สำหรับคนวงการข่าวของทีวีเมืองไทยในช่วงนี้ ทุกสายตาโฟกัสไปที่การกลับมาของ “ตัวพ่อกรรมกรข่าว” อย่าง สรยุทธ สุทัศนะจินดาตลอดระยะเวลาของการเป็นผู้ต้องขัง พิธีกรรายการข่าววัย 55 ปี ไม่เคยปล่อยตัวปล่อยเวลาไปอย่างไร้ค่า เขายังขัดเกลาทักษะการอ่านข่าวอย่างต่อเนื่องกับบทบาทใหม่พิธีกรข่าวรายการ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ” ทำประโยชน์ให้แก่กรมราชทัณฑ์และผู้ต้องขังมากมายความเป็น “ตัวพ่อกรรมกรข่าว” ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนแค่เวทีเท่านั้นพอมีข่าวออกมาว่า สรยุทธ จะได้รับการพักโทษ ก็เกิดกระแสปั่นป่วน มีการพยายามติดต่อขอเชื้อเชิญจากหลายสถานีโทรทัศน์ด้วยกัน บ้างก็มีข่าวเล็ดรอดออกมา บ้างก็เก็บงำอย่างเงียบเชียบคำตอบที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อวันที่ 14 มี.ค.64 สรยุทธได้รับการพักโทษพ้นจากประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คนข่าวช่อง 3 แห่กันไปต้อนรับอย่างอบอุ่น ขณะเดียวกัน สรยุทธก็แสดงท่าทีชัดเจนว่ายังเป็นกรรมกรข่าวของช่อง 3 ไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะพ้นเรือนจำออกมาแล้ว แต่สรยุทธ ยังคงไม่ลืมเพื่อนผู้ต้องขัง เขายังทำหน้าที่พิธีกรเล่าข่าวรายการ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ” เหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนสตูดิโอมานั่งที่ช่อง 3 แทน ซึ่งสามารถรับชมได้ทางแฟนเพจของ สรยุทธขณะเดียวกัน สรยุทธยังไม่หยุดเคลื่อนไหว โดยมานั่งเก้าอี้เป็นที่ปรึกษา และซุ่มวางแผนปรับเพิ่มศักยภาพรายการข่าวดีเดย์ต้นเดือน พ.ค. ข่าววิก 3 โฉมใหม่จะเริ่มขับเคลื่อน พิธีกรข่าวหลักจะมีการขยับปรับเปลี่ยนเก้าอี้เพื่อความเหมาะสมโดย ไก่-ภาษิต จะหลีกทางให้เจ้าของเดิม สรยุทธ มานั่งที่ “เรื่องเล่าเช้านี้” ควบกับ “เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์” ส่วน ไก่-ภาษิต จะไปอ่านข่าวที่ “เรื่องเด่นเย็นนี้”ขณะที่ เอ-ดนยกฤต จะปักหลัก “ขันข่าวเช้าตรู่” คุยข่าวแบบชาวบ้านๆในสไตล์ที่ถนัดต่อไป กิตติ สิงหาปัด ก็ยังจัดรายการ “ข่าวสามมิติ” เหมือนเดิม และพิธีกรข่าวขวัญใจคนใหม่ของชาวช่อง 3 อย่าง หนุ่ม-กรรชัย ยังนั่งเก้าอี้ที่ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ได้อย่างเหนียวแน่นครอบครัวข่าว 3 โฉมใหม่จะไฉไลกว่าเดิมมั้ย อีกไม่กี่วันก็คงได้เห็นกัน.‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com