สวยแซ่บขึ้นเป็นกอง...ง ป๊อปปี้-ชัชชญา ส่งเจริญ อดีตสมาชิกวง 3.2.1. (ทรีทูวัน) ตัวมัมตัวแม่กลับมารันวงการ T-Pop อีกครั้ง หวนจับไมค์ ในฐานะศิลปินเดี่ยวเต็มตัว ภายใต้สังกัด Rabbit Moon มาพร้อมซิงเกิลแรก “Try Me (ลองดู)” ที่แฟนๆ ให้การต้อนรับอย่างดี ซึ่ง “มาลัยไทยรัฐ” วีกนี้ สาวป๊อปปี้ถูกเนรมิตความสวยจึ้ง โดยช่างแต่งหน้า IG: Kwanchamakeup_a และ ช่างทำผม IG: Titan_pongpana มีช่างภาพ สุรกิจ แก้วมรกต ลั่นชัตเตอร์ พกพาความมั่นใจเกินร้อยโพสต์ท่าสับๆ มาครบทุกลุค ทั้งสวย เท่ เซ็กซี่น่าค้นหา หลังจากนั้นอัปเดตชีวิต ช่วงที่ผ่านมาผันตัวทำงาน “แอร์โฮสเตส” อยู่หลายปีก่อนตัดสินใจลาออก กลับมาทำงานเพลงควบคู่งานเบื้องหลัง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ส่วนความรักเบ่งบาน คบหาดูใจสาวหล่อรุ่นพี่ชื่อ เหมย มองอนาคตอยากใช้ชีิวิตคู่ร่วมกันสาวป๊อปปี้เล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานค่าย Rabbit Moon เพราะเป็นจังหวะชีวิต มีผู้ใหญ่ให้โอกาสดีๆ ติดต่อเข้ามาตอนเมื่อปีที่แล้วค่ะ จริงๆ กลับมาอยู่ไทยประมาณ 4-5 ปีแล้ว แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีความคิดจะกลับมาทำเพลงเลย ก็คิดแค่ว่าเรามี ความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ ดูเบื้องหลัง น้องๆศิลปิน เทรนนี เด็กรุ่นใหม่ ดูเรื่องการร้องการเต้น ก็ถือว่าโฉบเข้ามาในวงการระดับนึง แต่จะเป็นอยู่เบื้องหลังมากกว่า ก็เริ่มมีไฟขึ้นมา สะสมมาเรื่อยๆ ด้วยจังหวะที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสก็เลยลองดูสักตั้งดีกว่า บวกกับทางผู้ใหญ่ก็เห็นภาพเดียวกับเราเลยไม่อยากทิ้งโอกาสนั้นไป ถามต่อว่าทำไมป๊อปปี้ถึงเลือกเพลง “Try Me (ลองดู)” มาเป็นเพลงเปิดตัวในครั้งนี้ “คัมแบกทั้งที ก็อยากทำให้ครบรสก่อน เปิดตัวเนอะ บางคนคิดถึงป๊อปปี้ในเวอร์ชันการร้อง สไตล์การร้อง บางคนคิดถึงป๊อปปี้ในการเต้น ก็เลยรวมมาเสิร์ฟทุกคนทีเดียว กลับมาทั้งทีเราก็บ่มมานาน เอาทุกอย่างที่ทุกคนโหยหาในตัวเรา มารวมกัน พอขึ้นโชว์ ทั้งร้องทั้งเต้นก็เหนื่อยดีนะ (หัวเราะ) ถือว่าเป็นการกลับมาที่ได้ทำทุกอย่างจริงๆ ครบรส อย่างสไตล์เพลงก็ได้คุณน็อต สแปทชี่ส์ มาแต่งเพลงสไตล์ที่เราฟังครั้งแรกแล้วชอบมาก ใช่เลย รู้สึกเป็นตัวเรามาก มันมีกลิ่นอายความเป็นอินเตอร์ปนอยู่ในทีป๊อป บวกกับสไตล์การร้องของเราที่ดีไซน์เข้าไป มันคือความเป็นอาร์แอนด์บีเข้าไป มันรู้สึกลงตัว แฮปปี้กับชิ้นงานนี้มาก เป็นชิ้นงานมาสเตอร์พีซ จริงๆ ที่ตั้งใจ รวมถึงเนื้อหาเพลง อยากสื่อสารกับแฟนคลับที่โตมา ด้วยกันตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้ว่าเรารู้จักกันมานาน ลองกลับมาทำความรู้จักป๊อปปี้ในเวอร์ชันนี้ดู ผ่านอะไรในชีวิตมาเยอะแล้ว ในมุมที่ป๊อปปี้อยากสื่อสารกับแฟนคลับ กับอีกมุมนึงคือ มุมมองความรัก