยข่าวกรองทหารรัสเซีย “GRU” และกล่าวหารัฐบาลรัสเซียพยายามฆ่านายสกรีพาลเพราะลอบทำงานให้หน่วยข่าวกรองของยุโรป แต่รัสเซียปฏิเสธเกี่ยวข้อง...ความสัมพันธ์ของอังกฤษกับรัสเซียมึนตึงมานับแต่นั้น.......ชาพิษสำหรับ 3 คน... (พ.ย.2549) นาย อเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก อดีตสายลับรัสเซียวัย 43 ปี นัดพบกินน้ำชาคุยโอกาสทำธุรกิจกับคนกลางจากรัสเซียสองคนที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนของอังกฤษ...เขาป่วยแทบจะทันทีหลังนัดคุยธุรกิจครั้งนั้น...ผลตรวจร่างกายพบดื่มน้ำชาผสมธาตุกัมมันตรังสีโพโลเนียม-210 ผลิตในรัสเซีย...ลิตวิเนนโกตายหลังทรมานอยู่สามสัปดาห์ ถูกฝังที่สุสานทางเหนือกรุงลอนดอนด้วยโลงทำขึ้นพิเศษป้องกันกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล...การสอบสวนของอังกฤษพบว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียน่าจะเป็นคนอนุมัติสั่งฆ่าอดีตสายลับรายนี้ แต่รัฐบาลรัสเซียตอบโต้ผลสอบสวนของอังกฤษว่าเป็นเรื่องตลก....การลอบสังหารนายลิตวิเนนโก ยังสร้างความแตกตื่นทั่วอังกฤษอยู่พักใหญ่ หลังมีการตรวจพบสารกัมมันตภาพรังสีในหลายจุดทั่วลอนดอน...สื่อเมืองผู้ดีตั้งฉายาคดีนี้ว่า “การก่อการร้ายด้วยนิวเคลียร์ครั้งแรกของโลก”... ...บัลแกเรียกับร่ม...(2530) เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงสงครามเย็นคืบคลานถึงจุดเดือดสุด นาย จอร์จ มาร์คอฟ ผู้แปรพักตร์ชาวบัลแกเรีย ยืนรอขึ้นรถโดยสารกลับบ้านหลังเสร็จงาน เขารู้สึกว่าถูกเข็มขนาดเล็กยิงใส่ต้นขา หันไปดูจึงเห็นผู้ชายคนหนึ่งหยิบเอาร่มแล้วเดินจากไป ก่อนเสียชีวิตในอีก 3 วันต่อมาหลายคนเชื่อว่าเขาถูกยิงลูกดอกอาบสารพิษ “ไรซิน” (ricin) ยิงจากร่มดัดแปลงเป็นปืนยิงลูกดอก ผลชันสูตรเขาตายเพราะถูกยิงด้วยลูกปืนขนาดเล็กบรรจุไรซินขนาด 0.2 มิลลิเมตร ใครคือคนลงมือและอยู่เบื้องหลังยังสืบไม่ได้...ส่วนสารไรซิน มีพิษร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึงหกพันเท่า ไรซินขนาดไม่ถึงเม็ดเกลือก็เพียงพอฆ่าคนได้...สารพิษไดออกซิน (Dioxin) ทำเสียโฉม...(ก.ย.2547) วิคเตอร์ ยูชเชนโก กำลังหาเสียงเลือกตั้งอย่างเข้มข้นเพื่อชิงประธานาธิบดียูเครนกับนาย วิคเตอร์ ยานุโควิช คู่แข่งสายโปรรัสเซีย อยู่ดีๆก็ป่วยหนัก ผลตรวจร่างกายพบว่า มีสารพิษไดออกซินในร่างกายสูงกว่าค่าปกติกว่าพันเท่า แม้จะรอดชีวิต แต่พิษของสารไดออกซินทำให้ใบหน้าเสียโฉมเปลี่ยนรูป บวมและเป็นรอยแผลคล้ายฝีดาษ ต้องไปบำบัดที่สวิตเซอร์แลนด์เพื่อรีดสารพิษออก เขาเชื่อว่าสารไดออกซินมาจากโรงงานของรัสเซีย...สุดท้ายจับมือใครดมไม่ได้......วางยาพิษปาเลสไตน์...อิสราเอลตกเป็นผู้ต้องสงสัยลอบสังหารอดีตผู้นำปาเลสไตน์ด้วยสารพิษที่จอร์แดน...สายลับหน่วยมอสสาดของอิสราเอล ปลอมเป็นนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาล็อกเป้าโจมตีนาย คาเลด เมชาอัล อดีตผู้นำซีกการเมืองกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ ลอบฉีดสารพิษที่หูของเมชาอัล กลางถนนในกรุงอัมมาน...เหยื่อล้มป่วยอาการหนักขั้นโคม่า คนลงมือถูกจับได้ จอร์แดน ยื่นคำขาดให้อิสราเอลส่งยาถอนพิษ (antidote) มาให้แลกกับการปล่อยสองสายลับ ท้ายที่สุดอิสราเอลยอมแถมยังต้องปล่อยชีค อาหมัด ยัสซิน ผู้นำทางจิตวิญญาณของฮามาสพ้นคุกอิสราเอลด้วยอีกคน... @ฒ.คอกาแฟ