พร้อมใจกันลงรูปคู่เซตหวานเหมือนพรีเวดดิ้ง แถมปีนี้ความรักของนางเอกสาว น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ กับหนุ่ม ไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล ก็ยาวนานมาราธอนครบ 10 ปี เลยต้องแซะถามข่าวดีในงานบวงสรวงละคร “รักได้หรือ Young” ที่ช่อง 3 หนองแขม ว่าเป็นยังไงกับความรัก 10 ปีแล้ว?“ก็ดีขึ้นค่ะ มันเหมือนสเต็ปชีวิตมันโตไปด้วยกันเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เข้าปีที่ 10 แล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะมั่นคงแล้วค่ะ” ยังมีจุดนอยด์ที่เค้าชอบหายไปเข้าป่า รักธรรมชาติอยู่มั้ย?“ไม่มีแล้ว อาจจะเมื่อก่อนเราไม่ค่อยเข้าใจว่าแต่ละคนมีความชอบของตัวเอง แต่ละคนอยากจะมีเวลาของตัวเอง เมื่อก่อนเราว่างจากการทำงานเราก็อยากอยู่อยากใช้เวลาด้วยกัน อยากไปเที่ยว ไปช็อปปิ้ง แต่พอเราเรียนจบ เราทำงาน แล้วเรามีธุรกิจส่วนตัวเป็นของเราเอง เราก็เริ่มโหยหาเพื่อนบ้างแล้ว จากเมื่อก่อนอะไรก็แต่เค้า ตอนนี้ก็ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองด้วย เวลาว่างค่อยมาใช้เวลาด้วยกัน”เข้าใจในความรักมากขึ้น? “มัน 10 ปีแล้ว ก็ค่อยๆโตมาด้วยกันเรื่อยๆ ปีแรก ปีสอง ปีสามอาจจะเป็นอะไรที่หวานแหวว ละมุน แต่มันไม่มีอะไรแบบนั้นแล้ว ตอนนี้จะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น อยู่บนความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น”ความสวีตลดน้อยลงไปมั้ย?“ไม่ค่ะ ตาลรู้สึกว่าผ่าน 7 ปีมามันดีกว่าเดิม ช่วง 5-7 ปี มันเป็นช่วงที่เหมือนจะไม่ใช่ เหมือนเค้ามีความชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้เยอะมาก ยิ่งกว่าประกันชีวิตอีก กิจกรรมคือแน่นมาก เราก็แบบเอ๊ะ เราจะเอาตัวเราไปแทรกตรงไหนดี ถ้าอยากมีช่วงเวลากับเค้าก็ต้องเอาตัวไปอยู่กับกิจกรรมของเค้า เราเลยรู้สึกว่าเหนื่อยกับการพยายาม แต่พอเริ่มได้ปรับกัน ก็เข้าใจเค้ามากขึ้น เค้าเองก็เข้าใจเรามากขึ้น เราเข้าใจในสิ่งที่เค้าเป็น และสิ่งที่เค้าชอบมากขึ้น ทำให้ตอนนี้มันไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วพอมันผ่านตรงจุด 7 ปี เหมือนเค้าคิดอะไรของเค้าได้ก็ไม่รู้ มันดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ เค้าเข้ามาอยู่ในโลกของเราบ้าง เหมือนเราก็โตขึ้นด้วย ก็เลยเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง”ข่าวดีใกล้หรือยัง?“อันนี้ต้องโทษโควิด อะไรที่มันควรจะมั่นคงได้แล้ว หรือชีวิตที่เราวางแผนไว้มันไม่ได้เป็นไปตามนั้น คือเราเคยอยู่ในครอบครัวที่มีความมั่นคงมาก แต่พอมาวันหนึ่งทางบ้านเกิดปัญหา เราเลยรู้ว่าชีวิตเราไม่มั่นคง เราต้องสร้างรากฐานให้ชีวิตเราเองให้มั่นคงก่อน ตอนโควิดตาลทำธุรกิจ เพิ่งเริ่มทำ บางอย่างก็ดีบางอย่างก็ล้ม เราเลยรู้สึกว่าเราต้องยืนบนขาตัวเองให้ได้ก่อน แล้วค่อยพูดถึงเรื่องครอบครัว ถ้าวันหนึ่งเราแต่งงาน มันจะไม่ใช่แค่เธอกับฉันแล้ว มันจะเป็นการโฟกัสที่ครอบครัวของเรา ซึ่งเรารู้สึกว่าเรายังไม่สามารถรับผิดชอบตรงนี้ได้” มีภาพพรีเวดดิ้งปล่อยออกมา?