เติบโตไปอีกขั้นแบบฮอตเกินต้าน!! ถึงเวลา 3 หนุ่มบอยกรุ๊ปชื่อดัง “TRINITY (ทรินิตี้)” ทั้ง เติร์ด-ลภัส งามเชวง, ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล และแจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย ศิลปินภายใต้สังกัด 4NOLOGUE บุกตลาดโกอินเตอร์รัวๆ ประเดิมงานแรกในฐานะศิลปินไทยเพียงหนึ่งเดียว ร่วมกับศิลปินเกาหลีชื่อดังมากมายในงาน “Seen Festival” ที่ประเทศเวียดนาม ก่อนจะบินลัดฟ้าไปญี่ปุ่นร่วมแสดงในงาน BALLISTIK BOYZ LIVE TOUR 2023 “N.E.X.T.” รอบสุดท้ายที่ Tokyo Garden Theatre กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ของศิลปินบอยกรุ๊ปชื่อดัง BALLISTIK BOYZ (บัลลิสติกบอยซ์) หลังออกซิงเกิลพิเศษ DROP DEAD ร่วมกัน ประเดิมโปรเจกต์ความร่วมมือกันระหว่าง 4NOLOGUE และ LDH ก่อนจะต่อเนื่องเดือนเดียวกันที่ญี่ปุ่นกับงาน “BATTLE OF TOKYO CODE OF Jr.EXILE” ทั้งที่ SAITAMA SUPER ARENA เมืองไซตามะ และ KYOCERA DOME OSAKA ในเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตลอดโชว์ทั้ง 5 วัน รวมคนดูกว่า 200,000 คน ทำเอาเติร์ด ปอร์เช่ และแจ๊คกี้เล่าความตื่นเต้นนี้ เริ่มจาก...อยากให้เล่าถึงที่ไปแจมคอนเสิร์ตกับ BALLISTIK BOYZ (บัลลิสติกบอยซ์)?ปอร์เช่ : “จริงๆงานเฟสติวัลที่เวียดนามถือเป็นการไปเล่นต่างประเทศครั้งแรกของพวกเราก็ตื่นเต้นแล้ว พองานนี้เราไปแจมที่สุดท้ายของเค้าที่โตเกียวการ์เด้น เธียเตอร์ เป็นโรงละครเวที ที่นั่งจะเป็นชั้นขึ้นไป ตอนที่เราบล็อกกิ้งขึ้นสเตจไปยังไม่มีคนดู ถึงเวลาจริง เราโชว์เพลง DROP DEAD ที่เราฟีเจอริงกับเค้า เรายังไม่เห็นคนดู แต่พอตอนแนะนำตัว เราได้เห็นคนดูที่เยอะมากๆ เป็นประสบ การณ์หนึ่งที่ดีใจมากๆที่ได้มีส่วนร่วม ตอนนั้นความรู้สึกคือสั่นกันทั้ง 3 คน เพราะคนเต็มทุกชั้นแบบไม่มีที่ว่างเลย” ฟีดแบ็กแฟนๆที่ญี่ปุ่นเป็นไงบ้าง? แจ๊คกี้ : “เค้าก็เอนจอยไปกับเราจริงๆ โบกธงไปด้วยกัน ก็มีแฟนๆติดตามเพิ่มขึ้นครับ และก็ยังอยากให้มีคนรู้จักพวกเราให้มากกว่านี้”เติร์ด : “ด้วยวัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ตของเค้าที่แตกต่าง จะห้ามยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย คนดูเลยเอนจอยกับโชว์ของเราแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือธงโบกไปกับเรา”ได้ยินว่าเตรียมพูดภาษาญี่ปุ่นไปด้วย? ปอร์เช่ : “ใช่ครับ ยากมากแต่เราอยากพูดนะ ก็พูดได้ไม่เป๊ะ เราตื่นเต้นมาก” ร่วมงานกับ BALLISTIK BOYZ เป็นอย่างไรบ้าง? แจ๊คกี้ : “พวกเค้าน่ารักมากๆครับ ทำงานแบบเอนจอยไปกับงาน”ปอร์เช่ : “คราวที่เค้ามาเมืองไทย พวกเราพาไปเลี้ยงข้าว พอเราไปญี่ปุ่นเค้าเลยเลี้ยงข้าวพวกเรา พวกเค้าน่ารัก ทำงานด้วยกันง่ายมากเหมือนพี่น้อง พวกเค้าเก่งมากๆ มีวินัย เรามีเพลงไปในทางเดียวกัน เพราะเราอยากให้เพลงเราไม่มีการแบ่งแยกแข่งขัน อยากโกอินเตอร์ไปด้วยกัน”โมเมนต์เวลาก่อนขึ้นโชว์ใหญ่ๆ มีการเรียกพลังร่วมกันก่อนมั้ย? ปอร์เช่ : “ไม่มีบูมเรียกพลัง บางทีก็ต่อยแขนกันเรียกสติ (ยิ้ม)”เติร์ด : “แล้วแต่ช่วงครับการต่อยก็เหมือนเตือนสติ ดึงสติกัน”ปอร์เช่ : “เป็นการคุยกันว่าวันนี้เรามาทำอะไรกัน”ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ “ทรินิตี้” กำลังก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ ตัวเราเตรียมความพร้อมยังไง?เติร์ด : “ถ้าถามผมคงเตรียมความพร้อมด้านจิตใจมากกว่าด้านอื่นด้วยตารางที่แน่นเราไม่มีเวลาหยุดเตรียม”ปอร์เช่ : “ใช่ครับ ต้องเตรียมใจ เพราะผมว่ามันต้องใช้พลังเยอะมาก และเตรียมให้สุขภาพร่างกายพร้อมในการโชว์ ไม่เจ็บป่วย วอร์มร่างกายให้พอดี”การได้เขยิบเข้าใกล้ตลาดอินเตอร์มากขึ้น ตอนนี้เรารู้สึกยังไง? ปอร์เช่ : “ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมาก เราไปทัช หยิบจับ กับคัลเจอร์ของประเทศหนึ่งๆ ซึ่งมันไม่เหมือนกันเลย แต่มันดีหมดเลย”ภาพฝันของเรากับงานในระดับ อินเตอร์ อยากเห็น ทรินิตี้อยู่ตรงไหน? เติร์ด : “สำหรับผมอยากไปให้ได้หลายประเทศเท่าที่ไปได้ เพราะอย่างที่ปอร์เช่บอก แต่ละประเทศที่ไปมา ทั้งวัฒนธรรมและประสบ การณ์ต่างๆที่เราได้เจอมันก็ไม่เหมือนกันเลยสักที่ก็เลยอยากไปเจอเยอะๆ”แจ๊คกี้ : “แต่ละที่เราก็ได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบที่ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะได้ไปอีกรึเปล่า เราก็อยากทำให้เต็มที่”เติร์ด : “มันเป็นสิ่งที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมามันไม่เคยได้ถูกพวกเราแตะถึง แต่พอเราได้แตะแล้วเราก็รู้สึกว่าอยากไปอีก เหมือนได้เปิดประตูหลายบานให้พวกเราว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่ครับ”แพลนงานช่วงนี้เรียกว่าบินถี่ๆเป็นหลัก? เติร์ด : “ใช่ครับ มีอีกเยอะเลยครับ”การทำเพลงและแนวเพลงต้องอยู่ในระดับอินเตอร์ขึ้นอีกมั้ย? เติร์ด : “แนวเพลงของทรินิตี้ก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเราชอบเหมือนเดิมครับ”ปอร์เช่ : “ผมรู้สึกว่าแนวเพลงมันคือแนวของศิลปิน ที่พวกเราอยากเสนอตัวเองในแบบไหน”เติร์ด : “มันเหมือนเป็นฟีลลิง วันนี้เราอยากทำแบบนี้ พรุ่งนี้เราอาจจะอยากทำอีกแบบก็ได้” เติร์ด-ลภัส งามเชวงถามถึงผลงานเพลง EP ALBUM ใหม่ ที่ปล่อยมา 3 เพลง 3 สไตล์?