กลายเป็นเรื่องฮือฮา หลังหนุ่มฮอต “มาริโอ้ เมาเร่อ” ขับรถคู่ใจของตัวเองไปร่วมงานแต่งแม่แอน ผู้จัดการดาราสุดซี้ แต่จู่ๆรถกลับดับบนทางด่วน แฟนสาว “จันจิ–จันจิรา” สายซัพพอร์ตไม่รอช้ารีบแวะเอากาแฟไปให้และคอยอยู่เคียงข้างให้กำลังใจไม่ห่าง แล้วจู่ๆ รถสตาร์ตติดอีกครั้ง เจอมาริโอ้มาร่วมบูธ บริษัท เบสท์อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวลแอนด์เอเจนซี่ จำกัด x งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 75 และไทยเที่ยวนอก Exclusive ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 5-6 เลยเริ่มจาก ถามเรื่องงานแต่งที่เราขับรถไปร่วมงานด้วยเค้ารีเควสมาหรือว่ายังไง? “ก็เป็นแพลนที่เราวางแพลนกันไว้อยู่แล้ว พอดีผมมีหน้าที่ต้องเอารถไปเข้าฉากกับออกงานแต่งแม่แอน แต่ว่ารถมันดื้อนิดนึง อยู่ๆมันก็ดับกลางทางด่วน ก็พยายามสตาร์ตเค้าแล้ว สักพักเหมือนเค้าตื่นแล้ว เค้ากลับมา ซึ่งตอนแรกเค้า หลับไปเลย ผมเลยพยายามที่จะปลุกคุยกับเค้า” แล้วก่อนหน้านั้นมีการเทสต์สตาร์ตกันมั้ย? “เทสต์ทุกวัน ติดทุกวัน แต่มันมาหลับวันนี้ แต่มันก็กลับมา ก็โชคดีที่เค้าหายงอน แล้วผมก็พาเค้าไปได้ ตอนแรกตกใจมากเพราะว่าอยู่กลางทางด่วน คนเต็มไปหมดเลย แล้วเป็นรถเปิดประทุนด้วย” แล้วเราเลิ่กลั่กมั้ย?“ตอนแรกผมอยู่คนเดียว น้องจันจิไม่อยู่ ก็ทำอะไรไม่ได้” แต่ก็เข้าซีนทันใช่มั้ย?“ทันครับ เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ขับอยู่” ตอนนั้นโอ้รู้สึกยังไงบ้างความรู้สึกมันเลิ่กลั่กยังไง ด้วยความที่รถเราก็รัก? “มันเป็นเรื่องปกติของโอ้อยู่แล้ว การที่รถเก่าเค้างอนหรือว่าเค้าเสีย ก็หาวิธีแก้ถ้าไม่ได้จริงๆ ผมก็เตรียมรถสไลด์ไว้แล้ว สไลด์ไปที่งาน” ด้วยความเราเป็นมาริโอ้แล้วรถเสียบนทางด่วน มันมีแค่ในละครนี่ในชีวิตจริง? “ในชีวิตจริงมัน เยอะกว่าในละครอีกครับ มันเป็นอยู่ทุกมุมเมืองเลย แล้วจันจิก็เดินทางมาหาซื้อกาแฟมาให้ แล้วก็นั่งให้กำลังใจบอกว่าใจร่มๆนะ แต่แดดร้อน” จริงๆมันมีโมเมนต์ที่ให้จันจิมาช่วยเข็นมั้ย? “มีครับ แต่ว่าครั้งนี้เค้าไม่ได้เข็น เดี๋ยวเสียชื่อ คือสตาร์ตติด” คนแซวว่าเอ็นดูจันจิที่ต้องมาเข็นรถ ไปตากแดดเป็นเพื่อนอะไรอย่างนี้ สงสารเค้า? “สงสารครับบางที แต่ผมก็สงสารตัวเองด้วยแล้วก็สงสารคนรอบข้างด้วย แต่คือใจเรารักไง” รู้สึกยังไงที่จันจิพร้อมที่จะลุยทุกสถานการณ์?“คือบางทีก็ไม่อยากให้เค้ามาเจออะไรอย่างนี้แต่ว่าบางทีมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้” ใช้เวลานานมั้ยกว่ารถจะติด?“ประมาณครึ่งชั่วโมง ตอนนั้นมีคนแถวๆทางด่วนน่ารักมากก็เดินมาแบบเข็นกระตุกเลยพี่ ผมก็เลยบอกกระตุกไม่ได้ เค้าก็เลยเอากล่องมาเขียนว่ารถเสียมาวางไว้บนหลังรถให้” บรรยากาศงานแต่งมีซีนที่จันจิได้ดอกไม้อีกแล้ว?“ครับ น้องเค้าก็ได้ดอกไม้ แต่น้องไม่ได้โดยตรงแต่อีกคนนึงได้เค้ามายัดใส่ในมือ” กลัวน้องเสียตำแหน่งกับการที่มือเหนี่ยวใช่มั้ย ได้ฉายานี้มาหลายปีแล้ว? “ใช่ครับ ตำแหน่งต้องคงอยู่” ไม่มีปฏิเสธบ้างเหรอ?“ผมกำลังดูรถอยู่ รถจะกลับบ้านได้มั้ยน้องเค้าก็ไปรับดอกไม้” มันเป็นอาถรรพณ์มั้ยเพราะปกติ 3 ช่อต้องแต่งแล้ว แต่ตอนนี้น่าจะเป็นโหลแล้ว?“เค้ายังรับได้อีก เค้าโอเค เค้าแฮปปี้ แต่มันก็เป็นกิมมิกสนุกๆ อย่างงานนี้น้องก็ไม่ได้หรอกแต่ว่าคนก็อยากเล่น แกล้งน้อง” เป็นซิกเนเจอร์ของจันจิว่าเวลาจะไปงานแต่งต้องมีดอกไม้ติดไม้ติดมือ? “ไม่รู้ครับ ดอกไม้ลอยไปหาเค้าตลอด” โอ้มีใจหวั่นมั้ยว่ามันต้องแต่งหรือต้องยังไง? “ไม่ได้ซีเรียสหรอก คือเราก็แฮปปี้ เราก็รู้สึกว่าก็สนุก น้องก็เป็นคนที่ ไปงานก็อยากให้งานสนุก เค้าก็เต็มที่ บางทีการที่มารับดอกไม้ บางคนเค้าอายเค้าเขิน แต่น้องก็จะแบบอยากให้งานสนุกให้คนเฮฮา สนุกกัน” ทริปเยอรมันเป็นไงบ้าง? “ทริปก็แฮปปี้มาก ผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไปกับแม่กับครอบครัวแล้วก็จันจิไปด้วย” มันเติมพลังให้กับเรายังไง? “ก็เป็นความฝันของผมอยู่แล้ว ผมอยากไปเที่ยว อยากไปทัวร์ในที่ที่พ่อผมอยู่ ก็เลยมีโอกาส คราวนี้ก็ว่างก็เลยได้ไป”.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่