ว่าเหมือนเฟสแรกของความรักว่าฉันเห็นเธอมาตั้งนานแล้ว เธอน่าจะชอบฉันแหละ ก็ลองเข้ามาลองคุยกันดูสิ เพลงที่ป๊อปปี้ทำหลังจากนี้ทุกๆ เพลง อยากให้เป็นเพลงที่ย่อยง่ายๆ เข้าใจง่าย แต่มีลูกเล่นอยู่ในนั้น สามารถฟังได้เรื่อยๆ อยู่เป็นเพื่อนเราได้ตลอดเวลา” ฟีดแบ็กที่ได้รับหลังปล่อยเพลงนี้เป็นยังไง “ใจฟูมากค่ะ ไม่กล้าคาดหวังมากกว่า ทุกครั้งที่คาดหวังจะกลายเป็นความกดดันเลยอยากทำให้มันดี ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาดอะไรที่จะทำให้คนที่ยังรักและซัพพอร์ตเราผิดหวัง เราต้องเอาชนะใจตัวเอง กล้าก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน ก็ลองดูสิ มันจะขนาดไหน คำติชมที่เกิดขึ้น ก็เป็นสิ่งที่นำมาพัฒนาให้เราเติบโตขึ้นและมีคุณภาพที่ดีขึ้น ภูมิใจในผลงานชิ้นนี้มาก แต่เราก็ยังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แต่กลายเป็นว่าพอออกไปในวันแถลงข่าว และขึ้นโชว์ครั้งแรก เห็นแฟนๆ ที่เห็นกันมาตั้งแต่มัธยม จนตอนนี้วัยทำงาน โตมาด้วยกันมากๆ แล้วเขากลับมาหาเรา รวมถึงน้องๆ แฟนคลับรุ่นใหม่ ที่เขาเปิดใจรับเราเป็นหนึ่งในสมาชิกทีป๊อป เรารู้สึกว่าอบอุ่น อุ่นใจ เติมเต็ม ทุกอย่างเลยค่ะ” ก่อนหน้านี้ป๊อปปี้ทิ้งไมค์ไปเป็นแอร์โฮสเตสอยู่หลายๆปี แต่จู่ๆทำไมตัดสินใจลาออก สาวป๊อปปี้ เล่าให้ฟังแบบไม่ปิดว่า “ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่อยู่ไทย ท่านก็อายุเยอะแล้ว พอเราห่างจากบ้านมานาน แกคิดถึง หัวอกคนเป็นแม่ก็นอนไม่ค่อยหลับ เพราะบางทีเราบินข้ามไทม์โซน ถ้าลูกไม่ถึงแม่ก็เป็นห่วง มันกลายเป็นโมเมนต์ที่เราห่วงสุขภาพแม่มากกว่า เขาห่วงสุขภาพเรา ว่าเราทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อน แต่เรากลับห่วงเขาและรู้สึกว่าเราได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เต็มที่แล้ว เราอยากกลับมาดูแลท่าน เลยเป็นจุดนึงที่ทำให้เราตัดสินใจกลับมาและดันเป็นช่วงโควิด ตอนนั้นเลยเป็นช่วงที่เรายังหาทางไปต่อให้ตัวเอง เริ่มหางานทำ ทำขนม บราวนี่ ขายอาหาร ที่ทุกคน ทำช่วงโควิด ทำหมดทุกอย่างเลย อะไรที่ทำได้ ลุยหมด หาเงินเต็มที่ เพราะเหมือนเราชินกับการทำงานมาตลอดตั้งแต่เด็ก” กับเพลง “Try Me (ลองดู)” พอแฟนป๊อปปี้ได้ฟัง พี่เค้าติชมยังไงบ้าง “เขาเป็นสายซัพพอร์ตอยู่แล้วค่ะ ก็อยู่ตั้งแต่โปรเซสแรก เขาอยู่ในทุกช่วงเวลาและคอยซัพพอร์ตจริงๆ บางครั้งเขาก็แนวฉีดยา เธอทำได้อยู่แล้ว ทำดี วันไหนที่เครียด คือพี่เขาค่อนข้างโต อายุค่อนข้างห่างกันและเขาก็จะมีมุมที่บอกให้เราตั้งสติ ค่อยๆ ตัดสินใจ ก็มีโมเมนต์นั้นเหมือน ก็ช่วยเราได้มาก เพราะบางทีเราคิดน้อยในบางเรื่องที่ควรคิดให้รอบคอบ และบางเรื่องที่ควรปล่อยวาง เราดันคิดเยอะเกินไป บวกกับก่อนหน้านี้ทำเบื้องหลังมา เราก็จะมีความละเอียด มีความเป็นเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ระดับนึง