ปอร์เช่ : “3 เพลงที่ปล่อยออกมาใน EP.02 DESIRE เป็นการทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ที่หลาก หลาย เริ่มจากเพลง 100 Days ได้พี่แอ้ม-อัจฉริยา เป็นโปรดิวเซอร์ คอนเซปต์คือเค้าจากไปแล้ว 100 วัน เรายังติดอยู่ที่เดิม ไม่ลืมเค้า อีกกี่ร้อยจะลืมได้หรือจะกลับมารึเปล่า ถ้าได้ดู VISUALIZER VIDEO ทั้งเวอร์ชัน Rewind และ Reflection เหมือนเป็นการขยายเพลงบอกมู้ดฟีลลิงว่าเพลงนี้อยากจะสื่ออะไรครับ”เติร์ด : “เพลง “ขอไม่ยินดี (Congrats)” เป็นแนวประชดๆ เป็นเพลงช้าเสียงร้องของผมและแจ๊คกี้ เพลงนี้ได้พี่แทน ลิปตา มาช่วย ก็มีได้ช่วยแชร์ไปว่าเราอยากเล่าอะไร ถ้าเกี่ยวกับความไม่สมหวัง จะเป็นแบบไหนออกมาได้บ้าง ซึ่งอันนี้ดูย้อนแย้งดี”เติร์ด : “แฟนๆก็ชอบนะครับ”ปอร์เช่ : “เพลงนี้เราทำพร้อม I Don’t Miss You ไม่คิดถึงแต่คือคิดถึง เพลงนี้เราเห็นทุกคนยินดีแล้ว แต่เราไม่อยากยินดี”ปอร์เช่ : “เพลง Thank You All เพลงนี้มู้ดดี มีความเป็นทรินิตี้มาก ทั้งเนื้อเพลง ดนตรี พวกเราบรีฟกับพี่โฟร์-ประทีป ว่าอยากได้มู้ดเพลงที่เป็นเพลงซีเรียสแต่ฟังแล้วไม่ซีเรียส เนื้อหามันดีปมาก ยิ่งคนที่โตมีประสบการณ์ชีวิตผมเชื่อว่าจะรู้สึกกับเนื้อเพลงได้ดี ฟังในแต่ละช่วงของชีวิตอาจจะรู้สึกไม่เหมือนกัน ดีใจที่หลายๆคนชอบเพลงนี้ครับ” ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุลคุยกันเองมั้ยกับแต่ละงานใหญ่ๆเวลาเสร็จแล้ว เรามารีวิวกันมั้ย?ปอร์เช่ : “เวลาขึ้นโชว์ เสร็จ พวกเราก็จะคุยกันเลยครับในตอนนั้น เราคุยกันว่าที่นี่เป็นยังไง เห็นอะไรยังไงบ้าง สเตจ ไฟ ลำดับเพลง คนดู”เติร์ด : “ไม่ได้เป็นการตั้งธงคุยกันจริงจัง แต่เป็นการพูดคุยชีวิตประจำวันของพวกเรา เช่นว่าเออวันนี้ดีเนอะ โชว์ คนดูเป็นยังไง เม้าท์มอยกัน”ชมกันมั้ยว่าเวลาใครทำตรงไหนออกมาได้ดี? ปอร์เช่ : “ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชมครับ จะสารภาพผิดว่าทำอะไรลงไปมากกว่า (หัวเราะ) เช่น วันนั้นผมเต้นผิดก็บอกเลย ถามว่าชมกันจริงจังก็มีแค่บางครั้งเราบอกกันว่าวันนี้ทำดีมาก ฟีลดีนะ แต่ถ้าชมกันเองให้คนอื่นชมดีกว่า (ยิ้ม)”หรือมีคอมเมนต์กันมั้ย? เติร์ด : “ส่วนมากเราจะมาสารภาพกันเอง