สาดเสน่ห์เต็มแรง สำหรับตรี–ภรภัทร ศรีขจรเดชา พระเอกหนุ่มหล่อออร่าพุ่ง ในละคร “เวลากามเทพ” ทางช่องวัน 31 รับบทบาท “ธาม” ผู้ชายที่มีปมรักในใจ ผ่านการเคี่ยวเข็ญอย่างหนักหน่วงประกบคู่เฟิร์น–นพจิรา นางเอกสาว เกิดกระแสจิ้นแรงจนถูกอกถูกใจแฟนๆ ฮอตเกินเบอร์ขนาดนี้ “คนดังนั่งคุย” เปิดพื้นที่ต้อนรับหนุ่มตรี ดีกรี “พระเอกสายถอด” น่ากอด มาอัปเดตชีวิตและเปลือยใจกันสักหน่อยว่า หล่อๆแบบนี้โสดหรือไม่โสด?!!บทบาทได้รับยากยังไง “ผมรับบทเป็นธามครับ จะเป็นคนกวนแสบ เอาแต่ใจ ขี้เล่น บทนี้มีหลายมิติ เวลาเล่น คนดูจะคิดไม่ถึงในสิ่งที่เค้าทำแน่นอน ตอนเห็นบทครั้งแรกคือยากมาก ด้วยตัวบทยาก ดราม่ายากกว่าเดิม วิธีเล่นก็ยากกว่าเดิม มีแต่คำว่ายากเต็มไปหมด แต่คำว่าท้าทายก็ตามมา เพราะถ้าทำได้ ผ่านได้ คือเราเอาชนะสิ่งที่เรารู้สึกว่ายากมาได้แล้ว หนักๆจะยากในเรื่องของการแสดงความรู้สึก ต้องแสดงตรงกันข้ามกับข้างใน ในใจเราเศร้าแต่ข้างนอกแฮปปี้ รักแต่ต้องทำเป็นไม่รัก ไม่รักแต่ยิ่งรัก ตัวบทธามจะเป็นตัวเดินเรื่อง พาไปเจอสิ่งต่างๆ อารมณ์แต่ละซีนซับซ้อน ไม่ได้เป็นในทางเดียวกัน มีกราฟของตัวละครที่หนักเบา คนที่เล่นกับเราก็ต้องรับส่งกันให้ได้จังหวะ เหมือนการตีปิงปอง คุณตบ ผมรับ คุณขึ้น ผมลง สลับกันครับ”ทางคุณบอย– ถกลเกียรติ ลงมาติวเข้ม เราโดนหนักเรื่องอะไร “ตอนแรกน้ำเสียง บางทีสูงแล้วเหิน การพูด ความคิด โดนปรับจูนโดยการแอ็กติ้ง เพื่อทำให้ธรรมชาติมากขึ้น โดนเคี่ยวหนักมาก เราเวิร์กช็อปกันนาน 2 เดือน ก็ 20-30 ครั้ง ก่อนลงสนามจริง พอต้องหยุดเพราะโควิด ก็มาเวิร์กช็อปทางซูม เล่นอารมณ์กับคู่เล่นเราผ่านซูม ก็แอบมีความลำบากนะ” มีเสียงชื่นชมจากพี่บอยบ้างมั้ย? “มีครับ เวลาได้รับคำชมว่าซีนนี้ดี ก็เป็นกำลังใจ เป็นพลังบวกให้เรา พี่บอยจะบอกเลยว่า เล่นแล้วรู้สึกได้รับพลังงาน จังหวะดี พลังของผม ของนักแสดงทุกคนมาเลยครับ” ได้ข่าวฉากเลิฟซีนก็ได้เรื่องเลย “เลิฟซีนหนักสุดในทุกเรื่องที่เล่นมา รุนแรง (หัวเราะ) แต่ก็มีหนักเบาตามสถานการณ์เรื่องราวมากกว่า ก็จะมีกับพี่ไอซ์-อธิชนันท์ แล้วก็กับนางเอก เฟิร์น-นพจิรา กับเฟิร์นก็เขิน เกร็งๆ เพราะเป็นเพื่อนกัน เข้าช่องมารุ่นๆเดียวกัน ซึ่งพอเล่นครั้งแรกผ่านไปได้ ครั้งที่สองก็สบายขึ้น เรื่องนี้เลิฟซีนไม่ได้เยอะมากไป แต่ได้เรื่องอยู่ ผมก็จะขอโทษเค้าก่อน ไม่อยากเล่นเยอะ เกรงใจเค้าเป็นผู้หญิง ก็จะบอกเลย ครั้งนี้เล่นจริง เอาจริงแล้วนะ เพราะอยากให้น้อยครั้งแล้วผ่านเลย แต่ออกมาแล้วดีที่สุด” ร่วมงานกับเฟิร์นเป็นยังไงบ้าง “ผมเรียกเฟิร์นว่าทอมบอย เค้ามีความเป็นผู้ชาย ห้าวๆ มุมผู้หญิงน้อยคนจะเห็น แต่ผมเห็นนะ เค้าน่ารักมุ้งมิ้งบ้าง แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี จริงจัง เต็มที่กับงานที่ทำ ในละครเวลาเล่นเข้าคู่กันคือหวาน ฉ่ำครับ แต่บางทีก็ขำเวลาเช็กเทป ตลกกันเอง เราหวานกันขนาดนี้เลยเหรอ”เป็นพระเอกสายถอดโชว์หุ่นแซ่บ “ก็โชว์แทบทุกเรื่อง (หัวเราะ) แต่เราตั้งใจออกกำลังกายมา ไม่ได้มาง่ายๆ ก็แอบโชว์นิดนึงครับ”กลัวคนดูเบื่อมั้ย? “กลัวเหมือนกัน เพราะถอดบ่อย แต่ก็พยายามดูแลให้ดีขึ้นอยู่ตลอด ก็ฟิตมาเยอะ ช่วงโควิดที่ผ่านมาก็หยุดยาว ถ้าผมไม่เข้าฟิตเนส ผมจะผอมจนหน้าตอบเลย ก็ถูกให้ไปเพิ่มโซเดียม เพราะผอมมาก จาก 75 กิโล เหลือ 68 กิโล แล้วผมสูง 186 ซม. เลยต้องทำให้บาลานซ์”ในชีวิตจริงเจอความรักแบบที่ตัวละครธามเจอเราจะจัดการยังไง “ผมคงเสียใจพร้อมกับคำถามมากมาย และอยากรู้เหตุผล และถ้าเป็นชีวิตจริงผมก็คงเลือกบอกครอบครัวว่า คนที่จะมาแต่งงานกับพี่เราคือแฟนเรา คงไม่เก็บเรื่องนี้เงียบไว้คนเดียวครับ” ความสนุกของละครเรื่องนี้ “องค์ประกอบทั้งหมดของเรื่องครับ ความรักในหลายรูปแบบ และการเติบโตของตัวละคร ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับเวลา ทุกตัวละครมีชีวิต เป้าหมาย สิ่งที่ต้องทำ คุณจะได้เห็นรักที่มีความครบรส รักหวานฉ่ำ รักประชดประชัน รักต้องห้าม รักและเข้าใจ”คนภายนอกมองเป็นหนึ่งในพระเอกลูกรัก “ไม่อยากรู้สึกแบบนั้นครับ ก็ทำให้เต็มที่ที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส ผมขอไปทีละขั้น ค่อยเป็นค่อยไป มองไปแบบนั้นก็กดดันกันเกินไป เดี๋ยวคนจะหมั่นไส้ครับ (หัวเราะ) ผมก็คนทำงานคนนึง ที่รักในการแสดง ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วเต็มที่ครับ”เวลามีคนมาเรียกว่าพระเอก “ดีใจครับ ขอบคุณที่ให้คำนำหน้าเราเป็นพระเอก ลึกๆภูมิใจที่เค้าให้เกียรติเรา พอมีคำนี้ก็กดดัน เพราะคนจะมอง พระเอก นางเอก เหมือนเป็นตัวแบกทั้งเรื่อง ที่ต้องแบกความหวังของคนทั้งเรื่องไว้ แต่มวลรวมทั้งหมดของละครก็อยู่ที่ทีมนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับ ทุกส่วนที่ทำให้งานออกมาดี พระเอกก็เป็นคำที่บอกถึงหน้าที่ของละครมากกว่า ผมไม่ได้ยึดติด ทำหน้าที่นักแสดงให้ดี เพราะเราเดินทางเส้นนี้แล้ว รักกับสิ่งที่ทำแล้ว ก็ต้องเดินไปข้างหน้า และทำให้ดีที่สุดครับ”บางคนหลงไปกับคำว่าพระเอกเพราะแวดล้อมเข้ามาอวย “ผมไม่มีครับ เพราะส่วนใหญ่จะโดนว่าไม่หล่อ (หัวเราะ) แต่เราไม่ได้หลงกับสิ่งนั้น เราก็รู้ว่าเราเป็นใคร ทำอะไร มีหน้าที่อะไร เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก หล่อหรือไม่หล่อก็แล้วแต่มุมมองคน แต่เวลาคนชื่นชม เราก็ขอบคุณ แล้วก็ต้องพัฒนาตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดีกว่าเดิม”พอมีคำบูลลี่เข้ามา? “แอบเซ็งบ้าง (หัวเราะ) ชีวิตจริงผมไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แต่เข้าใจว่าทำงานตรงนี้ เราต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆให้ได้แล้วคุณจะจัดการตรงนั้นยังไง แต่สำหรับผมก็ฟัง