เพราะเราก็ไปช่วยดูคนอื่นเขา เราก็ไปจับผิดคนอื่นเขาไว้เยอะ พอตอนตัวเองก็รู้สึกว่าเก็บทุกเม็ด ต้องทำให้ดีที่สุด ตอนแรกไม่ปล่อยเลย จนแฟนก็บอกว่ามันโอเคแล้ว มันดีอยู่แล้ว อย่าคิดเยอะ มันก็ทำให้เรามีความรีแลกซ์ขึ้น และมีความเป็นตัวเองมากขึ้น จากที่มันเครียดจนเกินไปค่ะ”อายุห่างกันเยอะขนาดไหน “10 ปีค่ะ แต่นางหน้าเด็ก (หัวเราะ)” อยากรู้โลกเหวี่ยงป๊อปปี้กับพี่เหมย มาเจอกันได้ยังไง “หลายปัจจัย อย่างแรกก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ (หัวเราะ) ถ้าเอาความจริงนะ ตอนนั้นเราไปมูเพื่อให้หลุดจากความทุกข์ สิ่งที่ทำให้เราเสียใจ เพราะความสัมพันธ์ต้องมีกัน 2 คนเนอะ ถ้ามีกัน 3 คน เราก็ต้องออกมาสิ ช่วงเวลาเฮิร์ตตอนนั้นมันยิ่งปิดตัวเอง เขาก็น่าจะไปมูอยู่ระดับนึง (หัวเราะ) ต่างคนต่างมู แต่มูคนละอย่าง แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงเห็นพ้องต้องกัน”อะไรทำให้เราเปิดใจเปิดโอกาสให้ตัวเองอีกครั้ง “เอาจริงๆ เปิดใจแบบไม่ทันได้ตั้งใจมากกว่าค่ะ วันนั้นเลื่อนโทรศัพท์ไปพอดีจริงๆ และเห็นแชตที่เขาเคยพิมพ์มา ทักมา แล้วเราก็ไม่เคยอ่าน (หัวเราะ)” ค้างไว้กี่เดือน “ไม่นานขนาดนั้น ถ้าเพื่อนรอบตัวจะรู้ว่าป๊อปปี้จะดองแชต ซึ่งวันนั้นที่ไถเจอแชตเขา ก็น่าจะกำลังเคลียร์แชตพอดี (หัวเราะ) ก็เห็นแชตเขาเลยรู้สึกว่าตอบเขาหน่อยดีกว่า เสียมารยาท และเขาเป็นคนจีบแบบไม่ได้จีบ เขาจะทักมาแบบ เฮ้ย! ทำงานเสร็จดึกแบบนี้ ไม่ง่วงเหรอ แบบเพื่อน เป็นแนวกวนๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าคนนี้กวนอะ ต้องต่อปากต่อคำกันสักหน่อย เลยตอบค่ะ พอตอบก็เริ่มยาวแล้ว แต่ก็มีระหว่างทางที่เขาก็บ่นอยู่เหมือนกัน อย่างทัก 8 โมงเช้า ก็ตอบตี 4 อีกวันนึง อะไรแบบนี้ เขาเป็นคนที่ซัพพอร์ตเราเต็มที่ทุกอย่าง ก็ทำให้เราสบายใจจริงๆ เราไว้ใจเขาได้อย่างแรก เขานิ่ง แล้วอยู่ในวัยที่เขาเจออะไรมาเยอะ”คบกันขนาดนี้คิดไกลถึงเรื่องการแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสมั้ย “คิดค่ะ จริงๆแล้วเรื่องการแต่งงานไม่ได้ซีเรียสเลย แต่ว่าหนูรู้สึกว่าการมีงานเล็กๆ หรือจดทะเบียนเพื่อให้คนรอบข้างเป็นสักขีพยานและรับรู้ว่าเรามีความรักที่สมบูรณ์ในรูปแบบของเราจริงๆ มันเป็นการให้เกียรติทั้งตัวเราและเขา ครอบครัวเราและครอบครัวเขา คนรอบตัวเขา หนูให้ความสำคัญตรงนั้นมากกว่า แต่ถ้าสำหรับเราสองคนแล้ว มันก็คือใช้ชีวิตด้วยกันไปเหมือนเดิมปกติทุกวันนี่แหละค่ะ แต่ในส่วนของเรื่องกฎหมายที่รู้สึกว่ามันสำคัญมากๆ ก็คือด้านการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจแทนในกรณีต่างๆ ฉุกเฉิน หรืออะไรก็ตาม หนูรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นกฎหมายที่สำคัญ”.แต่งหน้า IG: Kwanchamakeup_a ช่างทำผม IG: Titan_pongpana ช่างภาพ : สุรกิจ แก้วมรกตคลิกอ่าน “มาลัยไทยรัฐ” เพิ่มเติม