เหมือนเราเพอร์ฟอร์มมาเยอะๆเราจะรู้เลยว่าอันนี้เราผิด แล้วเราก็จะสารภาพบาปซะก่อน”ดูผลงานตัวเองแล้วเห็นความเติบโตของตัวเองมั้ย? เติร์ด : “กับการเติบโตบางทีผมดูแล้วผมนอยด์ ไม่อยากอายุเยอะ (ยิ้ม) เราผ่านอะไรมาเยอะ ผมว่าเวลามันผ่านไปเร็วเกินไปนะ เราอยากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราขึ้นคอนเสิร์ตตอนอายุ 19 เหมือนมันผ่านไปแป๊บเดียว คงเพราะเรามีความสุขด้วย”แจ๊คกี้ : “ก็อยากให้มันไปได้ไกลกว่านี้ครับ”ปอร์เช่ : “ผมรู้สึกว่าเรามีข้อดี ตรงที่เราทำผลงานได้เป็นเรามากที่สุด ยิ่งโตขึ้นเรายิ่งรู้ว่าเราชอบอะไร ไปทางไหน” แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัยความยากของทรินิตี้ในวันที่โตขึ้นคืออะไร?ปอร์เช่ : “ผมรู้สึกว่าโลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปเร็วมาก ยิ่งยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าแบบนี้ มันมีหลายอย่างในโซเชียลที่มันหล่อหลอมนิสัยคนให้เร็วไปตามโลก คนชอบอะไรที่รวดเร็ว ชอบง่าย เลิกง่าย บางอย่างที่เราใช้เวลาทำนานมาก มันก็ไปไวเหมือนกัน ผมรู้สึกว่าบางอย่างที่มันสื่ออารมณ์ผ่านเพลง มันไม่ได้กลั่นออกมาได้เร็วขนาดนั้น กว่าจะทำออกมานานแต่มาแล้วไปไว จริงๆมันก็ไม่ได้ผิดที่คนฟังหรืออะไร เพราะจริงๆงานศิลปะมันก็แล้วแต่ความชอบของคน”เติร์ด : “ความยากสำหรับผมคือ ผมยังรู้สึกว่ามีหลายสิ่งที่อยากทำแต่อายุเราก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยากทำอะไรให้มากกว่าเวลาที่เรามี”แจ๊คกี้ล่ะเป็นน้องเล็ก ต้องเติบโตเร็วตามพี่ๆมันยากตรงไหน? แจ๊คกี้ : “ผมมองว่าพอเวลามันเดินไปเรื่อยๆ การทำงานมันต้องมาควบคู่กับความสุข มันต้องบาลานซ์ชีวิตให้ดี หาความสุขให้ตัวเอง ทำสิ่งที่มีความสุขให้ไม่ลำบาก”ตารางที่แน่นขนาดนี้หาความสุขง่ายๆระหว่างการทำงานจากอะไร? เติร์ด : “กาแฟแก้วแรกของวันครับ (ยิ้ม) และการที่เราได้อยู่ด้วยกันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆ เล่นกัน แกล้งกัน”ปอร์เช่ : “นอนพักผ่อนเพียงพอครับ มันทำให้เราสดชื่น”แจ๊คกี้ : “สำหรับผมของกินคือสิ่งฮีลใจ ถ้ากินอิ่มเราจะอารมณ์ดี”การมาอยู่ด้วยกันผ่านอะไรมาด้วยกัน วันนี้ “ทรินิตี้” เหนียวแน่นขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน?ปอร์เช่ : “ผมกับเติร์ดเจอกันตั้งแต่อายุ 12-13”เติร์ด : “เรียกว่าเจอกันมาครึ่งชีวิตแล้ว ส่วนผมเจอแจ๊คกี้ตั้งแต่อายุ 15”ปอร์เช่ : “ผมว่ามันอธิบายออกมาเป็นคำไม่ได้ มันเหมือนก้อนกรวดที่รูปร่างไม่เหมือนกันแต่อยู่ด้วยกันได้แล้วมันสวยงาม ผมรู้สึกว่าเราแน่นแฟ้นมากขึ้น เราเจออะไรมาด้วยกันเยอะ”เรามองกันแล้วรู้เลยมั้ยว่าใครอยู่ในอารมณ์ไหน? ปอร์เช่ : “ผมว่ามันจะมีมวลบางอย่าง ถ้าคนไหนหงุดหงิดหรืออะไรจะรู้เลย”เติร์ด : “มันจะมีมวลที่เรารู้จริงๆ ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ผมว่าปีนึงเราเจอกันบ่อยกว่าเจอเตียงนอนที่ห้องอีก”ปอร์เช่ : “ผมว่าออร่าแต่ละคนชัดเวลารู้สึกอะไร”แจ๊คกี้ : “ใช่ครับ สามคนก็คือพี่น้องกัน”ถ้าเห็นอีกคนไม่โอเคเราทำยังไง? เติร์ด : “แล้วแต่สถานการณ์ บางเรื่องเราก็ช่วยไม่ได้”ปอร์เช่ : “พวกผมจะปล่อยเบลอ ไม่ใช่ไม่สนใจนะ แต่รู้ว่าเค้าจะหายเอง”เห็นการเติบโตของแต่ละคนแล้วรู้สึกยังไง?ปอร์เช่ : “ผมรู้สึกดีที่ได้โตมากับสองคนนี้ มันเห็นการเติบโตของแต่ละคนแล้วรู้สึกว่าทุกคนโตขึ้นในทางของตัวเอง เหมือนเห็นพี่น้องตัวเองในทางที่ดี ไม่รู้ว่าจริงๆมันดีมั้ยนะ แต่สำหรับผมคือเค้าโตในทางที่ดี”เติร์ด : “ผมก็รู้สึกว่าเราโตมาด้วยกันจริงๆ เราเจอหน้ากันทุกวันเหมือนพี่น้อง แต่ละคนโตขึ้นในแนวทางของตัวเอง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รู้สึกดีใจที่จะได้โตไปกับสองคนนี้เรื่อยๆ เป็นความสัมพันธ์ที่ถึงแม้เวลาจะผ่านไป 10-20 ปี มันก็จะยังอยู่”ปอร์เช่ : “จริงๆเราเลิกคบกันไม่ได้เพราะเรารู้ความลับของกันและกันหมด (หัวเราะ)”แจ๊คกี้ : “เราอยู่ด้วยกันมาจนเราซึมซับอะไรบางอย่างของพี่ทั้งสองคน จนมากลายเป็นเราในวันนี้ ทั้งความคิด ความใจเย็นและอีกหลายอย่าง มันซึมซับกันมาจริงๆ”ปอร์เช่ : “เราอยู่ด้วยกันเยอะจนเรารู้ว่าการใช้ชีวิตของพวกเราเป็นยังไง เราก็เอาข้อเสีย ข้อดีของคนนี้มาปรับเพิ่มกัน มันเลยมีความบาลานซ์ของแต่ละคนอยู่ในตัวพวกเราคนเดียว”ไฟในการทำงานล่ะ ความตื่นเต้นกับงานในทุกวันนี้ยังเหมือนเดิมมั้ย? แจ๊คกี้ : “เหมือนเดิมครับ ยังท้าทาย พอมันมีอะไรเป็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆให้เติบโตต่อไป”ปอร์เช่ : “ตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมอีกครับ รู้สึกว่าพอเราโตขึ้นมันมีความคาดหวังมากขึ้น เวลาจะขึ้นสเตจจะตื่นเต้นมาก”เติร์ด : “เวลาจะขึ้นโชว์ ตอนเช้าๆเราจะยังไม่ตื่นเต้น แต่พอแต่งหน้าเสร็จปุ๊บ สั่นเลย (ยิ้ม)”หลายคนบอกว่า “ทรินิตี้” โตแล้ว หล่อเป๊ะมาก? เติร์ด : “ยังไม่โตนะครับ (ยิ้ม)”แจ๊คกี้ : “ใช่ครับ ตอนโตก็ฝากชมอีกนะครับ”.เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย