เลอะเทอะเปรอะคาวขึ้นทุกขณะ “คู่พระคู่นาง” ที่ทำท่าว่าเริ่มต้นได้สวยงาม แต่กลับลามปามปร่าดราม่าเน่าคลั่ก ดิ่งลู่สู่หุบเหวกามตัณหา “หื่นจริต” สุดขยะแขยงทั้งตัวผู้ “พระยาบำเรอราชสำราญ” และตัวเมีย (ลูกสาว) “นางราตรี”ฉากอยากเอา “ดิน” มาฟาดฟัคฟัด คลื่นเหียนและเฟ้กมหันต์ โปรยกลีบกุหลาบแดง (ปากคลองตลาด) ท่วมเตียงท่วมห้อง เหมือนกำลังทำพิธีลอยอังคารในท้องทะเลช่างอนาถเวทนาน่าบัดสีนางราตรีลูกสาวของพระยาบำเรอจอมเหี้ยน ช่างเล่นได้ “เฟก (fake)” ชวนกระอักกระอ้วกสุดทนนางไม่มีกิจกรรมใดเลยในชีวิต เอาแต่หมกมุ่นหมักหมมมักมากในกามตัณหาราคะคลุ้ง เตลิดไถลถึงขั้นไปให้พ่อมดหมอผีจัญไรก่อกามอุบาทว์ให้เรื่องผูกราวให้ทุกอย่างเกิดขึ้นและเป็นไปอย่างน่าทุเรศเป็นที่สุด พระยาบำเรอ-นางราตรีหื่นกามทุกลมหายใจทุกขณะจิต วิปริตทำลายล้างทุกความงดงามในเรื่องราวของ “ลิเก” จนสิ้นราบคาบราพณาสูรอเนจอนาถน่าสมเพชเวทนาที่สุดคือบท “ดิน” ของ “ตงตง กฤษกร” ที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจเล่นแบบไม่คิดชีวิต แต่ต้องมาตกจมอยู่ใต้ “คลื่นราคะ” ของคนสร้างเรื่อง-คนเขียนบทฯและผู้กำกับฯอย่างน่าอดสูเล่นดีให้ตายก็ติดลบกลบดินฝัง (ตัวเอง) เมื่อเรื่องราวเนื้อหาของละคร ไม่ได้เสริมส่งศักดิ์ศรีศักยภาพใดๆเลยฝึกรำร้องลิเกให้ตาย ก็หามีความหมายอันใดไม่ ไม่ได้เชิดชูเกียรติยศใดๆให้ปรากฏเกิด ผิดหวังอย่างรุนแรงที่สุดกับละครเรื่องนี้นักแสดงอื่นใดบรรดามีก็พร้อมที่จะแตกดับอัปยศอัปภาคย์ไปกับ “คู่พราง คู่ (หาย) นะ” หลอกลวงนี้โดยพร้อมเพรียงกัน!!‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.comคลิกอ่าน "ทีวีบันเทิง" เพิ่มเติม