แต่ก็หาวิธีปล่อยออกไปให้เร็วที่สุด”ก้าวข้ามยังไง? “เวลาเจอเรื่องบูลลี่ไม่ค่อยได้บอกใคร ครอบครัวก็ไม่ได้พูด เราก็เก็บไว้คนเดียว เยียวยาตัวเอง ลืมๆไป (หัวเราะ)”ให้คะแนนความหล่อ “เต็ม 10 ให้สัก 7 ที่เหลือขอเป็นหล่อที่ฝีมือครับ (หัวเราะ)” อัปเดตชีวิตหลังหายโควิด ฟื้นฟูร่างกายยังไงบ้าง “ตอนที่รู้ว่าติด ไม่มีเวลาได้ตกใจเลย เพราะผมรู้สึกแสบคอ พอจิ้มมาตรวจก็เป็นเลย ก็อยู่ Hospitel ประมาณ 10 วัน แต่ไม่ได้มีอาการอะไร รู้สึกปกติ ตอนนี้ก็ตั้งการ์ดสูง สูงกว่าเดิม ระวังกว่าเดิม แต่ผมไม่มีอาการลองโควิดอะไรนะ หรือเพราะเราถ่ายละครเหนื่อยอยู่แล้ว ใช้พลังจนเหนื่อยอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึก (หัวเราะ) ตอนนี้คือติดง่ายมาก เวลาออกมาทำงานก็แอบกลัวเบาๆ กลัวจะเอากลับไปติดครอบครัว ก็อยากให้ทุกคนไม่ประมาท การ์ดห้ามตก ดูแลตัวเอง พักผ่อนเยอะๆ บางอย่างสึกหรอแล้วซ่อมไม่ได้”พูดถึงความรักหน่อยเป็นยังไงบ้าง “ความรักปกติครับ เค้าเป็นคนนอกวงการ ก็คบกันมา 6-7 ปี ที่ไม่ค่อยลงรูปในโซเชียล ในมุมผมก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเค้าด้วยไม่อยากรบกวนสิทธิของเค้า แต่ก็ไม่ได้ปิดอะไรนะ ต้องให้เกียรติกันและกัน เราไม่ได้โชว์ แต่เราก็ไม่ได้ปิดว่าเราไม่มี” มีคุยเรื่องอนาคตมั้ย? “ก็มีครับ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดจริงจัง ขอทำงานก่อน”เค้าเข้าใจเรามั้ย? “เค้าเข้าใจ ให้เกียรติเราให้เกียรติกับงานเรา สิ่งที่เรารักด้วย”มุมมองความรักล่ะ? “ความเข้าใจ เสียสละ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ”อวดหุ่นในละคร แฟนแซวมั้ย? “ไม่แซว เพราะเค้าไม่ชอบกล้ามใหญ่ๆ (หัวเราะ)”เค้าเติมเต็มความสุขเรายังไง? “คุยกัน ให้กำลังใจกัน แบบง่ายๆ เลย เพราะเรารู้จักกันมานานแล้ว เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ให้กำลังใจ ให้พลังบวกครับ” มองอนาคต อยากมีครอบครัวแบบไหน “อยากมีครอบครัวที่ไม่ใช่แบบที่เราโตมา เพราะเราโตมาแบบพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ผมไม่เคยรู้สึกว่าผมขาด หรือต้องการให้พ่อแม่อยู่ด้วยกัน หรือเก็บกดอะไรนะ แต่ถ้าให้เลือก ผมก็อยากให้ครอบครัวที่ผมจะสร้างเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ครับ”เป้าหมายในชีวิต “ผมอยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่ใช่เรื่องความดัง ชื่อเสียง แต่อยากให้งานของเราให้ความสุขคนดู แฟนละครจริงๆ มอบอรรถรสในการชม มีความสุขกับผลงานที่ผมทำ ยิ่งถ้างานที่เรารักและทำ ประสบความสำเร็จ ทำแล้วได้ผลรับที่ดี หรือได้รางวัลการันตี ก็ชี้วัดว่าเราทำอาชีพนี้ได้ดีครับ เป็นพลังของความตั้งใจครับ”.เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยานเม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