“จริงๆโกรธมาก เพราะว่าเราไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปถ่ายกันบ่อย เราไปถ่ายงาน เลยอยากเก็บไว้ กะไว้วันเกิดเลย ภาพดีๆเก็บไว้ก่อน เค้าก็ได้รูปปุ๊บลงปั๊บ ตาลเลยแบบว่าโอเคเดี๋ยวคงต้องลงแล้วกันเพราะถ้าช้ากว่านี้ก็ช้าไปแล้ว”แคปชันเราก็หวาน You’re my sunshine?“คืออย่างที่บอกว่าช่วงนี้เห็นเรายิ้มๆ เฮฮาหัวเราะ แต่ตัวของตาลเองมีอะไรที่ทำเยอะแยะหลายสิ่ง ก็อาจจะเหมือนเป็นกำลังใจให้กันด้วย ช่วงนี้มันลำบาก ตาลว่ามันไม่ใช่แค่ตาลหรอก ไม่ว่าจะธุรกิจ ชีวิต สุขภาพ มันอยู่บนความเสี่ยงหมดเลย แต่ก็โชคดีมีเค้าให้กำลังใจตลอด”เหมือนกลับมาตั้งต้นใหม่?“ใช่ค่ะ คือถ้าทุกอย่างมันเป็นไปตามคาดหวังไว้มันก็จะง่าย แต่ตอนนี้ปัญหามันไม่ได้เกิดจากเราสองคนแล้ว มันเกิดจากอะไรหลายๆอย่างที่ยังไม่มั่นคง แต่ส่วนตัวเราสองคนเองไม่มีปัญหากัน แล้วเค้าเป็นคนที่ไม่เคยมีปัญหากับตาลเลย เป็นคนที่ทะเลาะด้วยแล้วไม่สนุก เค้ายอมมาก ไม่เคยโกรธเลย เลยรู้สึกว่าทะเลาะด้วยไม่สนุกแล้ว”ไม่ได้แพลนแล้วว่าอีกกี่ปีแต่ง?“ใช่ค่ะ มันยากมาก พอเราวางแผนไว้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ แล้วไม่ได้ตามนั้นเราจะรู้สึกเฟล ทุกวันนี้เรารู้สึกโอเคมากๆแล้วค่ะ”เราไม่กลัวเค้าเซอร์ไพรส์?“คุยกันแล้ว คืออาจจะไม่ได้เซอร์ไพรส์ในช่วงระยะเวลาใกล้ๆนี้” จริงๆเรามีแพลนในช่วงปีไหน?“เมื่อก่อนเรากลัวมาก เวลาเค้าชวนไปไหน เพราะเพื่อนนางก็ขู่ตลอดว่าระวังนะ ต้องแต่งตัวดีๆนะ ช่วงหลังๆเพื่อนๆก็ชอบมาเที่ยวด้วยตลอด เราก็มีความระแวงตลอดทุกทริป แต่เราก็บอกเค้าไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่ง คือเราอยากเซอร์ไพรส์แล้วก็เป็นเรื่องของความรักเลย อยากให้ทุกอย่างลงตัวก่อน คือมันมีหลายเรื่องให้โฟกัสเยอะมาก”ขอก่อนค่อยแต่งก็ได้?“ขอก่อนได้เหรอ งั้นก็แล้วแต่แล้วกัน” จริงๆตั้งใจจะแต่งช่วงที่ผ่านมา?“ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าสัก 30 แต่ปีนี้ก็ 31 แล้ว ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่มันยังไม่ลงตัว ธุรกิจที่เราคาดหวังไว้ว่ามันควรจะดี ก็ปิดยาวไปเลย 6 เดือน หรือบ้านที่ดูมันเลื่อนแพลนไปหมดเลย เรามาฮึดใหม่ ต้องย้อนเวลากลับไป เรามาตั้งต้นกันก่อน พอมั่นคงปุ๊บ ก็โอเคโฟกัสที่ครอบครัวเลย เรื่องบ้านก็คุยไว้ด้วยกัน ก็ไปดูค่ะ โครงการก็มีปัญหาของเค้า ส่วนธุรกิจของเรา เราก็ต้องโฟกัส เพราะเรายังมีคนข้างหลัง มีลูกน้องต้องดูแล”เค้าเริ่มส่งสัญญาณอะไรบ้างมั้ย?“คือเค้าพูดตลอด ตอนนี้เค้าไม่ได้ไปงานแต่งเพื่อน แต่เค้าไปงานวันเกิดลูกเพื่อนแล้ว แล้วเค้าก็มีฟีลว่าเมื่อไหร่ ทำไมนานจัง จะ 40 แล้ว เราก็เข้าใจ ขอแป๊บเดียวไม่นาน เค้าบอกว่าตาลยังไปงานแต่งเพื่อน แต่เค้าไปงานวันเกิดลูกเพื่อนแล้ว ก็สงสารเค้า โควิดมันร้ายค่ะ”.